เป็นที่รู้กันว่าคนไทยไม่ค่อยอยากจะขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะมันทั้งเสียเวลา (กับการพิจารณาคดีที่ยาวนานอาจจะหลายปี) และเสียเงินมหาศาล บางคนอาจถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวเพราะแพ้คดีหรือแค่ต้องจ่ายค่าทนายความ ยิ่งในยุคที่ทนายบางคนกลายเป็นคนดังด้วยแล้ว ค่าบริการยิ่งแพงจนคาดไม่ถึง
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการฟ้องร้องจนเป็นเรื่องปกติ (นั่นคือการฟ้องเรียกค่าเสียหายกันถี่เกินเหตุที่เรียกว่า Tort) ก็มีมาตรฐานค่าธรรมเนียมทนายความที่กำหนดเอาไว้ ไม่ใช่ว่าดังแล้วจะตั้งราคาตามใจชอบ แต่มักจะอิงกับมาตรฐานที่เรียกว่า Laffey Matrix โดยอัตราค่าบริการรายชั่วโมงจะกำหนดตามประสบการณ์ของทนายความ ยิ่งมีประสบการณ์หลายปี ค่าบริการก็จะยิ่งสูงขึ้น
ตามปกติแล้วค่าธรรมเนียมทนายความมในสหรัฐฯ (Attorney’s fee) จะคิดราคาเป็นชั่วโมงก็ได้หรือเหมาจ่ายก็ได้ อัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามสถานะของทนายความหรือบริษัทกฎหมาย แต่ถึงจะกำหนดด้วย Laffey Matrix ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเรียกอัตราสูงๆ ได้
ตัวอย่างอัตราค่าบริการของกิจการทนายความแห่งหนึ่ง (ที่ปรึกษากฎหมายทนายไทย) หากจะปรึกษากฎหมายกับทนายความเป็นการส่วนตัวที่สำนักงาน จะต้องเสียค่าปรึกษา ครั้งละ 5,000 บาท ต่อครั้งไม่เกิน 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 3 ขึ้นไป คิดชั่วโมงละ 2,500 บาท
อย่างไรก็ตาม แม้แต่ในสหรัฐฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการฟ้องร้องจนเป็นเรื่องปกติ (นั่นคือการฟ้องเรียกค่าเสียหายกันถี่เกินเหตุที่เรียกว่า Tort) ก็มีมาตรฐานค่าธรรมเนียมทนายความที่กำหนดเอาไว้ ไม่ใช่ว่าดังแล้วจะตั้งราคาตามใจชอบ แต่มักจะอิงกับมาตรฐานที่เรียกว่า Laffey Matrix โดยอัตราค่าบริการรายชั่วโมงจะกำหนดตามประสบการณ์ของทนายความ ยิ่งมีประสบการณ์หลายปี ค่าบริการก็จะยิ่งสูงขึ้น
ค่าบริการตาม Laffey Matrix (ใช้ถึงวันที่ 31 พ.ค. 2023)
- ประสบการณ์ 1-3 ปี ค่าบริการ 413 ดอลลาร์/ชั่วโมง
- ประสบการณ์ 4-7 ปี ค่าบริการ 508 ดอลลาร์/ชั่วโมง
- ประสบการณ์ 8-10 ปี ค่าบริการ 733 ดอลลาร์/ชั่วโมง
- ประสบการณ์ 11-19 ปี ค่าบริการ 829 ดอลลาร์/ชั่วโมง
- ประสบการณ์ 20+ ปี ค่าบริการ 997 ดอลลาร์/ชั่วโมง
ตามปกติแล้วค่าธรรมเนียมทนายความมในสหรัฐฯ (Attorney’s fee) จะคิดราคาเป็นชั่วโมงก็ได้หรือเหมาจ่ายก็ได้ อัตราค่าธรรมเนียมแตกต่างกันไปตามสถานะของทนายความหรือบริษัทกฎหมาย แต่ถึงจะกำหนดด้วย Laffey Matrix ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเรียกอัตราสูงๆ ได้
บริษัททนายความใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ
โดยเฉลี่ย 200 - 2,000 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 7,000 - 68,000 บาท)- ถึงแม้เรตจะสูงขนาดนี้ แต่ทนายความคนดัง (Celebrity lawyers) บางคนก็ไม่ได้เก็บค่าบริการสูงไปกว่า 1,000 ดอลลาร์ เช่น Dennis Wasser ที่ว่าความคดีหย่าร้างให้ดาราดังๆ ในฮอลลีวูด เก็บค่าบริการ 950 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ในคดีหย่าร้างของ Harrison Ford
บริษัททนายความทั่วไปในสหรัฐฯ
โดยเฉลี่ย 50 - 100 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 1,700 - 3,400 บาท)- เรตค่าบริการรายชั่วโมงของ ‘ประเทศนักฟ้องร้อง’ อย่างในสหรัฐฯ ก็ไม่ได้สูงมาก และแตกต่างกันไปตามพื้นที่ของเมือง นคร และรัฐต่างๆ เช่น อัตราสูงสุดอยู่ที่ วอชิงตัน ดี.ซี. หรือเมืองหลวงของประเทศ คิด 411 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ส่วนอัตราต่ำสุด คือ รัฐเวสต์เวอร์จิเนีย 163 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
- ค่าบริการยังแตกต่างกันที่ลักษณะคดี เช่น คดีทรัพย์สินทางปัญญาและคดีล้มละลาย คิดชั่วโมงละ 363 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ส่วนคดีเยาวชนคิด 91 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง เราจะพบว่าในประเทศแห่งการฟ้องร้องเองก็ไม่ได้ตั้งราคาตามใจชอบ
บริษัททนายบางแห่งในไทย
ประมาณ 2,000 บาท ต่อชั่วโมงตัวอย่างอัตราค่าบริการของกิจการทนายความแห่งหนึ่ง (ที่ปรึกษากฎหมายทนายไทย) หากจะปรึกษากฎหมายกับทนายความเป็นการส่วนตัวที่สำนักงาน จะต้องเสียค่าปรึกษา ครั้งละ 5,000 บาท ต่อครั้งไม่เกิน 2 ชั่วโมง ตั้งแต่ชั่วโมงที่ 3 ขึ้นไป คิดชั่วโมงละ 2,500 บาท
ทนายชื่อดังคนหนึ่งในไทย
- 1,500 บาท ต่อ 20 นาที
- 3,000 บาท ต่อครึ่งชั่วโมง
- 300,000 บาท ต่อการจัดอีเว้นต์แถลงข่าว