การจราจรกรุงเทพฯ ขโมยเวลาชีวิต ‘เรา’ ไปมากแค่ไหน?

27 มี.ค. 2566 - 10:38

  • 206 ชั่วโมง หรือ 8 วัน 14 ชั่วโมงต่อปี คือเวลาของคนกรุงเทพฯ ที่หายไปบนท้องถนน จากรายงานดัชนีการจราจร

  • แต่ชีวิตจริง การจราจรกรุงเทพฯ ดูดกลืนเวลาเราไปมากกว่านั้น อย่างน้อย 20 วัน 6 ชั่วโมง หรือราว 2.5 เท่า

  • กรุงเทพฯ เป็นเมืองอันดับ 3 ในเอเชียหลังจากญี่ปุ่นและฮ่องกง ที่มีการวางแผนด้านคมนาคมขนส่ง แต่ปัญหา 'รถติด' ยังคงเป็นโจทย์ใหญ่ของเมือง

TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Thumbnail
‘เวลา’ คือ สิ่งมีค่ามากที่สุดในชีวิต 

ทุกคนต่างรู้ความจริงข้อนี้ แต่จะถึงขั้นตระหนักซาบซึ้งหรือไม่ พฤติกรรม ‘การใช้เวลา’ ของเราแต่ละคนน่าจะตอบคำถามข้อนี้ได้ดี 

อย่างไรก็ตาม แม้เราจะพยายามใช้เวลาแต่ละวันให้คุ้มค่าที่สุด แต่การอาศัยอยู่ในมหานครที่รถติดอันดับที่ 11 ของโลกอย่าง กรุงเทพฯ ดูจะเป็นหลุมดำที่ดูดกลืนเวลาชีวิตเราในแต่ละวัน จนแทบไม่เหลือให้ทำ 'อะไรๆ' ได้มากนัก 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3hqLYF4IVOIrlnmjSrU4lb/af7afc394d7d05d8cfaa5f1fd2bd6ae4/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo01
Photo: เวลาของคนขับรถหล่นหายไปบนทางด่วนในช่วงเวลาเร่งด่วน

เวลาที่หายไปบนท้องถนน 

คนกรุงเทพฯ สูญเสียเวลาไปกับช่วงเวลารถติดราว 8 วันต่อปี 

คิดเป็นชั่วโมงคือ 192 ชั่วโมง 

คือข้อมูลจาก TOMTOM Traffic Index ผู้ผลิตอุปกรณ์นำทางสัญชาติดัตช์ หน่วยงานที่ทำรายงานดัชนีการจราจรทุกปีบอกกับเรา 

ถึงแม้รายงานจะปลอบใจว่า กรุงเทพฯ ไม่ใช่เมืองรถติดที่เลวร้ายที่สุดในโลก (ข้อมูลใน ปี 2022 ระบุว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองรถติดอันดับที่ 57 ซึ่งหมายถึง มีอีก 56 เมืองที่เลวร้ายยิ่งกว่า)
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4kxbdkDlq8XsuE1sQq9m3Z/bccfbb81e8f899cae2dbfb2c84e0b6a6/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo02
Photo: แผนภาพแสดงช่วงเวลาการจราจรแออัดในกรุงเทพฯ ปี 2022 โดย TOMTOM Traffic Index
แต่เราก็รู้ดีว่า ตัวเลขในรายงานไม่ได้บอกเล่าอะไรมากกว่าค่าทางสถิติเชิงปริมาณ แต่ไม่ได้บันทึกข้อมูลเชิงคุณภาพชีวิตของผู้คนในระดับสายตา 

เวลาที่สูญหายไปบนท้องถนนราว 8 วันต่อปี อาจเป็นตัวเลขที่ดีเกินจริงกว่าความจริงที่คนกรุงเทพฯ พบเจอ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1sxgMvkLCxlwFonKQDQupY/88fc2b80197229f430de33844e6e0844/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo03
Photo: เหม่อมองไร้จุดหมายท่ามกลางรถติดที่ไร้กาลเวลา (ศุภกิจ พิทักษ์บ้านโจด)

‘เวลาจริงที่สูญหาย’ ของมนุษย์ออฟฟิศ พ.ศ.2566 

สมมติว่า คุณเป็นพนักงานออฟฟิศทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ มาดูกันว่า คุณเสียเวลาไปบนท้องถนนเพราะรถติดมากแค่ไหน? 

เราจะมาลองหาคำตอบด้วยคณิตศาสตร์แบบง่ายๆ ที่เด็กประถมก็ทำได้กัน 

เริ่มจาก... 1 ปี มีทั้งหมด 52 สัปดาห์ คิดเป็นวันคือ 365 วัน 

มนุษย์ออฟฟิศ (ส่วนใหญ่) ทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ วันทำงานทั้งปี จะเท่ากับ 260 วัน (52 x 5) 

ทีนี้ใน พ.ศ.2566 รัฐบาลประกาศวันหยุดประจำปีทั้งหมด 22 วัน ในจำนวนนั้นมี 5 วันที่ตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเหลือวันหยุดจริงๆ (ไม่รวม เสาร์-อาทิตย์) คือ 17 วัน 

เพราะฉะนั้น วันทำงาน (ที่ต้องทำ) จะเท่ากับ 243 วัน 

นี่คือจำนวนวันทำงานจริงของคุณในปี พ.ศ.2566 (กรณีที่ไม่ลาป่วย-ลากิจ)
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3XsNxxaXTMYD0Jm3gKyzCg/696ab5636f291e3eaf1653956d00801b/Info-________________
ต่อมา เราได้สำรวจคนหนุ่มสาวในออฟฟิศ SPACEBAR (ออฟฟิศอยู่ตึกออลซีซั่น ถนนวิทยุ) แบ่งคนเดินทางมาทำงานได้ 4 กลุ่ม 
  • กลุ่ม 1: คนบ้านใกล้ (รัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากออฟฟิศ) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว 
        - เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง/วัน (เฉลี่ยไป-กลับ รอบละ 30 นาที) 
        - เวลาที่เสียไป 243 x (60 - 60) = 0 นาที
 
  • กลุ่ม 2: คนบ้านใกล้ (รัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากออฟฟิศ) เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ 
        - เวลาเดินทาง 1.30 ชั่วโมง/วัน (เฉลี่ยไป-กลับ รอบละ 45 นาที) 
        - เวลาที่เสียไป 243 x (90 - 60) = 7,290 นาที หรือ 121.5 ชั่วโมงต่อปี
 
  • กลุ่ม 3: คนบ้านไกล (รัศมีเกิน 5 กิโลเมตรจากออฟฟิศ) เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว 
        - เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง/วัน (เฉลี่ยไป-กลับ รอบละ 90 นาที) 
        - เวลาที่เสียไป 243 x (180 - 60) = 29,160 นาที หรือ 486 ชั่วโมงต่อปี
 
  • กลุ่ม 4: คนบ้านไกล (รัศมีเกิน 5 กิโลเมตรจากออฟฟิศ) เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ 
        - เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง/วัน (เฉลี่ยไป-กลับ รอบละ 90 - 120 นาที) 
        - เวลาที่เสียไป 243 x (240 - 60) = 43,740 นาที หรือ 729 ชั่วโมงต่อปี
 
หากอ้างอิง กฎ 1 ชั่วโมง (One-Hour Rule) ซึ่งเป็นจำนวนเวลาเฉลี่ยที่ ‘เฮลตี้’ ต่อการเดินทางในเมืองในหนึ่งวัน มากกว่านี้จะถือว่า “เสียเวลา”
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2U1jVmmrYylwsJ5dQc6qE8/f65a0a66b195f114a7b973daf2a8effc/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo04
Photo: ถนนวิทยุ ช่วงเวลาเลิกงาน 18:30 น. (ณัฐพล โลวะกิจ)
เราจะพบว่ากลุ่ม ‘คนบ้านใกล้’ ที่มีบ้านหรือพักอาศัยอยู่ในเขตในเมือง คือกลุ่มคนที่โชคดี ไม่ถูกการจราจรกรุงเทพฯ ทำร้ายเหมือนคนบ้านไกล 

แต่ในยุคที่ราคาอสังหาฯ แพงอย่างทารุณ จะมีกี่สักคนที่ได้รับสิทธิ์นั้น คนส่วนใหญ่ถ้าไม่อยู่ห้องเช่าเล็กๆ คอนโดไซส์จำกัด ก็ต้องถูกเบียดขับออกไปอยู่เขตชานเมือง 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7AdIcLSqqL9Ksx7OkAYAXj/086af97ca50aa5fe4caf630001636a97/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo05
Photo: คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่อยู่คอนโดอย่างเดียวดาย
กลุ่ม ‘คนบ้านไกล’ ไม่ว่าจะเดินทางด้วยวิธีไหน พวกเขาหรือเธอล้วนกำลังถูก ‘ปัญหาจราจร’ รีดไถเวลาชีวิตไปอย่างเหี้ยมโหด 

“พี่คะ หนูขอไม่เข้าออฟฟิศทุกวันได้ไหม” หญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งจบมาทำงานได้ปีกว่าๆ พูดกับหัวหน้างาน 

เธอไม่ได้มีเจตนาจะขี้เกียจหรืออู้งาน เพียงแค่จะขอ WFH บ้างในบางวัน เพราะรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ไป-กลับ บ้านย่านปทุมธานีกับออฟฟิศบนถนนวิทยุ ที่ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน โชคดีที่หัวหน้าของเธออนุญาตตามคำขอ 

สมมติหญิงสาวบ้านไกลโชคร้ายไม่ได้รับอนุญาตให้ WFH และต้องเข้าออฟฟิศมา ‘สแกนนิ้ว’ ทุกวันล่ะก็...
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2l2Py7lKiFkIWvTD4YIRjm/00971b130ff9f1e92789341d720da368/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo06
Photo: นักเรียนหญิงรีบวิ่งขึ้นรถเมล์รอบเช้าเพื่อไปให้ทันเข้าแถว ชีวิตคนกรุงเทพฯ คล้ายกับหนูถีบจักร (ณัฐพล โลวะกิจ)
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3qKgINNEsEcGyFCkACeZTG/86b759d9eda6a48f41c72cf0eff13177/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo07
Photo: ผู้โดยสารรถไฟใต้ดินยืนกันเบียดเสียดในช่วงเวลาเร่งด่วน
เธอจะสูญเสียเวลาชีวิตในวัยสาว (หักลบ 1 ชั่วโมง--เวลาที่ควรใช้ในการเดินทางตาม 'กฎ 1 ชั่วโมง' ออก) มากถึง 729 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 30 วัน 9 ชั่วโมง ต่อปีไปกับการเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับที่ทำงาน 

ถ้า ‘เวลา’ เป็นสิ่งมีค่าในชีวิตอย่างที่ใครๆ พูดกัน ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงยอมทนทู่ซี้ใช้ชีวิตแบบนี้ แล้วอยู่กับการบ่นพอให้ระบายความตึงเครียดไปวันๆ 

นี่คือเรื่องโศกนาฏกรรมและเป็นความบัดซบแห่งชีวิตคนกรุงเทพฯ ใช่หรือไม่ 

หรือใครจะปฏิเสธ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6FlsppUgiLpWWhSY7itISc/b6a1a30308786a4e7f44786d94cef849/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo08
Photo: เวลาบนรถเมล์เดินไปอย่างเชื่องช้าในวันฝนตก (ณัฐพล โลวะกิจ)

เวลาที่สูญหายมี ‘ต้นทุน’ เท่าไหร่?

ตัวเลข 30 วัน 9 ชั่วโมง อาจดูโอเวอร์ แต่คือข้อเท็จจริงในระดับสายตา

หญิงสาวสูญเสียเวลาในชีวิตราว 3 ชั่วโมงต่อวัน (ในทุกๆ วันทำงาน) บนท้องถนน

ใช่, เธออาจอยู่ในกลุ่มคนที่โชคร้าย เพราะมีภูมิลำเนาอยู่ชานเมือง แต่เชื่อเถอะ เธอไม่ใช่คนเดียวที่มีชะตาชีวิตแบบนี้

ไม่แน่ ‘คุณ’ อาจอยู่ในกลุ่มเดียวกับเธอ ถ้าไม่ใช่ (อยู่ในกลุ่มที่ 1-3) ขอแสดงความยินดีในดีกรีความโชคร้ายที่น้อยกว่า (แต่นี่คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่นัก)
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5stDQSdxUUUBlFBVOAxdL0/7044f17d54166ef5ab5a62b19eecb05d/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo09
Photo: สมาร์ทโฟน = เพื่อนฆ่าเวลา (ศุภกิจ พิทักษ์บ้านโจด)
ถึงตรงนี้ ลองมาคำนวณกันดูว่า การจราจรในกรุงเทพฯ ขโมยเวลาคุณไปมากแค่ไหน ใครได้คำตอบแล้วเก็บไว้ในใจก่อน (กรณีที่คุณอยู่ในกลุ่มที่ 1 ข้ามบทความนี้ไปได้เลย เพราะเวลาที่คุณใช้ในการเดินทางสมเหตุสมผลแล้ว) จากนั้นลองเทียบเคียงกับตัวอย่าง ‘ต้นทุนเวลาชีวิต’ ของหญิงสาวบ้านไกลคนนี้ดู... 

ค่าความเสียหายของเวลาที่ ‘หญิงสาว’ เสียไปกับการจราจรในกรุงเทพฯ เท่ากับอะไรบ้าง? 
  • ปัจจุบันหญิงสาวอายุ 24 ปี หากเธอมีอายุขัยเท่ากับ อายุเฉลี่ยของคนไทยคือ 80 ปี เท่ากับเธอจะเหลือเวลาในชีวิต 56 ปี 
  • เวลาที่เธอเสียไปกับการจราจรต่อปี คือ 30 วัน 9 ชั่วโมง เมื่อนำมาคูณกับเวลา 56 ปีที่เหลืออยู่ (สมมติเธอทำงานตลอดเวลาชีวิตที่เหลืออยู่ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง เพราะสังคม ‘คนแก่มากกว่าคนเกิด’ ไม่มีสวัสดิการมากพอมาดูแลคนแก่ คนแก่จึงต้องยืดเวลาทำงานออกไป) จะเท่ากับเธอต้องใช้เวลาชีวิตไปกับการเดินทางไปทำงานราว 4 ปี 8 เดือน กับอีก 1 วัน 
  • เวลาเท่านี้แปรเป็นหลักชั่วโมงจะเท่ากับ 40,824 ชั่วโมง หรือ 1,701 วัน 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1eueabqNv8xfVSISRvXYYj/9957c7482b14f2f386b5a4d5bb778a26/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo10
Photo: สภาพการจราจรกรุงเทพฯ ตอนหัวค่ำในวันทำงาน (ณัฐพล โลวะกิจ)
  • หากหญิงสาวชอบดูหนัง (เฉลี่ยเรื่องละ 2 ชั่วโมง) เธอจะดูหนังได้ทั้งหมด 20,412 เรื่อง 
  • แอบรู้มาว่า เธอชอบดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง Our Beloved Summer เพราะถูกนางเอก คิม ดา-มี (Kim Da-Mi) ‘ตก’ มาตั้งแต่เรื่อง Itaewon Class จนอยากดูซ้ำอีกรอบ แต่ไม่มีเวลา ถ้าเธอไม่ต้องเสียเวลาไปกับการจราจร เธอสามารถดูซีรีส์ Our Beloved Summer (16 ตอน) วนซ้ำได้ถึง 2,538 รอบ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2OSSVXBgSQMfVFslcEpOOY/4a7ab7c76089cfa5ece8f51d7fc42282/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo11
Photo: ซีรีส์ Our Beloved Summer (SBS)
  • หรือถ้าเธอเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะอ่านเพื่อพัฒนาตัวเองหรือเพื่อความบันเทิง (เฉลี่ยใช้เวลาอ่าน 6 ชั่วโมง/เล่ม) เธอจะอ่านหนังสือได้มากถึง 6,804 เล่ม 
  • ประเมินจากจำนวนหนัง-ซีรีส์ที่ดู หนังสือที่อ่าน เธอคงจะไม่ต้องมานั่งเสียเวลาบ่นว่า “ไม่มีเวลา” ดูหนังและอ่านหนังสืออีกต่อไป 
  • ถึงตรงนี้ คนที่ซีเรียสในเชิงข้อมูลและสถิติ ขอระบุและไฮไลท์ไว้หน่อยว่า ตัวเลขที่เห็นเป็นการเปรียบเทียบให้พอเห็นภาพปริมาณเวลาชีวิตที่สูญเสียไปจากการจราจรในกรุงเทพฯ อย่าง ‘คร่าวๆ’ เท่านั้น
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5rYopz6V20HfVr9H9QgQJw/992f09fdbfa6ff524fccc9553659556f/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo12
Photo: เวลาชีวิตที่เหลือส่วนหนึ่งของคนส่วนใหญ่อยู่บนท้องถนน (ศุภกิจ พิทักษ์บ้านโจด)
  • เอาล่ะ มากันต่อ... ถ้าหญิงสาวชอบท่องเที่ยว เธอจะใช้เวลา 4 ปี 8 เดือน กับอีก 1 วัน ไปกับการเที่ยวที่ใดๆ ก็ได้ในโลก แน่นอน เวลาจำนวนเท่านี้ คงอนุญาตให้เราไปไหนต่อไหนได้มากมาย (เสียดาย เธอกลับต้องมาติดแหง็กอยู่บนถนน และนั่งฆ่าเวลาด้วยการไถสมาร์ทโฟนอย่างไร้จุดหมาย) 
  • เธอเป็นลูกสาวคนโต มีน้องชายหนึ่งคน ทุกๆ วันแม่ของเธอจะนั่งรอจนกว่าเธอจะกลับมาถึงบ้าน ถ้าการจราจรดีกว่านี้ แม่ของเธอคงไม่ต้องนั่งรอ เธอและแม่คงจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นราว 4 ปี ไม่น้อยเลย เพราะแม่ของเธออายุมากแล้ว เวลาของแม่กำลังเหลือน้อยลงทุกวัน 
  • ไม่รู้คุณรู้จักอาการ ‘นอนดึกเพื่อล้างแค้น’ หรือเปล่า หญิงสาวมีอาการเรื้อรังมานานแล้วตั้งแต่เริ่มทำงาน เธอรู้สึกว่าเวลาในแต่ละวันหมดไปอย่างรวดเร็ว กว่าจะกลับถึงบ้านก็ดึกดื่น ยังมีอีกหลายสิ่งที่อยากทำ แต่ยังไม่ทันไรก็หมดวันซะแล้ว เธอจึงเบียดบังเวลานอนมาทำสิ่งที่อยากทำ เพื่อชดเชยเวลาอย่างน้อยก็ 3 ชั่วโมงที่เสียไปในแต่ละวันให้กับการจราจรที่ไร้เหตุผล 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/24ffjC9klZ56MeEG5XD7oM/0cd292f7d7354d774221a0553ae32863/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo13
Photo: นอนดึกเพื่อล้างแค้นช่วงเวลาที่สูญหายไป
  • ถ้าเธอมีอายุตามค่าเฉลี่ยของคนไทย 80 ปีก็คงจะดี แต่เวลานี้ เธอชักไม่แน่ใจว่าจะอยู่ถึงหรือเปล่า เพราะเธออ่านมาว่า การนอนดึกมากๆ ไม่ดีต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและยาว และอาจเป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้าได้ 
  • ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เธอยังสบายดี เพียงแต่รู้สึกว่าความคิดไม่ว่องไว ตัดสินใจได้ช้า เครียด หงุดหงิดง่าย ไม่รู้ว่าสาเหตุมาจากนอนน้อยหรือเปล่า 
  • หากตัดข้อมูลเชิงตัวเลขออกไป สามย่อหน้าก่อนหน้านี้ คือความจริงเชิงประจักษ์ที่หญิงสาวกำลังเผชิญอยู่
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/11gCkTUVmwvYIVT87O6ufY/20ce9b7b18f92b505d50b26bcc11d5e9/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo14
Photo: ประชาชนรอรถเมล์และรถตู้บริเวณสวนจตุจักรในวันฝนตก
  • การกล่าวโทษ ‘การจราจรที่เลวร้ายในกรุงเทพฯ’ เป็นผู้ร้าย อาจเป็นการด่วนสรุปเกินไป เพราะปัญหาส่วนใหญ่ในโลกนี้ซับซ้อนและไม่เคยมีตัวแปรเดียว 
  • แต่ก็น่าคิดว่า ถ้าการจราจรในเมืองไม่ขโมยเวลา 3 ชั่วโมงไปจากชีวิตเธอในแต่ละวันที่ไปทำงาน คุณภาพชีวิตของหญิงสาวน่าจะดีกว่านี้... 
แล้ว ’คุณ’ ล่ะ จ่ายค่าความเสียหายให้การจราจรในกรุงเทพฯ ไปเท่าไหร่ 
ไม่ว่ามากหรือน้อย ขอให้รู้ว่าสิ่งที่จ่ายคือเวลาชีวิตของคุณ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7e314gfq82GbPg5p2zlY1C/39cf8dff7502a66f8a377b9f4f1b9986/Info-________________-2

เราควร ‘จัดการเวลา’ ชีวิตอย่างไร 

ก่อนพูดถึงการจัดการเวลา ถ้ามองโลกด้วยสายตาเรียลลิสติก คงต้องยอมรับว่า การจราจรในกรุงเทพฯ จะยังคงติดขัดและแออัดแบบนี้ไปอีกหลายปี 

ข้อมูลใน สมุดปกขาวทีดีอาร์ไอ เรื่อง ‘ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ : มีทางแก้ไขหรือไม่?’ เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2537 พูดถึงสภาพการจราจรใน พ.ศ.นั้น (เมื่อ 29 ปีที่แล้ว) ว่า 

‘คนกรุงเทพฯ ทุกคนตระหนักดีถึงสภาพการจราจรที่เลวร้ายและยังคงต้องประสบอยู่ทุกวัน’
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6qn5rGvEeA5mxXWyYZwjID/1f36ca3673aad0fefaff249cebd6f3aa/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo15
Photo: การจราจรกรุงเทพฯ พ.ศ.2543 (AFP)
สิ่งที่น่าสนใจในรายงานคือ เกร็ดข้อมูลที่ระบุว่า ‘ความสนใจที่จะวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรของกรุงเทพฯ มีมาก่อนเมืองอื่นๆ โดยมีการวางแผนเป็นเมืองแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

‘และประเทศไทยเป็นอันดับสามในเอเชียหลังจากญี่ปุ่นและฮ่องกงที่มีการวางแผนด้านคมนาคมขนส่ง’ (ตัดถนนเส้นแรก 'ถนนเจริญกรุง' ราว พ.ศ.2404 ในสมัยรัชกาลที่ 4 - ผู้เขียน) 

แต่ดูเหมือนว่า ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ จะซับซ้อนและต้องใช้เวลาแก้ไข จนเวลาเดินผ่านจากรายงานฉบับนั้นมาเกือบ 30 ปี ปัญหารถติดยังคงอยู่ (แม้จะทุเลาลงบ้าง) และกลายเป็น ‘จุดขาย’ ของคนที่อาสามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. ทุกยุคสมัย
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5zmOaYxEmPRg9AtZPI7Rvc/ec2ef2b6062098b51b429e1243e2ed67/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo16
Photo: สมุดปกขาวทีดีอาร์ไอ - ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ : มีทางแก้ไขหรือไม่? เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2537
ดังนั้น การยอมรับว่า การจราจรในกรุงเทพฯ จะไม่เป็นมิตรกับคุณไปอีกสักพักใหญ่ คือขั้นแรกของการจัดการเวลา 

ส่วนขั้นตอนต่อๆ มา เราไม่มีคำตอบเป็น ‘ฮาวทู’ แต่มีคำถามให้คุณลองตอบ 
  • หากการจราจรเป็น Toxic สามารถย้ายมาทำงานใกล้บ้าน ได้หรือไม่? 
  • ขอเข้างานเช้าขึ้นหรือสายขึ้น (flexible hour) เพื่อเลี่ยงการจราจรที่แออัด ได้หรือไม่? 
  • ออฟฟิศอนุญาตให้ Work From Home และมีสิทธิ์เลือกทำงานที่บ้านในวันที่สภาพการจราจรไม่เป็นใจ ได้หรือไม่? 
  • มีทางเลือกในการเดินทางอื่นๆ ที่ช่วยให้การมาทำงานสะดวกรวดเร็วขึ้น ได้หรือไม่? 
ถ้าตอบว่า “ได้” มากเท่าไหร่ คุณมีแนวโน้มที่จะทวงคืนเวลาที่จะเสียไปได้มากเท่านั้น 

แต่ถ้าคำตอบคือ “ไม่” ทุกข้อ ไม่เป็นไร... 

คุณก็แค่ใช้ชีวิตอย่างที่เป็นอยู่ และพยายามใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่าให้ดีที่สุด ก็เท่านั้นเอง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6X6nAUXKnntTaRDZHNh5RV/afa7fa295d736e953df31f4e9c07c797/TAGCLOUD-how-much-life-time-has-been-stolen-by-bangkok-traffic-SPACEBAR-Photo17
Photo: เมื่อเด็กน้อยโตเป็นผู้ใหญ่ หวังว่าการจราจรกรุงเทพฯ จะดีกว่านี้ (ศุภกิจ พิทักษ์บ้านโจด)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์