ทอง พุ่งต่อไม่หยุด! YLG ปรับเป้าแตะ $3,200 รอลุ้นแผนภาษีทรัมป์

31 มี.ค. 2568 - 10:06

  • ทองแรงไม่หยุด! YLG เพิ่มเป้า $3,200 ทองไทยลุ้นทะลุ 51,500 บาท

  • ปัจจัยหนุนทอง! Safe Haven แข็งแกร่ง กังวล Trade War-ทรัมป์เตรียมประกาศภาษี 2 เม.ย. ธนาคารกลางซื้อต่อเนื่อง-ตะวันออกกลางตึงเครียด-SPDR สะสมทองเพิ่ม 59.42 ตัน

  • YLG แนะลงทุนระสั้น แนวรับ 3,074-3,055 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนทองไทยแนะนำเข้าซื้อได้ที่ 49,400-49,000 บาทต่อบาททองคำ

ylg_spdr_gold_tradewar_SPACEBAR_Hero_d5de4ce06b.jpg

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องจนทะลุเป้าหมายที่วายแอลจีให้ไว้ที่ 3,000-3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  ล่าสุดวายแอลจี ปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 3,150-3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์  หรือคิดเป็นทองคำแท่งไทยที่ 51,000-51,500 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณจากค่าเงินบาท 34 บาทต่อดอลลาร์)

ระยะสั้นราคาทองคำได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่องจากความกังวล 'นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal tariff)' ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมประกาศในวันที่ 2 เมษายนนี้  ในขณะที่หลายประเทศได้ส่งสัญญาณตอบโต้คืนเช่นกัน อาทิ 

สื่อของรัฐบาลจีน โพสต์ข้อความ  "หากสหรัฐฯ ตั้งใจทำลายผลประโยชน์ของจีน จะตอบโต้อย่างเด็ดขาด"  เช่นเดียวกับทางด้านคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศ “จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้แบบครอบคลุม ในวันที่ 3 เมษายน”

ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดการปรับฐานอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนบางส่วนจึงได้นำเงินลงทุนมาพักไว้ในสินทรัพย์ปลอดภัยโดยเฉพาะทองคำ และรวมไปถึงพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงในวันประกาศแผนภาษีดังกล่าว อาจต้องระมัดระวังการถูกขายทำกำไร หรือการ Sell on fact สลับออกมาด้วยเช่นกัน

ylg_spdr_gold_tradewar_SPACEBAR_Photo01_857f88212e.jpg
พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG

ขณะเดียวกันปัจจัยบวกด้านอื่น ๆ ที่สนับสนุนทองคำในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง ทั้งการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงการเข้าซื้อทองคำของกองทุน ETF ทองคำขนาดใหญ่ในปีนี้ โดยเฉพาะ  'SPDR Gold Shares' ที่กลับมาเข้าซื้อต่อเนื่องในปี 2568 รวมแล้วมากถึง +59.42 ตัน รวมถึงความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ตะวันออก กลางที่ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ล่าสุด ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ยังได้ขู่ทางอิหร่านว่าจะทำการทิ้งระเบิดและใช้มาตรการภาษีรอง (Secondary tariff) หากอิหร่านไม่ยอมบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของทองคำในปีนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วแบบไม่มีสลับพักฐาน จึงอาจทำให้มีข้อจำกัดในการปรับขึ้นต่อ แต่ยังเห็นว่าราคาทองคำยังเดินหน้าสู่ทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้นยังคงแข็งแกร่ง สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้น ควรรอให้ราคาย่อลงที่แนวรับ 3,074-3,055 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่หากหลุดบริเวณดังกล่าวแนะนำให้ระมัดระวังการพักฐานลงในระยะกลาง  ส่วนทองไทยแนะนำเข้าซื้อได้ที่ 49,400-49,000 บาทต่อบาททองคำ

อ้างอิง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์