เช็กลิสต์ 20 สัญญาณ อาจเป็น ‘ไซโคพาธ’

28 เม.ย. 2566 - 10:42

  • คนที่เป็นไซโคพาธ (Psychopaths) คือผู้ที่ขาดความเห็นใจผู้อื่น และใช้ผู้อื่นหาผลประโยชน์เพื่อตัวเอง มี 20 สัญญาณ ที่ใช้พิจารณาว่าคนคนนั้นอาจเป็นไซโคพาธ

Social-heath-safety-psychopaths-20-signs-traits-characteristics-SPACEBAR-Hero
เมื่อเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง จะเกิดคำถามขึ้นทันทีว่า ผู้ก่อเหตุมีปัญหาทางจิตหรือเปล่า ทำไมจิตใจโหดเหี้ยม ฆ่าคนมากมายโดยไม่รู้สึกผิดด แล้วตั้งข้อสังเกตว่า ฆาตกรต่อเนื่องอาจเป็น Psychopaths หรือไม่  

หลายคนน่าจะเคยได้ยินคำนี้ จากซีรีส์ และข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่อง 

ไซโคพาธ (Psychopaths) เป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder : ASPD) โดยมีลักษณะ ขาดความเห็นใจผู้อื่น ขาดความสำนึกผิด ความรู้สึกด้านชาไม่เกรงกลัว ขาดความยับยั้งชั่งใจ เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง 

อารอน คิปนิส, PhD, ผู้เขียน The Midas Complex กล่าวว่า “บุคคลที่มีบุคลิกไซโคพาธ มักจะมองว่าผู้อื่นเป็นวัตถุที่เขาสามารถใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองได้ พวกเขาอาจแสร้งทำเป็นสนใจคุณ แต่ในความเป็นจริง พวกเขาอาจไม่สนใจ พวกเขาเป็นนักแสดงที่มีทักษะ ซึ่งมีภารกิจเพียงอย่างเดียวคือจัดการกับผู้คนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว” 

20 สัญญาณของคนเป็นไซโคพาธ

ในชีวิตประจำวันเราอาจเจอคนที่เป็นโซโคพาธได้โดยไม่รู้ตัว เพราะคนที่เป็นไซโคพาธส่วนใหญ่มักเป็นคนโกหกเก่ง และจัดการสิ่งต่างๆ ได้ดี โดยเราจะเริ่มเห็นลักษณะอาการบางอย่างที่บ่งบอกว่าคนคนนั้นอาจเป็นไซโคพาธเมื่อได้พูดคุยหรือเจอกับคนคนนั้นบ่อยๆ  

นี่คือ 20 สัญญาณที่ชี้ว่าคนที่มีลักษณะดังนี้อาจเข้าข่ายเป็นไซโคพาธ 

1.ดูมีเสน่ห์ 

คนที่เป็นไซโคพาธ ภายนอกอาจดูเป็นคนมีเสน่ห์ โน้มน้าวใจเก่ง โดยเฉพาะผู้หญิง จะยิ่งเข้าสังคมเก่งและดูมีอารมณ์ร่วมกับผู้อื่นได้ดีกว่าผู้ชาย แต่ความเป็นจริงแล้วเขาขาดความเห็นใจผู้อื่นอย่างจริงใจ ทำให้มีทักษะของความ ‘ปลอม’ หรือ Fake ที่สูงมาก เช่น ประจบสอพลอ ชื่นชมคนอื่นเก่ง ดูใจดี และแกล้งทำเป็นเห็นใจคนอื่น พวกเขาจะใช้ทักษะเหล่านี้ในการหาผลประโยชน์จากคนอื่น และในบางครั้งเขาก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ตลอด และเผยธาตุแท้ออกมาในที่สุด 

2.แสดงความรุนแรง และใจร้าย

เมื่อคนเป็นไซโคพาธ ถอดหน้ากากหรือเผยตัวตน จะเห็นพวกเขาเริ่มแสดงออกถึงความรุนแรงเล็กๆ น้อยๆ ออกมาเรื่อยๆ เช่น นินทาว่าร้าย คอมเมนต์แย่ๆ ทะเลาะหรือกระทบกระทั่งกับคนอื่นด้วยความก้าวร้าว หรือรู้สึกสนุกเวลาทำให้คนอื่นเจ็บปวด หรืออับอาย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสัญญาณหลักของคนที่เป็นไซโคพาธ และมักเป็นรูปแบบของการนำไปสู่การละเมิดสิทธิผู้อื่น 

3.โกหก พูดโอ้อวด และหลอกลวง

คนที่เป็นไซโคพาธหลายคนมีแนวโน้มเป็นคนโกหกเก่งโดยไม่สนใจผลของการโกหกนั้น โกหกบ่อยมาก แต่งเรื่องเก่ง อาจพูดโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องจริงของตัวเอง ขี้โม้ หรืออาจหลอกลวงให้คนอื่นคิด รู้สึกและทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนปกติจะรู้สึกผิดหรืออย่างน้อยจะรู้สึกกังวลหากถูกจับได้ว่าโกหก แต่คนที่เป็นไซโคพาธขาดจิตสำนึกในส่วนนี้ ทำให้พวกเขาโกหกจนเป็นเรื่องปกติ และการหลอกลวง ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในอาการของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (ASPD) 

4.ไร้ความรับผิดชอบ และกล่าวโทษคนอื่น

คนที่เป็นไซโคพาธ ใช้ความรุนแรง และกระทำสิ่งที่โหดเหี้ยม ทารุณอย่างร้ายแรงที่สุดในสังคม แต่พวกเขาแทบไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ซ้ำร้ายยังกล่าวโทษคนอื่นสร้างข้อแก้ตัวและพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด ซึ่งสัญญาณนี้ชี้ให้เห็นว่าพวกเขาขาดศีลธรรมและจิตสำนึก หรือไม่มีความรู้สึกว่าสิ่งไหน ‘ถูกหรือผิด’ 

5.ต้องการมีอำนาจ ควบคุมและครอบงำคนอื่น

คนที่เป็นไซโคพาธ มักมองหาตำแหน่งหรือจุดที่มีอำนาจเพราะชอบที่จะควบคุมผู้อื่น จากงานวิจัยพบว่า คนที่เป็นไซโคพาธจะมองหาหรือรักษาตำแหน่งผู้นำหรือหัวหน้าในองค์กร ซึ่งเป็นลักษณะหนึ่งของ ‘ผู้บริหารที่มีอาการไซโคพาธ’ (Psychopathic CEO) อาจเรียกได้ว่าก้ำกึ่งระหว่างความเป็นไซโคพาธ ความหลงตัวเอง และคตินิยมแบบแมคเคียเวลลี Machiavellianism หรือนิสัยที่ไร้ศีลธรรมและหาประโยชน์ใส่ตัว เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่หิวอำนาจ  

6.มีความสุขกับการทำให้คนอื่นเจ็บปวดและทรมาน

เป็นคน ‘ซาดิสต์’ ซึ่งก็คือรู้สึกพึงพอใจเมื่อคนอื่นเจ็บปวดหรือทรมาน คนที่เป็นไซโคพาธบางคนจะมีความวิปริตทางเพศ ชอบทารุณระหว่างร่วมเพศ แต่อาจกระทำอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเพศด้วย โดยจะทำสิ่งที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น ได้ควบคุม และจู่โจม  

คนที่เป็นไซโคพาธ ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นซาดิสต์ แต่ลักษณะนี้ไม่ใช่ลักษณะผิดปกติของคนเป็นไซโคพาธ และอาจสามารถอธิบายได้ว่าทำไมคนที่เป็นไซโคพาธมีแนวโน้มก่อเหตุอาชญากรรมที่ใช้ความรุนแรง ถึง 80%

7.รู้สึกเบื่อหน่าย และมองหาสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้น เร้าใจ

เพราะคนที่เป็นไซโคพาธขาดอารมณ์ความรู้สึกที่เหมือนกับคนปกติทั่วไป เขาจึงต้องหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองตื่นเต้น มีความสุข และเร้าใจมากกว่าคนอื่นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วคนที่เป็นไซโคพาธจะหุนหันพลันแล่นน้อยกว่าคนที่เป็นโซซิโอพาธ (Sociopaths) เพราะเขาไม่ได้ทำตามความต้องการที่แรงกล้าขณะนั้น แต่เป็นการตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกในใจของตัวเอง ทำให้ทำเรื่องที่ตื่นเต้น และนี่ก็เป็นเหตุให้คนเป็นไซโคพาธ ก่อเหตุอาชญากรรม ใช้ความรุนแรง เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ใช้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์  

8.ไม่สนใจกฎระเบียบและกฎหมาย

คนที่เป็นไซโคพาธไม่ทำตามหลักจริยธรรมในสังคม จึงมีพฤติกรรมที่ทำผิดศีลธรรมและผิดกฎหมาย รวมไปถึงแสดงความเห็นที่ไม่เหมาะสม และพูดหยาบคาย ไปจนถึงใช้ความรุนแรง และก่ออาชญากรรม ไม่ใช่คนที่เป็นไซโคพาธทุกคนจะก่ออาชญากรรมที่ใช้ความรุนแรง แต่มีเปอร์เซ็นต์สูงที่ผู้ก่อเหตุอาชญากรรมรุนแรง มีลักษณะอาการของไซโคพาธ 

9.ไม่รู้สึกกลัวหรือกระทบกระเทือน

ปกติแล้วคนที่ก่อเหตุอาชญากรรมจะกลัวถูกจับ แต่คนที่เป็นไซโคพาธไม่รู้สึกกังวล ซึ่งเชื่อว่าคนที่เป็นไซโคพาธ มีความผิดปกติแต่กำเนิด บริเวณสมองที่สร้างการตอบสนองต่อความรู้สึกกลัว และเชื่อมโยงถึงการควบคุมและการตัดสินใจในระยะยาว 

10.เย็นชา และเมินเฉย

คนที่เป็นไซโคพาธ จะมีพฤติกรรมเย็นชา ไม่สนใจ และเฉยเมย โดยสาเหตุเชื่อว่าเกิดจากโครงสร้างของสมองที่แตกต่างทำให้จำกัดความสามารถในการรู้สึกเหมือนคนปกติทั่วไป เช่นในสถานการณ์ที่คนอื่นกำลังเศร้า เสียใจ กังวล หรือตื่นเต้น แต่คนที่เป็นไซโคพาธกลับรู้สึกเฉยเมยอย่างน่าประหลาด 

11.มีปัญหาในวัยเด็ก

โรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม สามาถวินิจฉัยได้หลังอายุ 18 ปีเท่านั้น แต่สัญญาณและอาการของโรคนี้มักเริ่มต้นในวัยเด็ก หรือวัยรุ่นตอนต้น คนที่เป็นไซโคพาธส่วนใหญ่เริ่มแสดงสัญญาณของความผิดปกติก่อนอายุ 15 ปี และคนที่เป็นไซโคพาธรุนแรง ส่วนใหญ่จะสืบได้ว่ามีพฤติกรรมที่มีปัญหามาตั้งแต่ก่อนอายุ 10 ปี เช่น ต่อสู้บ่อย โกหก ขโมย ทารุณสัตว์และเด็กคนอื่น และไม่สนใจกฎ 

12.มีความสัมพันธ์ที่สั้น และเลิกรา

เพราะไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น จึงเป็นธรรมดาที่คนเป็นไซโคพาธจะมีปัญหากับการสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด แม้ว่าพวกเขาจะใช้เสน่ห์และอำนาจในการโน้มน้าวใจคนอื่นให้มาชอบตัวเอง แต่พวกเขาก็ไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์นั้นได้ นี่จึงเป็นเหตุให้คนเป็นไซโคพาธส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์ที่สั้น ผิวเผิน ยิ่งไปกว่านั้นยังทรยศ ทำร้าย และกลายเป็นศัตรูอีกด้วย 

13.หาประโยชน์จากคนอื่นเพื่อตัวเอง

คนที่เป็นไซโคพาธจะข่มเหงและเอาเปรียบคนอื่น เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ในการไล่ตามอำนาจ ความมั่งคั่ง และชื่อเสียง เขาจะทำทุกทางเพื่อให้ตัวเองไปถึงเป้าหมาย ยอมที่จะทิ้งผู้คนให้ตายระหว่างทาง พวกเขาจะไม่รู้สึกเสียใจ ถ้าต้องโยนใครสักคนออกจากรถบัสเพื่อให้ตัวเองไปต่อ แม้ว่าคนคนนั้นจะเคยชั่วเหลือเขาก็ตาม 

14.วางแผนโดยคำนวณและวางกลยุทธ์อย่างดี

คนที่เป็นไซโคพาธ ใจเย็น และคิดคำนวณอย่างดีในการตัดสินใจของตัวเอง ทำให้ยิ่งอันตรายเพราะคาดเดาได้ยากว่าเขาจะทำอะไรและจะเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ พวกเขาจะคิดแผนรายละเอียดใหม่ๆ ในการที่จะหาผลประโยชน์จากคนอื่น  

15.ขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

แม้ว่าเขาจะทำร้ายผู้อื่นแต่เขาก็ไม่มีความรู้สึกผิดในสิ่งที่ตัวเองกระทำ และไม่สามารถหยุดพฤติกรรมของตัวเอง คนที่เป็นไซโคพาธแทบจะไม่เรียนรู้ถึงความผิดพลาดของตัวเอง 

16.มีความคิดผิดปกติ 

ด้วยสมองที่ไม่เหมือนคนทั่วไป ทำให้บางครั้งอาจแสดงความเห็นที่แปลกประหลาดออกมา บางครั้งอาจพูดถึงสิ่งที่แสดงถึงความคิดที่ผิดเพี้ยน เมื่อพูดถึงสิ่งแปลกๆ ที่เขาชอบ พูดถึงคนอื่นในแง่ร้าย หรือแสดงได้ชัดเจนว่าไม่สนใจคนอื่น 

17.สนใจบางอย่างได้ไม่นาน

สัญญาณหนึ่งคือให้เวลาสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ไม่นาน คนเป็นไซโคพาธจะเบื่อง่ายกับการทำกิจกรรม ฝึกทักษะ หรือผู้คน และมักมองหากิจกรรมที่น่าตื่นเต้นมากกว่า ทำให้ง่ายที่เขาจะสูญเสียความสนใจในเป้าหมาย หรือโครงการ หรือความสัมพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่เคยมีความสัมพันธ์กับเขา 

18.ใช้ความรุนแรง ข่มเหง และล่วงละเมิดผู้อื่น

หนึ่งในสัญญาณของคนที่เป็นไซโคพาธคือใช้ความรุนแรง ก้าวร้าว ข่มเหงและล่วงละเมิดผู้อื่น ทำให้มักก่อเหตุอาชญากรรม ใช้ความรุนแรงทางเพศ ซ้ำร้ายคนที่เป็นไซโคพาธหลายคน กลับมาก่อเหตุซ้ำ แม้จะเข้ารับการรักษา รับโทษ หรือติดคุกแล้วก็ตาม 

19.ไม่เป็นมิตร ต่อต้านผู้อื่น 

อีกสัญญาณที่ของคนที่เป็นไซโคพาธ คือมีพฤติกรรมต่อต้านผู้อื่น ไม่เป็นมิตร แม้ว่าคนเป็นไซโคพาธจะพยายามทำให้ตัวเองดูมีเสน่ห์ แต่ก็ทำได้ในเวลาสั้นๆ เพราะธรรมชาติที่แท้จริงคือความก้าวร้าว เขาอาจจะแสดงมุมมองที่เหยียดผิว เหยียดเพศ เกลียดผู้หญิงให้คนอื่นเห็น อาจปฏิบัติต่อคนอื่นในทางมุ่งร้าย และโหดเหี้ยม 

20.ผู้เชี่ยวชาญในการหลอกลวง

สัญญาณเตือนสุดท้ายของคนที่เป็นไซโคพาธคือ เป็นคนที่มีทักษะและศิลปะชั้นสูงในการหลอกลวงคนอื่น เรียกว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหลอกลวงและบิดเบือนความจริง จัดฉากให้คนอื่นเข้าใจผิดที่น่ากลัวคือพวกเขาจะใช้ความสามารถนี้ในการหลอกผู้บำบัดขณะเข้ารับการรักษา แล้วกลับมาก่อเหตุซ้ำ 

สาเหตุของอาการไซโคพาธ

  • ทางกาย มีความผิดปกติของสมอง โดยเฉพาะสมองส่วนหน้า และสมองส่วนอะมิกดะลา ที่ใช้สำหรับความคิด ตัดสินใจ วางแผน และสื่ออารมณ์ ความผิดปกติของสารเคมีในสมอง อาจเกิดจากอุบัติเหตุทางสมอง และพันธุกรรม รวมไปถึงความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น เซโรโทนิน และ คอร์ติซอล 
  • ด้านจิตใจ และสังคม อาจเกิดขึ้นในวัยเด็กและแย่ลงเมื่อเวลาผ่านไป เช่น ถูกเลี้ยงดูแบบละเลย เพิกเฉย ไม่ได้รับความรัก ความสนใจ ถูกทำร้ายร่างกาย และจิตใจ อยู่ในครอบครัวที่ก่อเหตุอาชญากรรม สภาพสังคมรอบตัวใช้ความรุนแรง 

การรักษาอาการไซโคพาธ 

ไซโคพาธเป็นหนึ่งในภาวะที่รักษาได้ยาก และมักมีการพยากรณ์โรคที่ไม่ดี (คือยากที่จะคาดการณ์ความเป็นไปได้ว่าจะหายหรือไม่ และรุนแรงหรือไม่) คนที่เป็นมักไม่ร่วมมือกับการรักษา การทำจิตบำบัดจึงได้ประโยชน์ค่อนข้างน้อย แต่ก็ยังสามารถรักษาได้  
  1. ใช้ยารักษาโรคทางจิตเวช ช่วยปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น  
  2. ปรับพฤติกรรม โดยเน้นชวนทำกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ฝึกความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับคนในครอบครัว และให้รางวัลเมื่อจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม 
  3. ไม่ควรลงโทษ เพราะไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ เนื่องจากอาการด้านชาทางอารมณ์ 

ถ้าพบคนที่เข้าข่ายอาการไซโคพาธ ควรแนะนำให้พบแพทย์ เพื่อตรวจอาการให้แน่ชัด และรีบเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้องโดยเร็วที่สุด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์