สิ้นสุดการรอคอย! สำหรับซูเปอร์บิ๊กเซอร์ไพรส์ที่ ‘ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช’ ได้เปรยไว้ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ก่อนว่าจะมีการแถลงข่าวใหญ่ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ พร้อมเกริ่นไว้ว่าเรื่องที่จะพูดเป็นเหมือนการเด็ดดอกไม้ที่สะเทือนถึงดวงดาว เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับวงการตำรวจ
ล่าสุดวันนี้ (5 ต.ค.) ‘ทนายอนันต์ชัย’ พร้อม ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส’ ได้เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อร่วมกันแถลงข่าวซูเปอร์บิ๊กเซอร์ไพรส์
ประเด็นสำคัญของการแถลงข่าวครั้งนี้ คือทั้งคู่ได้ร่วมกันยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบเอาผิด ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และ ก.ตร. คนอื่นๆ ที่มีส่วนร่วมกับการลงมติแต่งตั้งให้ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล’ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 เนื่องจากเห็นว่ากระบวนการคัดเลือกไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงหลักอาวุโส ตามที่กฎหมายกำหนด และแม้ ‘เศรษฐา’ จะงดออกเสียง แต่ถือว่ามีความผิดด้วย เพราะเป็นผู้ที่เสนอชื่อของ ‘พล.ต.อ.ต่อศักดิ์’ เข้าสู่ที่ประชุม
‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ ยังชี้ให้เห็นว่า ‘นายกรัฐมนตรี’ ใช้อำนาจทางการเมืองในการครอบงำการแต่งตั้ง ผบ.ตร. ในครั้งนี้ โดยไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์ทางกฎหมาย และในฐานะที่เป็นอดีต ผบ.ตร. ก็ไม่ต้องการให้ใครมาทำลายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะมองว่าต้นเหตุการคอรัปชั่นส่วนใหญ่ มีจุดเริ่มต้นจากเรื่องการเมืองทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ‘ทนายอนันต์ชัย’ ยังเล่าย้อนให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้โทรมาปรึกษาและขอให้ช่วยเหลือกรณีที่ถูกค้นบ้าน และคดีที่ลูกน้องถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายเว็บพนัน และต่อมา ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าให้ทนายอนันต์ชัยเป็นผู้จัดการทางคดี
อีกทั้งในวันที่ 27 ก.ย. ที่เขา และ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ พร้อมลูกน้องของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อีก 8 คน ได้แถลงข่าวร่วมกัน ยังมีการยืนยันว่า การเป็นทนายความไม่จำเป็นต้องมีหนังสือแต่งตั้ง เพราะกระบวนการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของชั้นศาล
พร้อมยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยังพูดคุยกันปกติไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ส่วนที่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ บอกว่ายังไม่ได้เซ็นตั้งทนายความเพราะตัวเองไม่มีคดีอะไร ‘ทนายอนันต์ชัย’ ยอมรับว่าไม่มีการแต่งตั้งทนายจริง แต่พฤติการณ์ทั้งหมดชัดเจนว่าเขาเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเรื่องคดี
‘ทนายอนันต์ชัย’ ยังอ้างว่ามี ‘ผู้ใหญ่ที่อยู่ในรัฐบาล’ โทรมาขอให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ห้ามไม่ให้เขาทำคดีต่อ และห้ามไม่ให้สัมภาษณ์ แต่เขาไม่หยุด เพราะคนสั่งไม่ใช่พ่อ และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดเหตุการณ์วันนี้ และเป็นที่มาของการเปลี่ยนฮ่องเต้ จาก ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ เป็น ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์’ พร้อมบอกว่า “ฮ่องเต้ผมไม่มีสั่งถอยเหมือนบิ๊กโจ๊กหรอกครับ”
