ผบ.ตร.แถลงปิด ‘กอร. เอเปค’ เผยรวบ 25 ม็อบป่วน เจ้าหน้าที่เจ็บ 14 นาย

20 พ.ย. 2565 - 07:38

  • ผบ.ตร.แถลงปิดกองอำนวยการร่วมฯ เอเปค

  • เผยผลปฏิบัติงานในช่วงประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย

Police-chief-announces-closure-of-Joint-Security-Operations-Command-during-APEC-meeting-SPACEBAR-Thumbnail
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (รอง ผอ.กอร.) แถลงว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ กอร. มอบหมายให้ตนพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯ และแถลงปิดกองอำนวยการร่วมฯ โดยผลการปฏิบัติในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุวัตถุประสงค์การประชุมฯ เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยและการจราจร ถือเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในการประชุมฯ ครั้งนี้ 

อย่างไรก็ดี ยังคงมีภารกิจที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยยังคงเหลือเขตเศรษฐกิจเอเปค 4 เขตเศรษฐกิจพิเศษ (ปาปัวนิวกินี จีนไทเป สหรัฐอเมริกา และฮ่องกง) จะเดินทางกลับประเทศตามกำหนดการทั้งหมดในวันนี้ (20 พฤศจิกายน 2565) และกองอำนวยการร่วมฯ ยังต้องคงความเข้มข้นในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง จนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้น 

ทั้งนี้ ตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก ในการจัดตั้งกองอำนวยการร่วมฯ บูรณาการทุกภาคส่วน ปฏิบัติภารกิจต่างๆ จนกว่าจะเสร็จสิ้นการประชุมฯนั้น ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ดังนี้
  1. การรับแจ้งเหตุ 1599 (22 สาย) และ 191 (34 สาย) รวมจำนวน 56 เรื่อง ตรวจสอบและดำเนินการเรียบร้อยทุกเรื่อง  
  2. การยื่นข้อเรียกร้องผ่านกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 เรื่อง  
  3. บุคคลทิ้งสิ่งของ (ถังดับเพลิง) ลงไปยังพื้นผิวการจราจรวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565  
  4. จับกุมอาวุธมีด 4 ราย ปืนพก 1 ราย (18 พ.ย.65) และโดรนผิดกฎหมาย 1 ราย (17 พ.ย.65) 
  5. ตรวจพบเหตุวัตถุต้องสงสัย 8 ราย (รถยนต์ 1 รถจักรยานยนต์ 1 สิ่งของต้องสงสัย 6) 
  6. ดำเนินคดีบุคคลบุกรุกเข้าไปในงานเลี้ยงรับรองฯ 4 ราย (หอประชุมกองทัพเรือ) 
  7. การชุมนุมสาธารณะในพื้นที่ กทม. จำนวน 13 กลุ่ม โดยมีการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการชุมนุม 25 ราย ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ ประมาณ 10 กว่าราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 14 นาย (อยู่ระหว่างพักรักษาตัวโรงพยาบาล 1 ราย) และทรัพย์สินของทางราชการเสียหายหลายราชการ (รถกระบะ 4 คัน ฯลฯ) อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนฯ ตำรวจเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ 1 ราย (โรคประจำตัว (จุดคัดกรอง ทก.โรงแรมดิแอทธินี)) 
  8. ภาพรวมการใช้กำลังทุกภาคส่วน จำนวนกว่า 30,000 นาย การนำขบวนผู้นำเขตเศรษฐกิจ คู่สมรส และรัฐมนตรี จำนวนกว่า 508 เที่ยว ตลอดห้วงระยะเวลาการประชุมฯ 

ผบ.ตร.กล่าวว่า แม้ในวันนี้จะเป็นการประชุมปิดกองอำนวยการร่วมฯ แต่อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ รอง ผบ.ตร.(บร) ติดตามทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จสิ้นเรียบร้อยในแต่ละภารกิจ ตรวจสอบสถานภาพกำลังพล ยานพาหนะ สิ่งอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ กำชับการเบิก-จ่ายงบประมาณและถอดบทเรียนการปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง กับภารกิจของหน่วยในทุกๆ ด้าน 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี/ประธานคณะกรรมการระดับชาติฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ประธานคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยฯ และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ในนามผู้บังคับบัญชาของ ตร. ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบหลักตามแผนรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร ขอขอบคุณประชาชนที่ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี และให้ความร่วมมือในการปิดปรับเส้นทางการจราจรทั้งวันซ้อมและวันปฏิบัติจริง ตลอดจนการการใช้สถานีรถไฟฟ้าฯ สวนเบญจกิติ และอื่นๆ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงาน ทุกนาย และทุกหน่วยที่ร่วมปฏิบัติ ที่ได้ตั้งใจและเสียสละ ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พิธีการคนเข้าเมือง ตลอดจนภารกิจที่เกี่ยวข้องด้านต่างๆ ในการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคตลอดช่วงระยะเวลาในทุกๆ การประชุมฯ 

“ขอเรียนให้ทราบว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ไม่ว่าท่านจะปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ สถานที่ใด ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ให้กับประเทศชาติ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการจัดการประชุมฯ อย่างสมเกียรติและสมศักดิ์ศรี สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ นานาประเทศต่างชื่นชมและกล่าวขอบคุณประเทศไทยในการจัดการประชุมฯ ครั้งนี้” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์