พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบ รัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คดีทุจริตเรียกรับสินบนโยกย้ายตำแหน่ง ว่า เบื้องต้น สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งหนังสือเชิญไปยังหน่วยงาน, บุคคลที่มีชื่ออยู่บนหน้าซองใส่เงิน รวมถึงหัวหน้าหน่วย มาให้ปากคำในฐานะพยาน หลังพบอยู่ในห้องทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ รวมถึงผู้ที่อาจมีข้อมูล ไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งในนั้นมีรายชื่อของ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ด้วย
พร้อมทั้งกำชับพนักงานสอบสวนให้ส่งหนังสือเชิญทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ส่วนจะเข้ามาให้ข้อมูลเมื่อใด ขึ้นอยู่กับผู้ที่ถูกเชิญว่าจะสะดวกมาเมื่อใด ส่วนผู้ที่อยู่พื้นที่ห่างไกล ปปป.ยินดีออกค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง หรือตั๋วเครื่องบินให้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งขอความร่วมมือให้พยานมาให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวน เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่เอาผิดกับผู้ต้องหา ถือว่าเป็นการช่วยกันปราบปรามการทุจริต เพื่อให้เงินงบประมาณถูกนำไปใช้ให้ถูกทาง ในการพัฒนาและอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แทนที่จะต้องมาจ่ายส่วยให้กับผู้บังคับบัญชา โดยจะช่วยดูแลความปลอดภัยคุ้มครองพยาน หากมีการถูกข่มขู่จากการที่เข้ามาให้ข้อมูล
นอกจากนี้ ยังมีการสืบสวนเชิงลึกเรื่องเส้นทางการเงิน เพื่อนำข้อมูลมาประกอบคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ชี้มูลต่อไป
ด้าน วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ชี้แจงกรณีออกคำสั่งโยกย้ายการทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ ล่าช้ากว่านายกรัฐมนตรี เป็นเพราะมีภารกิจสำคัญ จึงไม่ทันลงนามในคำสั่ง ส่วนการดำเนินการสอบสวน จะทำไปตามระเบียบและกฎหมาย ผิดว่าไปตามผิด โดยเตรียมสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จากผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งหมด 16 สำนัก
ส่วนกรณีที่หัวหน้าหน่วยงานสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฏรายชื่อบนซองเงินของกลางนั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะตรวจสอบด้วย ในตำแหน่งที่มีการโยกย้ายไปแล้ว ปลัดกระทรวงฯ จะดำเนินการพิจารณาทบทวนต่อไป พร้อมย้ำว่า ทุกครั้งที่มีการโยกย้ายในระดับผู้อำนวยการสำนัก จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรม หากรัฐมนตรีลงไปดูการโยกย้ายระดับผู้อำนวยการสำนัก หัวหน้าหน่วยงาน คงไม่มีใครเชื่อว่า ลงไปดูเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
พร้อมทั้งกำชับพนักงานสอบสวนให้ส่งหนังสือเชิญทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ ส่วนจะเข้ามาให้ข้อมูลเมื่อใด ขึ้นอยู่กับผู้ที่ถูกเชิญว่าจะสะดวกมาเมื่อใด ส่วนผู้ที่อยู่พื้นที่ห่างไกล ปปป.ยินดีออกค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทาง หรือตั๋วเครื่องบินให้ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งขอความร่วมมือให้พยานมาให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวน เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่เอาผิดกับผู้ต้องหา ถือว่าเป็นการช่วยกันปราบปรามการทุจริต เพื่อให้เงินงบประมาณถูกนำไปใช้ให้ถูกทาง ในการพัฒนาและอนุรักษ์สัตว์ป่าและทรัพยากรธรรมชาติ แทนที่จะต้องมาจ่ายส่วยให้กับผู้บังคับบัญชา โดยจะช่วยดูแลความปลอดภัยคุ้มครองพยาน หากมีการถูกข่มขู่จากการที่เข้ามาให้ข้อมูล
นอกจากนี้ ยังมีการสืบสวนเชิงลึกเรื่องเส้นทางการเงิน เพื่อนำข้อมูลมาประกอบคดีด้วยเช่นกัน ซึ่งต้องเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ชี้มูลต่อไป
ด้าน วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ชี้แจงกรณีออกคำสั่งโยกย้ายการทำงานของอธิบดีกรมอุทยานฯ ล่าช้ากว่านายกรัฐมนตรี เป็นเพราะมีภารกิจสำคัญ จึงไม่ทันลงนามในคำสั่ง ส่วนการดำเนินการสอบสวน จะทำไปตามระเบียบและกฎหมาย ผิดว่าไปตามผิด โดยเตรียมสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จากผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งหมด 16 สำนัก
ส่วนกรณีที่หัวหน้าหน่วยงานสังกัดกรมอุทยานฯ ที่ปรากฏรายชื่อบนซองเงินของกลางนั้น คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะตรวจสอบด้วย ในตำแหน่งที่มีการโยกย้ายไปแล้ว ปลัดกระทรวงฯ จะดำเนินการพิจารณาทบทวนต่อไป พร้อมย้ำว่า ทุกครั้งที่มีการโยกย้ายในระดับผู้อำนวยการสำนัก จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรม หากรัฐมนตรีลงไปดูการโยกย้ายระดับผู้อำนวยการสำนัก หัวหน้าหน่วยงาน คงไม่มีใครเชื่อว่า ลงไปดูเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา
