ในขณะที่ชาวไทยกำลังขวัญผวากับการหายไปของ Caesium-137 และความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่กระจายของกัมมันตรังสีของมัน เป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องตระหนักว่าพิษร้ายของกัมมันตรังสีจากธาตุนี้จะส่งผลต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง ต่อไปนี้เป็นการสรุปผลกระทบต่อร่างกายหากได้รับกัมมันตรังสีของ Caesium-137 จากบทหนังสือเรื่อง “การรักษาภาวะพิษสารเคมี 1” เรื่อง “Caesium-137” โดยนายแพทย์ฤทธิรักษ์ โอทอง ภาควิชาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนวมิทราธิวาส
การสัมผัสกับกัมมันตรังสีทำให้ร่างกายเจ็บป่วยตั้งแต่เบาๆ จนถึงเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าเราสัมผัสกับกัมมันตรังสีมากแค่ไหน โดยมีอัตราการวัดที่เรียกว่า เกรย์ หรือ Gray (Gy) และกลุ่มอาการเฉียบพลันจากรังสี (Acute Radiation Syndrome หรือ ARS) จะเกิดขึ้นได้เมื่อรับสังสี 0.7 Gy ขึ้นไป
การสัมผัสกับกัมมันตรังสีทำให้ร่างกายเจ็บป่วยตั้งแต่เบาๆ จนถึงเสียชีวิต ขึ้นอยู่กับว่าเราสัมผัสกับกัมมันตรังสีมากแค่ไหน โดยมีอัตราการวัดที่เรียกว่า เกรย์ หรือ Gray (Gy) และกลุ่มอาการเฉียบพลันจากรังสี (Acute Radiation Syndrome หรือ ARS) จะเกิดขึ้นได้เมื่อรับสังสี 0.7 Gy ขึ้นไป

อาการที่จะเกิดกับระบบเลือด
(หากสัมผัสรังสี 0.3-0.7 Gy)- ระยะที่ 1 คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ใน 1 ชั่วโมง - 2 วัน
- ระยะที่ 2 เซลล์ต้นกำเนิดในกระดูกตายไปเรื่อยๆ
- ระยะที่ 3 เม็ดเลือดแดงและขาวลด เสียชีวิตใน 2-3เดือน
อาการที่จะเกิดกับระบบทางเดินอาหาร
(หากสัมผัสรังสี 10 Gy)- ระยะที่ 1 คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ใน 2-3 ชั่วโมง
- ระยะที่ 2 เซลล์ต้นกำเนิดและเยื่อบุอาหารตายไปเรื่อยๆ
- ระยะที่ 3 เบื่ออาการ อ่อนเพลีย มักเสียชีวิตใน 2 สัปดาห์
อาการที่จะเกิดกับหัวใจหรือระบบประสาท
(หากสัมผัสรังสีมากกว่า 50 Gy)- ระยะที่ 1 วุ่นวายไม่ค่อยรู้ตัว ผิวไหม้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
- ระยะที่ 2 กลับมาปกติ แต่แค่ไม่กี่ชั่วโมง
- ระยะที่ 3 อาเจียนท้องเสีย ชัก โคม่า มักมักเสียชีวิตใน 3 วัน
อาการที่จะเกิดกับผิวหนัง
- ผิวแดง ผิวลอก ผมหรือขนร่วงอาจเกิดขึ้นใน 2-3 ชั่วโมง
- ผิวกลับมาเป็นปกติสักพัก แล้วกลับมาแดงขึ้นเรื่อยๆ
- อักเสบเรื้อรัง ผิวตาย ต่อมเหงื่อถูกทำลาย