วิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ และประธาน สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของพรรค ต่อการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรม จำนวน 5 ฉบับ ว่า พรรคเคยเสนอไปแล้ว และมีการออกมาตั้งข้อสังเกตว่าจะช่วยคนนั้น คนนี้ ซึ่งไม่เป็นความจริง เราเพียงแค่ต้องการให้การเมืองเดินหน้าไปได้ โดยไม่นิรโทษกรรมคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตหรือความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่เพื่อให้สามารถเดินไปได้ เราจึงถอนร่างของพรรคเพื่อไทยออกมา ทำให้ขณะนี้จะมีการพิจารณาอยู่ 5 ร่าง
ย้ำว่า จุดยืนของเพื่อชัดเจนว่าไม่เอาร่างที่มีการนิรโทษกรรมการกระทำความผิดเกี่ยวกับมาตรา 112 โดยจะยึดร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นหลัก เพราะเราต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ออกมาให้สำเร็จ เพื่อสร้างความสามัคคีของคนในชาติ ช่วยคนที่โดนคดีจากการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองให้จบ
“อย่าไปทะเลาะเบาะแว้ง เพราะความขัดแย้งทางการเมือง 20 กว่าปีที่ผ่านมา ไม่มีใครได้อะไร มีแต่ความเสียหาย จึงอยากให้นิรโทษกรรมให้จบ เราทำเพื่อเสริมสร้างสันติสุข เลิกแล้วต่อกัน และมาร่วมกันเดินหน้าประเทศ”
— วิสุทธิ์ กล่าว
‘วิสุทธิ์’ ย้ำโควตารองสภาฯ 2 ยังเป็นของ ‘พท.’ ชี้หากได้จริงเก้าอี้นี้เป็นของ ‘สส.อีสาน’
ส่วนการโหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 หลัง ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ออกจากตำแหน่ง วิสุทธิ์ ยอมรับว่าด้วยเสียงที่ปริ่มน้ำ ยังมีบางกลุ่มหรือบางพรรคอยากได้ แต่ยืนยันว่าขณะนี้ยังเป็นโควตาของพรรคเพื่อไทยอยู่ แต่ต้องให้ผู้ใหญ่ในพรรคที่ไปดีลกัน เขาไปคุยกันให้จบก่อน ไม่มีปัญหา เพราะการเลือกรองประธานสภาฯ ใช้เวลาไม่มาก และหากพรรคเพื่อไทยได้ ต้องเป็นโควตาของภาคอีสาน เพราะภาคเหนือมี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แล้ว
‘วิสุทธิ์’ รับเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำจริง แต่ถ้า ‘สส.-รมต.’ มีความรับผิดชอบ ก็ผ่านได้ จ่อกางชื่อคนหนีประชุมให้สื่อ-ปชช.รู้กำพืด กร้าวถ้าเข้าประชุม 2 วันต่อสัปดาห์ยังทำไม่ครั้งหน้าก็อย่าเป็นเลย
ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านมองว่า การที่รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ออกจากการพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา เนื่องจากกลัวเสียงไม่เพียงพอ
วิสุทธิ์ มองว่า เป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าเสียงเราพอ หากรัฐมนตรีที่เป็น สส. รวมถึงสส.รัฐบาลทั้งหมดมาประชุม เสียงพออยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าเสียงฝ่ายรัฐบาลปริ่มน้ำ ย้ำว่าหากรัฐมนตรีที่เป็น สส. รวมถึงสส.รัฐบาลทั้งหมด อย่างไรก็โหวตกฎหมายผ่าน แม้จะผ่าน 10 หรือ 20 เสียงก็ถือว่าผ่าน ไม่เป็นอะไร หากทุกคนมีความรับผิดชอบ มีวินัยในตัวเอง สส.ทุกคนมาทำหน้าที่ในสภาฯ ก็ไม่น่าเป็นห่วง
“เหมือนที่ผมเคยพูดไปหากวันไหนที่องค์ประชุมสภาฯ ล่ม ก็ขอให้มีการเปิดชื่อสส.คนไหนบ้างที่โดหรือประชุมสภา โดยไม่เว้นว่าจะเป็นพรรคไหนรวมถึงพรรคเพื่อไทยด้วย ประชาชนจะได้รู้ว่าแค่สัปดาห์ละสองวันก็มาทำงานไม่ได้ ต่อไปก็อย่าเป็นเลย ประชาชนจะได้รู้กำพืดว่าใครเป็นอย่างไร”
— วิสุทธิ์ กล่าว