สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช., ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน, ประภาพร ทองปากน้ำ สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย และ จักรวาล ชัยวิรัตน์นุกูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จังหวัดแพร่ ติดตามสถานการณ์เหตุน้ำป่าทะลัก ส่งผลให้รถด่วนพิเศษตกราง ซึ่งได้เดินทางไปยังสถานีรถไฟบ้านปิน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ โดยมี ชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ บรรยายสรุปเหตุการณ์
ทั้งนี้ สมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้นั่งรถรางช่วยเหลือ ระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟบ้านปิน เพื่อไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ หลังเกิดน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ทางขาดเป็นระยะทางกว่า 700 เมตร และเกิดเหตุรถไฟตกราง จนทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติ
สมศักดิ์ กล่าวว่า รถไฟสถานีนี้ในแต่ละวัน จะไปกลับทั้งหมด 12 ขบวน เมื่อเกิดเหตุตกราง ก็ต้องยอมรับว่า ส่งผลให้ผู้เดินทางได้รับความเดือดร้อน ดังนั้น ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็เร่งดำเนินการแก้ปัญหา โดยคาดว่า น่าจะกลับมาใช้สัญจรได้ปกติในเวลา 18.00 น.ของวันนี้ เพื่อให้ทันต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน เพราะมีรถขบวนใหญ่รออยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะผ่านเข้ากรุงเทพฯ ส่วนรัฐบาลจะพิจารณาเรื่องเขื่อนลำน้ำยม เพิ่มเติมหรือไม่นั้น สมศักดิ์ บอกว่า จะมีการหารือกันต่อไป เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
จากนั้น สมศักดิ์ พร้อมด้วย วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และคณะ ลงพื้นที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ ซึ่ง วรวัจน์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในจังหวัดแพร่ ได้มีฝนตกลงมา ตั้งแต่วันที่ 26 - 29 กันยายนที่ผ่านมา ทำให้มีมวลน้ำสะสม ประกอบกับเกิดน้ำป่าหลาก จึงทำให้เวลานี้ มวลน้ำสูงถึง 11.18 เมตร ส่งผลให้สถานการณ์น้ำมีความรุนแรงและอันตรายเป็นอย่างมาก จึงอยากให้จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก เตรียมความพร้อมในการรับมวลน้ำนี้ด้วย เพื่อช่วยกันลดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด
ขณะที่ สมศักดิ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำที่ได้เดินทางมาติดตามที่จังหวัดแพร่ ก่อนจะไหลไปรวมที่จังหวัดสุโขทัยนั้น ทำให้ต้องเร่งเตือนพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยม ให้เก็บข้าวของขึ้นที่สูง รวมถึงในพื้นที่ 4 อำเภอของจังหวัดสุโขทัย คือ อำเภอเมือง อำเภอสวรรคโลก อำเภอศรีสัชนาลัย และอำเภอศรีสำโรง ต้องเตรียมตัวรับมือกับมวลน้ำด้วย
โดยเบื้องต้น ได้ประสานทางจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำนี้แล้ว รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเป็นการเร่งด่วน เพราะต้องการให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบและความเสียหายน้อยที่สุด
