‘วันนอร์’ ชี้ รัฐบาล ‘เสียงปริ่มน้ำ’ สภาฯ ก็เดินหน้าได้

20 มิ.ย. 2568 - 04:09

  • ‘วันนอร์’ ชี้เสียงปริ่มน้ำ ผ่านมาหลายยุค สภาฯ ก็เดินหน้าได้ ลั่น ไม่ก้าวก่ายฝ่ายบริหารแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ชี้ เปิดสมัยประชุมอาจมีสมาชิกยกขึ้นมาถก

  • มองรัฐบาลอายุยาวหรือสั้นอยู่ที่ฝ่ายบริหาร ยัน ‘คนนอกแคนดิเดต’ ไม่มีสิทธิเป็นนายกฯ

  • เตรียมเลือก ‘รอง 2’ โดยเร็ว เพื่อแบ่งเบาหน้าที่

‘วันนอร์’ ชี้ รัฐบาล ‘เสียงปริ่มน้ำ’ สภาฯ ก็เดินหน้าได้

วันมูหะมัดนอร์​ มะทา​ ประธานสภาผู้แทนราษฎร​ กล่าวถึงกรณีสถานการณ์การเมืองขณะนี้ ที่เสียงสส.​ในสภา​ ของฝ่ายและรัฐบาลมีการปรับเปลี่ยนว่า การเมือง ก็เปลี่ยนไปตามวาระของการเมือง แต่สภามีหน้าที่ในการจัดการประชุมให้เกิดความสงบเรียบร้อย คิดว่า ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ก็คงเปลี่ยนแปลงในส่วนของรัฐบาล และสภาฯ ก็ต้องดำเนินการไปตามปกติ

ส่วน ‘เสียงปริ่มน้ำ’ จะทำให้การทำงานในสภาฯ ลำบากขึ้นหรือไม่​นั้น วันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า​ สภาฯ เคยผ่านมาหลายยุคหลายสมัย ทั้งที่มีเสียงข้างมากค่อนข้างเด็ดขาด เวลาบริหารก็อาจจะมีปัญหาได้เหมือนกัน และเสียงปริ่มน้ำก็เคยบริหารมาแล้ว ซึ่งก็มีปัญหา แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร สภาฯ ไม่เข้าไปก้าวก่ายกับฝ่ายบริหาร สภาฯ ทำหน้าที่ของสภาฯ เพื่อให้การบริหารดำเนินไปได้

ทั้งนี้ ที่มีการวิเคราะห์ว่า อายุรัฐบาลหรือสภาฯ อาจจะสั้น ไม่เกินปีนี้​ วันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศ ทางสภาฯ ก็บริหาร ไปตามบทบาทหน้าที่ของสภาฯ เท่านั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร อายุของรัฐบาลจะยาวหรือสั้น ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายบริหาร

เมื่อถามว่า จะมีคำแนะนำให้กับนายกรัฐมนตรีในการบริหารประเทศเกี่ยวกับประเด็นปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาอย่างไร​ วันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า​ ฝ่ายนิติบัญญัติ และประธานสภาฯ ไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายเรื่องการบริหารของรัฐบาลได้ เพราะต้องฟังเสียงประชาชน เพื่อที่จะรักษาอธิปไตยของประเทศ​ คิดว่า ฝ่ายที่ดูแลและเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ รวมทั้งรัฐบาลคงจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ ปัญหาไทยกัมพูชาจะมีการหยิบยกเข้าหารือในที่ประชุมสภาฯ หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม ยังไม่สามารถที่จะนำมาหารือในสภาฯ ได้ ดังนั้นในช่วงเปิดสมัยประชุม 4 เดือน ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป คิดว่า ประเด็นต่างๆ รวมทั้งปัญหาในประเทศ และปัญหาระหว่างประเทศ คงจะมีสมาชิกทั้งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล มาเสนอให้สภาฯ อภิปราย ซึ่งโดยปกติ เราก็ปฏิบัติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องรอให้เปิดสมัยประชุมสามัญก่อน​ ส่วนถ้ามีความสำคัญ ถึงขนาดรัฐบาลเห็นว่า ควรจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญ นั้นก็แล้วแต่ รับเป็นอำนาจของรัฐบาล

เมื่อถามถึง ตำแหน่ง ‘รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2’ ที่ว่างลงหลัง ภราดร​  ปริศนานันทกุล​ ลาออก​นั้น วันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า​ ฝ่ายเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะฟังเสียงจากวิปฝ่ายค้านและรัฐบาลว่า พร้อมกำหนดการเลือกเมื่อใด ซึ่งเรื่องนี้ ต้องเป็นเรื่องของสมาชิกสภาฯ​ เพราะถ้าไม่พร้อมหรือยังไม่ตกลงใจว่า ฝ่ายใดจะเสนออย่างไร ก็คงจะต้องรอก่อน คิดว่า เมื่อเปิดสมัยประชุม ในวันที่ 3 กรกฎาคม หากมีความพร้อม ก็สามารถเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ได้แต่หากไม่พร้อมอาจจะเป็นสัปดาห์ที่ 2 เพราะต้องเลือกเร่งด่วน เนื่องจากรองประธานคนที่ 2 จะมาช่วยในการบริหารสภาฯ และเป็นประธานในที่ประชุม

ส่วนจะเป็นโควตาของ ‘พรรคลำดับ 2’ ของฝ่ายรัฐบาลหรือไม่นั้น วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรื่องโควตาเป็นเรื่องภายในวิป แต่ข้อเท็จจริงคือต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นคนเลือก จะมีการเสนอแข่งขันหรือมีเพียงชื่อเดียวก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน แต่ครั้งที่แล้วมีการเสนอเพียงชื่อเดียว หากมีการเสนอ 2 คนต้องมีการลงคะแนน

วันมูหะมัดนอร์ ยืนยันอีกว่าว่า การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายค้านยังเปิดได้อยู่ ในสมัยการประชุมหน้า​ ส่วนถ้าจะต้องมีการต้องเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเดิมของพรรคการเมืองที่มียังสามารถใช้ได้อยู่ใช่หรือไม่นั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ยังคงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี 2560 คือ ต้องเป็นรายชื่อที่เคยเสนอต่อ​ กกต.แล้ว และยังมีชื่อค้างอยู่หลายคน ซึ่งต้องเอาชื่อนั้นมาเสนอหากมีการเลือกนายกรัฐมนตรี​ครั้งต่อไป เป็นการเลือกเฉพาะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จะไม่มีสมาชิกวุฒิสภามาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีเหมือนครั้งก่อน เพราะมาตรา 272 ที่ให้ สว. ร่วมเลือกนายกฯ ได้หมดวาระ 5 ปีไปแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐที่มีจำนวนสส.ลดลงเหลือไม่ถึง 25 คน ได้อยู่หรือไม่ สามารถใช้บัญชีแคนดิเดตเดิม คือ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ อยู่ได้หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์​ กล่าวว่า ได้ หากมีรายชื่อที่ให้ไว้กับกกต.​ก่อนเลือกตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็เสนอให้สภาฯ โหวตได้ ส่วนต้องกลับไปถามความสมัครใจของแคนดิเดตแต่ละคนด้วยหรือไม่นั้น พรรคไหนเสนอใครขึ้นมาก็ต้องมีการถามก่อนอยู่แล้วว่า มีความเต็มใจในการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็คงต้องถามเมื่อถามแล้วก็มาเสนอสภาฯ ตามรายชื่อเดิมที่มีอยู่

ส่วนจะเสนอรายชื่อ ‘คนนอก’ บัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญปี 60 ก่อนเลือกตั้งเราใช้บัญชีรายชื่อนี้เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าถ้าเลือกพรรคนั้นคนนั้นจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นก็ต้องให้ความเคารพ ความคิดเห็นของประชาชน ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วบทบัญญัติข้อนี้ไม่ได้ยกเลิกไป ยังใช้บัญชีเดิม ซึ่งยังมีอยู่หลายคน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์