









กลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงความเจริญรุ่งเรืองยิ่งแห่งกรุงเทพมหานคร
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แปลว่า ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งแห่งกรุงเทพมหานคร แต่สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่มนั้น ดูเหมือนว่าความเจริญรุ่งเรืองนั้นไม่ได้ถูกนับรวมเข้าไปด้วย จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถไฟทางไกล เหนือ ใต้ อีสาน กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน มาให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และยกเลิกสถานีย่อย 6 สถานี ตั้งแต่สถานีดอนเมืองจนถึงสถานีบางเขน โดยแนะให้ประชาชนไปใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงแทน
กลายเป็นว่าตัวเลือกของประชาชนมีจำกัด ผลักภาระทำให้ต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยที่ภาครัฐไม่ได้มีทางเลือกให้แก่ประชาชนมากนัก
เสียงจากพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งบอกว่า “ปกตินั่งรถไฟชานเมืองไปทำงานทุกวัน เสียค่าใช้จ่ายวันละ 20 บาท ไป-กลับ ตอนนี้ต้องไปใช้รถไฟฟ้าแทนเที่ยวละ 42 บาท ไป-กลับ 80 กว่าบาท ก็คงต้องหันมาใช้รถส่วนตัวแทน เพราะรวมๆ แล้วค่าใช้จ่ายพอๆ กัน ซึ่งรถส่วนตัวสะดวกกว่าเยอะ”
อีกหนึ่งเสียงที่ถูกมองข้ามคือเหล่าร้านค้าที่เคยใช้สถานีรถไฟค้าขาย บางคนขายตรงนี้มาเกือบ 20 ปี ก่อนหน้านี้ก็ตามเช็คข่าวตลอดว่าทางรฟท.จะมีมาตราการยังไงบ้าง ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ แม้กระทั่งช่วงเวลาสองอาทิตย์ก่อนจะเปิดสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากทางรฟท.เองเลยว่า สรุปแล้วจะยังมีรถไฟวิ่งผ่านสถานีข้างล่างอยู่ไหม จะยกเลิกสถานีรึปล่าว มีแต่ความไม่ชัดเจนเปลี่ยนแปลงตลอดทุกวัน สุดท้ายก็ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการล่วงหน้าก่อนการเปิดสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ว่าจะยกเลิกสถานีย่อย 6 สถานี และจะไม่มีรถไฟวิ่งผ่านข้างล่างแล้ว ทำให้ร้านค้าทั้งหมดที่อยู่รอบสถานีตั้งตัวไม่ทันและตกที่นั่งลำบาก เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี จะขายที่เดิมก็ไม่มีใครผ่านมาซื้อ จะหาที่ใหม่ก็ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม ซึ่งหายากมากในเวลานี้ ส่วนทางรฟท.เองก็ไม่เคยเข้ามาพูดคุยหรือช่วยหาทางออกให้กับคนพวกนี้เลย
“เราขอแค่คิดถึงเราบ้าง ช่วยประคับประคองหาทางออกให้เรานิดนึง ไม่ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ทำแต่ไม่เคยลงมาดูพื้นที่จริงเลยว่ายังมีคนอีกมากที่เดือดร้อน ให้ทางเรารอดบ้าง สามารถสร้างสถานีเป็นหมื่นๆล้านได้ แต่ทำไมไม่สามารถวางแผนว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกสถานี ประกาศล่วงหน้าให้รู้ก่อนหลายๆเดือนได้ ไม่เข้าใจ” ร้านค้าร้านหนึ่งกล่าว
การเปลี่ยนแปลง ความเจริญเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าหลงลืมเสียงของคนตัวเล็กๆ เหล่านี้ สุดท้ายแล้วสิ่งที่ชัดเจนที่สุดของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก็คือการใช้งบประมาณก่อสร้างไปทั้งหมด 34,142 ล้านบาท และค่าเปลี่ยนชื่อสถานีอีก 33 ล้านบาท
สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ แปลว่า ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งแห่งกรุงเทพมหานคร แต่สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่มนั้น ดูเหมือนว่าความเจริญรุ่งเรืองนั้นไม่ได้ถูกนับรวมเข้าไปด้วย จากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีการปรับเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถไฟทางไกล เหนือ ใต้ อีสาน กลุ่มขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน มาให้บริการ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และยกเลิกสถานีย่อย 6 สถานี ตั้งแต่สถานีดอนเมืองจนถึงสถานีบางเขน โดยแนะให้ประชาชนไปใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงแทน
กลายเป็นว่าตัวเลือกของประชาชนมีจำกัด ผลักภาระทำให้ต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มมากขึ้น โดยที่ภาครัฐไม่ได้มีทางเลือกให้แก่ประชาชนมากนัก
เสียงจากพนักงานออฟฟิศคนหนึ่งบอกว่า “ปกตินั่งรถไฟชานเมืองไปทำงานทุกวัน เสียค่าใช้จ่ายวันละ 20 บาท ไป-กลับ ตอนนี้ต้องไปใช้รถไฟฟ้าแทนเที่ยวละ 42 บาท ไป-กลับ 80 กว่าบาท ก็คงต้องหันมาใช้รถส่วนตัวแทน เพราะรวมๆ แล้วค่าใช้จ่ายพอๆ กัน ซึ่งรถส่วนตัวสะดวกกว่าเยอะ”
อีกหนึ่งเสียงที่ถูกมองข้ามคือเหล่าร้านค้าที่เคยใช้สถานีรถไฟค้าขาย บางคนขายตรงนี้มาเกือบ 20 ปี ก่อนหน้านี้ก็ตามเช็คข่าวตลอดว่าทางรฟท.จะมีมาตราการยังไงบ้าง ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ แม้กระทั่งช่วงเวลาสองอาทิตย์ก่อนจะเปิดสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนจากทางรฟท.เองเลยว่า สรุปแล้วจะยังมีรถไฟวิ่งผ่านสถานีข้างล่างอยู่ไหม จะยกเลิกสถานีรึปล่าว มีแต่ความไม่ชัดเจนเปลี่ยนแปลงตลอดทุกวัน สุดท้ายก็ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการล่วงหน้าก่อนการเปิดสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ ว่าจะยกเลิกสถานีย่อย 6 สถานี และจะไม่มีรถไฟวิ่งผ่านข้างล่างแล้ว ทำให้ร้านค้าทั้งหมดที่อยู่รอบสถานีตั้งตัวไม่ทันและตกที่นั่งลำบาก เพราะไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี จะขายที่เดิมก็ไม่มีใครผ่านมาซื้อ จะหาที่ใหม่ก็ต้องใช้เงินลงทุนเพิ่ม ซึ่งหายากมากในเวลานี้ ส่วนทางรฟท.เองก็ไม่เคยเข้ามาพูดคุยหรือช่วยหาทางออกให้กับคนพวกนี้เลย
“เราขอแค่คิดถึงเราบ้าง ช่วยประคับประคองหาทางออกให้เรานิดนึง ไม่ใช่ว่าคิดจะทำอะไรก็ทำแต่ไม่เคยลงมาดูพื้นที่จริงเลยว่ายังมีคนอีกมากที่เดือดร้อน ให้ทางเรารอดบ้าง สามารถสร้างสถานีเป็นหมื่นๆล้านได้ แต่ทำไมไม่สามารถวางแผนว่าจะยกเลิกหรือไม่ยกเลิกสถานี ประกาศล่วงหน้าให้รู้ก่อนหลายๆเดือนได้ ไม่เข้าใจ” ร้านค้าร้านหนึ่งกล่าว
การเปลี่ยนแปลง ความเจริญเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าหลงลืมเสียงของคนตัวเล็กๆ เหล่านี้ สุดท้ายแล้วสิ่งที่ชัดเจนที่สุดของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก็คือการใช้งบประมาณก่อสร้างไปทั้งหมด 34,142 ล้านบาท และค่าเปลี่ยนชื่อสถานีอีก 33 ล้านบาท