จากดราม่า #หมอปุยเมฆ ที่ออกมาเผยสาเหตุการลาออกในโลกออนไลน์ สู่การสำรวจปัญหาที่หยั่งรากลึกในระบบสาธารณสุขไทย ตอนแรกของบทความซีรีส์นี้จะพาไปค้นหาคำตอบว่าทำไมแพทย์อินเทิร์นจึงลาออกเป็นจำนวนมาก

ระบบสาธารณสุขไทยได้อันดับสูงสุด เมื่อเทียบประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน เช่น สิงคโปร์ (อับดับที่ 24) และมาเลเซีย (อันดับที่ 34)
แต่สิ่งที่การจัดอันดับไม่ได้บอกเราก็คือ อัตราการลาออกของแพทย์ไทยนับว่าสูงมากเช่นกัน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ชี้แจงว่าปัญหาการขาดแคลนแพทย์สะสมมานาน ทำให้แพทย์ต้องแบกรับภาระงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน
จากข้อมูลของแหล่งข่าว พบว่า แพทย์ฝึกหัดทำงานเฉลี่ย 80-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อยู่เวรในโรงพยาบาลติดต่อกัน 1-3 วัน นอกจากจะพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว ยังเผชิญกับแรงกดดันในการทำงาน ทั้งจากอาจารย์แพทย์อาวุโสและคนไข้ ประกอบกับได้รับค่าตอบแทนไม่เหมาะสม เช่น ต้องรอตกเบิก จึงจะได้รับเงินเดือน และถ้าอยากได้เงินเพิ่มขึ้นก็ต้องเข้าเวรมากขึ้น ส่วนอีกปัจจัยคือ การฟ้องร้องบุคลากรทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น
ทำให้แพทย์ฝึกหัดมีแนวโน้มจะลาออกไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนซึ่งให้ค่าตอบแทนดีกว่าและมี Work Life Balance หรือสมดุลด้านการทำงานกับชีวิตมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ และเลือกที่จะจ่ายค่าทุนการศึกษาแทน
ด้วยรูปแบบการทำงานเช่นนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่านักเรียนแพทย์และแพทย์ฝึกหัดมีแนวโน้มจะลาออกมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ข้อสันนิษฐาน แต่ได้เกิดขึ้นแล้ว
ย้อนกลับไปปี 2560 กรรมการแพทยสภา ได้เปิดเผยว่าบุคลากรทางการแพทย์กำลังลดลง มีสถิติลาออกเกือบ 50% ต่อปี ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ทำให้แพทย์ พยาบาล ทำงานหนักขึ้น และส่งผลต่อการให้บริการที่ไม่ทั่วถึง
นี่คือสัญญาณของ The Great Resignation ซึ่งอาจทำให้ไทยสูญเสียแพทย์ใหม่ๆ รวมถึงบุคลากรที่ยังอยู่ในระบบในอนาคตอันใกล้นี้
แต่สิ่งที่การจัดอันดับไม่ได้บอกเราก็คือ อัตราการลาออกของแพทย์ไทยนับว่าสูงมากเช่นกัน เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ชี้แจงว่าปัญหาการขาดแคลนแพทย์สะสมมานาน ทำให้แพทย์ต้องแบกรับภาระงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ปัจจุบันมีแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประมาณ 24,000 คน
- งานหนัก แพทย์ 1 คน ดูแลประชากร 2,000 คน (1 : 2,000) ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกกำหนด 1 : 1,500 คน
- อัตราการลาออกปีละ 455 คน และมีผู้เกษียณอายุปีละ 200 คน
จากข้อมูลของแหล่งข่าว พบว่า แพทย์ฝึกหัดทำงานเฉลี่ย 80-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ อยู่เวรในโรงพยาบาลติดต่อกัน 1-3 วัน นอกจากจะพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว ยังเผชิญกับแรงกดดันในการทำงาน ทั้งจากอาจารย์แพทย์อาวุโสและคนไข้ ประกอบกับได้รับค่าตอบแทนไม่เหมาะสม เช่น ต้องรอตกเบิก จึงจะได้รับเงินเดือน และถ้าอยากได้เงินเพิ่มขึ้นก็ต้องเข้าเวรมากขึ้น ส่วนอีกปัจจัยคือ การฟ้องร้องบุคลากรทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น
ทำให้แพทย์ฝึกหัดมีแนวโน้มจะลาออกไปทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนซึ่งให้ค่าตอบแทนดีกว่าและมี Work Life Balance หรือสมดุลด้านการทำงานกับชีวิตมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ และเลือกที่จะจ่ายค่าทุนการศึกษาแทน
ด้วยรูปแบบการทำงานเช่นนี้ จึงมีความเป็นไปได้ว่านักเรียนแพทย์และแพทย์ฝึกหัดมีแนวโน้มจะลาออกมากขึ้น ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่แค่ข้อสันนิษฐาน แต่ได้เกิดขึ้นแล้ว
ย้อนกลับไปปี 2560 กรรมการแพทยสภา ได้เปิดเผยว่าบุคลากรทางการแพทย์กำลังลดลง มีสถิติลาออกเกือบ 50% ต่อปี ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ทำให้แพทย์ พยาบาล ทำงานหนักขึ้น และส่งผลต่อการให้บริการที่ไม่ทั่วถึง
นี่คือสัญญาณของ The Great Resignation ซึ่งอาจทำให้ไทยสูญเสียแพทย์ใหม่ๆ รวมถึงบุคลากรที่ยังอยู่ในระบบในอนาคตอันใกล้นี้
ไทยกำลังขาดแคลนแพทย์มากแค่ไหน?
แพทยสภาได้เปิดเผยข้อมูลสถิติของปี 2566 ที่น่าสนใจ ดังนี้- ปัจจุบันมีแพทย์ที่อยู่ในระบบทั้งหมด 72,250 คน แบ่งเป็นชาย 39,207 คน และหญิง 33,043
- ถึงจะมีชื่ออยู่ในระบบ แต่แพทย์ที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นมีเพียง 68,725 คน โดยสามารถติดต่อได้ 66,685 คนเท่านั้น
- ประเด็นที่น่าสนใจคือ แพทย์ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ 32,198 คน คิดเป็น 48.2% ส่วนแพทย์อีก 34,487 คน อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดตามภูมิภาคต่างๆ คิดเป็น 51.8%
- เท่ากับว่าระบบสาธารณสุขของไทยยังเผชิญกับปัญหาการกระจายบุคลากรแพทย์ไปยังจังหวัดต่างๆ ทำให้โรงพยาบาลในต่างจังหวัดมีบุคลากรไม่เพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยในแต่ละจังหวัดได้ ขณะที่กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดเดียว แต่มีแพทย์มากกว่า 3 หมื่นคน
- ปี 2560: 35,388 คน
- ปี 2561: 36,938 คน
- ปี 2562: 39,156 คน
- ปี 2563: 36,472 คน
- ปี 2564: 38,820 คน
- ปี 2566: 24,649 คน

ส่วนเรื่องชั่วโมงการทำงานนอกเวลา กระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจข้อมูลปี 2565 พบว่ามีโรงพยาบาลที่แพทย์ต้องปฏิบัติงานนอกเวลาเกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ มากถึง 65 แห่งทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่ทำงานนอกเวลามากกว่า 40-46 ชั่วโมง แต่ที่โหดสุดคือ มีแพทย์ที่ต้องทำงาน ‘นอกเวลา’ มากกว่า 64 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำนวน 9 โรงพยาบาล
นี่คือสัญญาณสำคัญที่สะท้อนถึง The Great Resignation หรือการลาออกครั้งใหญ่ซึ่งจะทำให้สาธารณสุขไทยต้องสูญเสียบุคลากรจากระบบ
ประเด็นนี้จึงกลายเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันหาทางแก้ไข เพราะระบบสาธารณสุขที่ขึ้นชื่อ ‘ดีระดับโลก’ นั้น ไม่ได้กำลังทำร้ายแค่บุคลากรในระบบ แต่อาจลุกลามไปถึงความไม่พร้อมที่จะดูแล ‘สังคมสูงวัย’ ของประเทศไทยที่จะเต็มไปด้วย ‘คนแก่ก่อนรวย’
จะเห็นได้ว่า ดราม่า #หมอลาออก เป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เมื่อเทียบกับปัญหาอื่นๆ ที่หยั่งรากลึกในระบบนี้ ติดตามได้ในบทความต่อไป
นี่คือสัญญาณสำคัญที่สะท้อนถึง The Great Resignation หรือการลาออกครั้งใหญ่ซึ่งจะทำให้สาธารณสุขไทยต้องสูญเสียบุคลากรจากระบบ
ประเด็นนี้จึงกลายเป็นวาระเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันหาทางแก้ไข เพราะระบบสาธารณสุขที่ขึ้นชื่อ ‘ดีระดับโลก’ นั้น ไม่ได้กำลังทำร้ายแค่บุคลากรในระบบ แต่อาจลุกลามไปถึงความไม่พร้อมที่จะดูแล ‘สังคมสูงวัย’ ของประเทศไทยที่จะเต็มไปด้วย ‘คนแก่ก่อนรวย’
จะเห็นได้ว่า ดราม่า #หมอลาออก เป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เมื่อเทียบกับปัญหาอื่นๆ ที่หยั่งรากลึกในระบบนี้ ติดตามได้ในบทความต่อไป
