



25 เม.ย. 66 ที่ศูนย์รับแจ้งความตำรวจสอบสวนกลาง ‘รัชพล ศิริสาคร’ ทนายความ ได้พา ‘มินตัน’ (มินตรา เชื้อวังคำ) เน็ตไอดอลสาวชื่อดังอายุ 23 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เพื่อแจ้งความและติดตามความคืบหน้าคดีถูก ‘ณัณธวัฒน์ มูณี’ อายุ 25 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัยติดตามคุกคาม โผล่ถ่ายรูปคู่รถ-อุปกรณ์จีพีเอส พร้อมเสนอศาลเพิกถอนสิทธิปล่อยตัว
หลังเคยแจ้งความไว้ บก.ปอท. เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 65 และ บก.ปอท. ได้จับกุมผู้ก่อเหตุ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ดำเนินคดี ในข้อหา ‘ครอบครองสื่อลามกเด็ก’ โดย กก.2 บก.ปอท. ได้แจ้งข้อหา ‘ปลอมเอกสารราชการ (ทะเบียนสมรสปลอม) และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา’ต่อมาวันที่ 22 พ.ย.65 ศาลมีคำพิพากษา จำคุก 3 เดือน โดยระบุ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ณัณธวัฒน์จึงได้รับการปล่อยตัว แต่ยังคงก่อเหตุคุกคามทางเพศผู้เสียหายซ้ำ
ทาง บก.ปอท.จึงออกติดตามตัว ก่อนที่บิดาของผู้ก่อเหตุจะพามามอบตัว เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.66) โดยแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือ ‘ใช้เอกสารราชการ (ทะเบียนสมรสปลอม) และโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พรบ.คอม ม.14 (1) ประกอบ วรรคท้าย’
จากนั้น ได้ส่งตัวณัณธวัฒน์ไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อออกหมายขัง โดยศาลฯ ได้อนุญาตให้ฝากขังณัณธวัฒน์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน โดยศาลฯ ก็ไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนเตรียมจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ ภายในวันพุธ ที่ 26 เม.ย.66
โดย ‘รัชพล’ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คดีที่ผู้เสียหายแจ้งความ ปอท.ไว้เมื่อปีที่แล้วที่ยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้เขาจึงพา ‘มินตรา’ มาติดตามและจะแจ้งความเพิ่ม ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า คนร้ายรายนี้ออกมาจากคุกและกลับมาก่อเหตุซ้ำ วันนี้จึงพามาแจ้งความเอาผิดในเรื่องการคุกคามเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าคดีเมื่อขึ้นศาลฯ แล้วตัดสินก็จะให้โอกาสรอลงอาญา แทนที่จะกลับตนเป็นพลเมืองดี แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก วันนี้จึงมาแจ้งความเพิ่มเติมและหารือเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีมาตรการอะไรที่ป้องกันการก่อเหตุซ้ำอีกหรือไม่
ทั้งนี้ ทนายความชื่อดังยังระบุต่อว่า การคุกคามรอบนี้คนร้ายใช้วิธีส่งคลิปสำเร็จความใคร่มาให้ผู้เสียหาย และภาพตัวเองเปลือยเห็นอวัยวะเพศ ถือเป็นการคุกคาม น่าจะเข้าข่ายผิด ป.อาญา ม.397 มีทั้งโทษจำและปรับ เป็นความผิดลหุโทษ ปรับแล้วก็ปล่อยตัวไป เรื่องนี้ทางผู้เสียหายไม่ประสงค์ให้แค่ปรับ ต้องการให้ส่งฟ้องศาลฯ
ขณะที่ ‘มินตรา’ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ทราบหลังจากที่ผู้ก่อเหตุออกมาก็โพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งเกี่ยวกับเธออยู่เรื่อยๆ หนักขึ้นถึงขั้นตามมาที่งานอีเวนต์ เพื่อยืนถ่ายรูปกับรถยนต์ที่ใช้เดินทาง ที่ไม่ทราบว่ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นคันไหน บอกด้วยว่าได้ติด จีพีเอส. ไว้ที่รถ พร้อมส่งจดหมายมาให้บอกว่าเดี๋ยวจะมาหาที่บ้าน จะไปไหนรู้หมด ทำให้เธอกังวลและไม่สบายใจ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุมักส่งข้อความมาทางเพจ แม้จะพยายามบล็อกแล้วก็ตาม ช่วงที่คุกคามหนักคือต้นเดือน เม.ย.นีี้
สำหรับท่าที่ของผู้ก่อเหตุ ขณะที่ไปงานอีเวนต์แม้ไม่เคยพูดสื่อสานโดยตรง แต่จะพยายามพาตัวเข้ามาใกล้ๆ และเปิดหน้ากากอนามัยให้เห็นใบหน้า เหมือนพยายามจะแสดงตัวว่ามาถึง ทั้งนี้ มินตราได้ฝากข้อความถึงเจ้าหน้าที่ว่า ขอร้องให้ตำรวจช่วยดำเนินคดี จะได้ทำให้คนร้ายรู้สึกเกรงกลัวกฎหมายบ้าง เพราะหลังจากได้รับการปล่อยตัวมาแล้วกลับมาทำอีกเหมือนกับไม่กลัวอะไรเลย
“ไม่รู้จะพูดอะไร มันมีหลายความรู้สึก มันเหนื่อยไม่รู้กี่ปีแล้วที่ต้องโดนคุกคามมาแบบนี้ แม้จะพยายามปล่อยผ่านแต่กลับมากระทำหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่แสดงออกมาว่าเรากลัวเขาจะได้ใจ คิดว่าเขาก็ไม่ได้ฟังคำตักเตือนของพ่อแม่เขา แต่พอเป็นข่าวและทราบว่าตำรวจติดตามตัว จึงยอมให้พ่อพามามอบตัวเมื่อวานนี้ ซึ่งมีคำพูดจากคุณย่าเขาว่าใครพูดอะไรเขาก็ไม่เคยฟัง” มินตรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายระบุว่า ยังพบว่ามีคนบนโลกโซเชียลฯ ตั้งกลุ่มแสดงความเห็นใจผู้ก่อเหตุบนเฟซบุ๊ก และมีการดูถูกเธอและให้กำลังใจคนร้ายรายด้วย ส่วนนี้เน็ตไอดอลชื่อดังจะปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
หลังเคยแจ้งความไว้ บก.ปอท. เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 65 และ บก.ปอท. ได้จับกุมผู้ก่อเหตุ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ดำเนินคดี ในข้อหา ‘ครอบครองสื่อลามกเด็ก’ โดย กก.2 บก.ปอท. ได้แจ้งข้อหา ‘ปลอมเอกสารราชการ (ทะเบียนสมรสปลอม) และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา’ต่อมาวันที่ 22 พ.ย.65 ศาลมีคำพิพากษา จำคุก 3 เดือน โดยระบุ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี ณัณธวัฒน์จึงได้รับการปล่อยตัว แต่ยังคงก่อเหตุคุกคามทางเพศผู้เสียหายซ้ำ
ทาง บก.ปอท.จึงออกติดตามตัว ก่อนที่บิดาของผู้ก่อเหตุจะพามามอบตัว เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.66) โดยแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม คือ ‘ใช้เอกสารราชการ (ทะเบียนสมรสปลอม) และโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พรบ.คอม ม.14 (1) ประกอบ วรรคท้าย’
จากนั้น ได้ส่งตัวณัณธวัฒน์ไปขออำนาจศาลอาญาเพื่อออกหมายขัง โดยศาลฯ ได้อนุญาตให้ฝากขังณัณธวัฒน์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน โดยศาลฯ ก็ไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามความเห็นของพนักงานสอบสวน ทั้งนี้พนักงานสอบสวนเตรียมจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ ภายในวันพุธ ที่ 26 เม.ย.66
โดย ‘รัชพล’ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า คดีที่ผู้เสียหายแจ้งความ ปอท.ไว้เมื่อปีที่แล้วที่ยังไม่มีความคืบหน้า วันนี้เขาจึงพา ‘มินตรา’ มาติดตามและจะแจ้งความเพิ่ม ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า คนร้ายรายนี้ออกมาจากคุกและกลับมาก่อเหตุซ้ำ วันนี้จึงพามาแจ้งความเอาผิดในเรื่องการคุกคามเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่าคดีเมื่อขึ้นศาลฯ แล้วตัดสินก็จะให้โอกาสรอลงอาญา แทนที่จะกลับตนเป็นพลเมืองดี แต่กลับมาก่อเหตุซ้ำอีก วันนี้จึงมาแจ้งความเพิ่มเติมและหารือเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะมีมาตรการอะไรที่ป้องกันการก่อเหตุซ้ำอีกหรือไม่
ทั้งนี้ ทนายความชื่อดังยังระบุต่อว่า การคุกคามรอบนี้คนร้ายใช้วิธีส่งคลิปสำเร็จความใคร่มาให้ผู้เสียหาย และภาพตัวเองเปลือยเห็นอวัยวะเพศ ถือเป็นการคุกคาม น่าจะเข้าข่ายผิด ป.อาญา ม.397 มีทั้งโทษจำและปรับ เป็นความผิดลหุโทษ ปรับแล้วก็ปล่อยตัวไป เรื่องนี้ทางผู้เสียหายไม่ประสงค์ให้แค่ปรับ ต้องการให้ส่งฟ้องศาลฯ
ขณะที่ ‘มินตรา’ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ทราบหลังจากที่ผู้ก่อเหตุออกมาก็โพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งเกี่ยวกับเธออยู่เรื่อยๆ หนักขึ้นถึงขั้นตามมาที่งานอีเวนต์ เพื่อยืนถ่ายรูปกับรถยนต์ที่ใช้เดินทาง ที่ไม่ทราบว่ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นคันไหน บอกด้วยว่าได้ติด จีพีเอส. ไว้ที่รถ พร้อมส่งจดหมายมาให้บอกว่าเดี๋ยวจะมาหาที่บ้าน จะไปไหนรู้หมด ทำให้เธอกังวลและไม่สบายใจ ซึ่งทางผู้ก่อเหตุมักส่งข้อความมาทางเพจ แม้จะพยายามบล็อกแล้วก็ตาม ช่วงที่คุกคามหนักคือต้นเดือน เม.ย.นีี้
สำหรับท่าที่ของผู้ก่อเหตุ ขณะที่ไปงานอีเวนต์แม้ไม่เคยพูดสื่อสานโดยตรง แต่จะพยายามพาตัวเข้ามาใกล้ๆ และเปิดหน้ากากอนามัยให้เห็นใบหน้า เหมือนพยายามจะแสดงตัวว่ามาถึง ทั้งนี้ มินตราได้ฝากข้อความถึงเจ้าหน้าที่ว่า ขอร้องให้ตำรวจช่วยดำเนินคดี จะได้ทำให้คนร้ายรู้สึกเกรงกลัวกฎหมายบ้าง เพราะหลังจากได้รับการปล่อยตัวมาแล้วกลับมาทำอีกเหมือนกับไม่กลัวอะไรเลย
“ไม่รู้จะพูดอะไร มันมีหลายความรู้สึก มันเหนื่อยไม่รู้กี่ปีแล้วที่ต้องโดนคุกคามมาแบบนี้ แม้จะพยายามปล่อยผ่านแต่กลับมากระทำหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่แสดงออกมาว่าเรากลัวเขาจะได้ใจ คิดว่าเขาก็ไม่ได้ฟังคำตักเตือนของพ่อแม่เขา แต่พอเป็นข่าวและทราบว่าตำรวจติดตามตัว จึงยอมให้พ่อพามามอบตัวเมื่อวานนี้ ซึ่งมีคำพูดจากคุณย่าเขาว่าใครพูดอะไรเขาก็ไม่เคยฟัง” มินตรา กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายระบุว่า ยังพบว่ามีคนบนโลกโซเชียลฯ ตั้งกลุ่มแสดงความเห็นใจผู้ก่อเหตุบนเฟซบุ๊ก และมีการดูถูกเธอและให้กำลังใจคนร้ายรายด้วย ส่วนนี้เน็ตไอดอลชื่อดังจะปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด