บุกรวบ ‘นักข่าวสาว’ หลังแอบอ้างชื่อ ‘บิ๊กโจ๊ก’

27 พฤษภาคม 2566 - 09:57

Senator-Pita-MoveForward-Primeminister-SPACEBAR-Hero
  • ตำรวจบุกรวบ ‘นักข่าวสาว’ หลังแอบอ้าง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เรียกรับเงิน 33 ล้านบาทจากนวพรแก๊งอุ้มบุญจีนเทา

  • อ้าง สามารถล้มคดีได้ เพราะทำงานใกล้ชิด​และสนิทกับบิ๊กโจ๊ก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับคดีของนวพร ภาเกียรติสกุล อายุ 53 ปี เจ้าแม่แก๊งอุ้มบุญให้ทุนจีนสีเทาที่ถูกตำรวจจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ และอยู่ระหว่างเพิกถอนสัญชาติ ซึ่งจากการสอบปากคำ นวพร เพิ่มเติม พบมีนักข่าวสาวไทย เชื้อสายจีน ลูกครึ่งไทย- ไต้หวัน เรียกรับเงินจากนวพร โดยอ้างว่า สนิทสนมและทำงานใกล้ชิดให้กับตน จึงสามารถวิ่งเต้นล้มคดีของนวพรและสามารถช่วยเหลือคนจีน ซึ่งเป็นอาชญากรคนอื่นๆได้ โดยเรียกรับเงินจำนวน 33 ล้านบาท แต่นวพรจ่ายไปเพียง 14 ล้านบาท   
     
ทั้งนี้ จากการสอบสวนและสืบสวน และรวบรวมหลักฐานของตำรวจฝ่ายสืบสวนพบ มีมูล​ความจริง จึงเสนอศาลขอออกหมายจับนักข่าวสาวคนดังกล่าวเมื่อวานที่ผ่านมาในข้อหาเรียกรับหรือยอมจะรับผลประโยชน์ใดๆ เพื่อจะให้เจ้าพนักงานของรัฐกระทำการใด ที่ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ ก่อนเข้าจากกลุ่มในช่วงเย็นที่ผ่านมาคาคอนโดที่พัก  
       
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า พฤติการณ์การกล่าวอ้าง หรือแอบอ้างตนว่าจะสามารถช่วยเหลืออาชญากร หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าบุคคลดังกล่าวจะเป็นใคร ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง เพื่อน หรือนักข่าว เมื่อแอบอ้างชื่อตน เพื่อเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งก่อความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนจะไม่ละเว้น ต้องขอดำเนินคดีทุกราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เห็นเป็นข่าวแล้วหลายคดี ทั้งเพื่อนร่วมรุ่น หรือแม้แต่นักข่าว ก็ถูกดำเนินคดีมาแล้ว 
       
สำหรับกรณีนักข่าวสาวคนดังกล่าว ยอมรับทำงานให้กับตนจริง ซึ่งตนใช้งานในการประสานงานกับทางการจีนเพราะนักข่าวสาวคนนี้สามารถใช้ภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นบุคคลมีชื่อเสียงในฝั่งประเทศจีน แต่เมื่อกระทำผิดต่อให้เป็นบุคคลใกล้ชิด มากกว่านี้ก็ต้องดำเนินการ ตามกระบวนการของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง  
          
สำหรับความผิดในข้อหาเรียกรับ หรือยอมจะรับผลประโยชน์ มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งเมื่อทำผิด ก็ต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์