กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รายงานสรุปผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 2-8 ธันวาคม 2565 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบข้อความที่เข้ามาจำนวน 5,131,164 ข้อความ
โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 222 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 184 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 38 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 103 เรื่อง
ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 49 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 39 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ จำนวน 11 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ จำนวน 4 เรื่อง
สำหรับข่าวปลอมทั้ง 4 กลุ่ม มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโควิค-19 จำนวน 7 เรื่อง
และเมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจสูงสุด 10 อันดับ ระหว่างวันที่ 2-8 ธันวาคม ดังนี้
อันดับที่ 1 เรื่อง กรมสรรพากรโทรศัพท์เรียกจ่ายหนี้ภาษีอากรค้างชำระ
อันดับที่ 2 เรื่อง ห้ามสแกนจ่ายเงินค่าปรับ ผ่านใบสั่งเจ้าหน้าที่พนักงานเด็ดขาด
อันดับที่ 3 เรื่อง คลื่นแผ่จากเสาส่งโทรศัพท์มือถือและคลื่น WiFi เป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการก่อมะเร็ง
อันดับที่ 4 เรื่อง 37 จังหวัด เตรียมรับมือพายุกระหน่ำไทย แรงที่สุดในปี 2565 ความแรง 160 km.hr
อันดับที่ 5 เรื่อง กัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักเฉียบพลันได้
อันดับที่ 6 เรื่อง กรมการจัดหางานรับสมัครงานออนไลน์ และงานพาร์ทไทม์ ผ่านเพจ BLOODHUNTER
อันดับที่ 7 เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดรับนักลงทุนหน้าใหม่
อันดับที่ 8 เรื่อง รักษาโรคหวัด ด้วยการดื่มน้ำผสมเบคกิ้งโซดา
อันดับที่ 9 เรื่อง เกาหลีเปิดรับแรงงานไทยทำไร่ส้ม
อันดับที่ 10 เรื่อง เดินไขว้เท้าช่วยให้หัวใจแข็งเเรง
“ดีอีเอส ตระหนักถึงผลกระทบของข่าวปลอมที่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างมาก ขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวปลอมที่มีการแพร่ระบาดในทุกช่องทางทั้งจากโชเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และเอสเอ็มเอส หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปรกติ ผ่านโชเชียลมีเดีย เอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ท่านสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ทวิตเตอร์ @AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87” นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าว
โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 222 ข้อความ แบ่งเป็นข้อความที่มาจาก Social listening จำนวน 184 ข้อความ และข้อความที่มาจาก Line Official จำนวน 38 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 103 เรื่อง
ทั้งนี้ ดีอีเอสได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจ เป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
กลุ่มที่ 1 ข่าวปลอมเรื่องนโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 49 เรื่อง
กลุ่มที่ 2 ข่าวปลอมเรื่องผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมาย จำนวน 39 เรื่อง
กลุ่มที่ 3 ข่าวปลอมเศรษฐกิจ จำนวน 11 เรื่อง
กลุ่มที่ 4 ข่าวปลอมเรื่องภัยพิบัติ จำนวน 4 เรื่อง
สำหรับข่าวปลอมทั้ง 4 กลุ่ม มีความเกี่ยวเนื่องกับเรื่องโควิค-19 จำนวน 7 เรื่อง
และเมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจสูงสุด 10 อันดับ ระหว่างวันที่ 2-8 ธันวาคม ดังนี้
อันดับที่ 1 เรื่อง กรมสรรพากรโทรศัพท์เรียกจ่ายหนี้ภาษีอากรค้างชำระ
อันดับที่ 2 เรื่อง ห้ามสแกนจ่ายเงินค่าปรับ ผ่านใบสั่งเจ้าหน้าที่พนักงานเด็ดขาด
อันดับที่ 3 เรื่อง คลื่นแผ่จากเสาส่งโทรศัพท์มือถือและคลื่น WiFi เป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการก่อมะเร็ง
อันดับที่ 4 เรื่อง 37 จังหวัด เตรียมรับมือพายุกระหน่ำไทย แรงที่สุดในปี 2565 ความแรง 160 km.hr
อันดับที่ 5 เรื่อง กัญชาช่วยบรรเทาอาการลมชักเฉียบพลันได้
อันดับที่ 6 เรื่อง กรมการจัดหางานรับสมัครงานออนไลน์ และงานพาร์ทไทม์ ผ่านเพจ BLOODHUNTER
อันดับที่ 7 เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดรับนักลงทุนหน้าใหม่
อันดับที่ 8 เรื่อง รักษาโรคหวัด ด้วยการดื่มน้ำผสมเบคกิ้งโซดา
อันดับที่ 9 เรื่อง เกาหลีเปิดรับแรงงานไทยทำไร่ส้ม
อันดับที่ 10 เรื่อง เดินไขว้เท้าช่วยให้หัวใจแข็งเเรง
“ดีอีเอส ตระหนักถึงผลกระทบของข่าวปลอมที่มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันของประชาชนอย่างมาก ขอให้ประชาชนอย่างหลงเชื่อข่าวปลอมที่มีการแพร่ระบาดในทุกช่องทางทั้งจากโชเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และเอสเอ็มเอส หากท่านได้รับการแจ้งข้อมูลที่ผิดปรกติ ผ่านโชเชียลมีเดีย เอสเอ็มเอส หรือทางโทรศัพท์ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ท่านสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย ทวิตเตอร์ @AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87” นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าว