ออกหมายจับเพิ่ม ‘คดีตู้ห่าว’ 12 ราย รับลูก ‘ชูวิทย์’ สอบนครบาล ร้องทำรูปคดีเสียหาย ขีดเส้น 15 วัน

4 ม.ค. 2566 - 10:22

  • ‘อัยการสุงสุด-ผบ.ตร.’ ถกร่วม ‘คดีตู้ห่าว’ แถลงออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 12 ราย สมคบค้ายา 10 ราย ฟอกเงิน 2 ราย รวบได้แล้ว 2 ราย

  • ผบ.ตร. ตั้ง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานสอบสวน ปม ‘ชูวิทย์’ โวยการทำงาน ตร.นครบาล มีใครเข้าไปเอี่ยว ทำให้รูปคดีเสียหาย อยากให้อัยการร่วมสอบ เพื่อความโปร่งใส คาดสรุปสำนวนให้อัยการไม่เกิน 20 มกราคม 2565

Tuhao-Chuwit-Police-Metropolitan-SPACEBAR-Thumbnail
นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด (อสส.) ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานกำกับการสอบสวนและการดำเนินคดีสำคัญ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะที่ปรึกษา สมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน และคณะทำงานฯ ได้รายงานความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ นักธุรกิจชาวจีน กับพวกผู้ต้องหา 

โดยพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวนได้ดำเนินการร่วมกันสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ได้ขอให้ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้วรวม 25 หมาย จับกุมผู้ต้องหาได้แล้วจำนวน 17 คน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 12 หมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน ได้แก่ MR.FU JI ZING และ กฤติธี เหมหงส์ ฐานสมคบกันเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน โดยการกระทำมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 ไว้ในครอบครอง และจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 2 หมายและความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินจำนวน 10 หมาย และคณะทำงานฯ จะพิจารณาขยายผลการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป 

ด้าน กุลธนิตย์ อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนกล่าวถึงกรอบระยะเวลาการทำสำนวนให้ อสส.พิจารณา ว่าคดีนี้มีการรวมสำนวน 5 สำนวนเป็นสำนวนเดียว เนื่องจากเป็นการร่วมกันกระทำความผิด คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาการฝากขังผู้ต้องหา โดยคดีนี้ฝากขังได้ 7 ครั้ง รวม 84 วัน ผู้ต้องหาคนที่ 1 จะครบฝากขังครั้งที่ 7 วันที่ 20 ม.ค.นี้  

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร. กล่าวว่า ขอชี้แจงกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ปล่อยคลิปออกมาหรือการวิพากษ์วิจารณ์ของพี่น้องประชาชนในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) นั้น เมื่อวานนี้ (3 มกราคม) ตนได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้เกิดความโปร่งใสและชัดเจนว่ามีข้อเท็จจริง มีการทำให้สำนวนอ่อนจริงหรือไม่ มีใครทำให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีหรือไม่ โดยได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมามี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ทีมงานจเรตำรวจ โดยมีระดับผู้บัญชาการสองท่าน ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ผู้บังคับการกองปราบปราม ( ผบก.ป.) รวมกันเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ในทุกประเด็น ทั้งคลิปบ่อนการพนัน คลิปต่างๆ ว่ามีการทำลายหลักฐาน หรือไม่นำเข้าในสำนวน โดยให้เวลาสอบข้อเท็จจริงภายใน 15 วันต้องรายงานผลการสอบสวนให้ทราบ และวันนี้ ตนก็ได้นำเรียนอัยการสูงสุดว่าอยากจะเรียนเชิญผู้แทนของสำนักงานอัยการสูงสุดมาเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้สังคมเกิดความชัดเจน หากมีคลิปอะไรเพิ่มก็ส่งให้คณะนี้ตรวจสอบ หากใครมีข้อสงสัยคณะดังกล่าวเป็นฝ่ายให้คำตอบ 

ผบ.ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับมีการเข้าใจผิดว่า ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ในคดีความจริงแล้วไม่ใช่ แต่ ผบช.น. ทำหนังสือให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่า คดีที่เกี่ยวข้องกับคนบุคคลดังกล่าว เข้าข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทำความผิดนอกราชอาณาจักร และอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วเข้าข่าย ทางอัยการสูงสุดจึงตั้งคณะทำงานขึ้นมา 2 ชุด ชุดแรก คณะทำงานเพื่อมากำกับดูแลการทำงานซึ่งมีท่านรองอัยการสูงสุดเป็นประธานและมีอัยการสูงสุด และตนเป็นที่ปรึกษา   

ส่วนอีกคณะหนึ่งคือเป็นคณะพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นการร่วมกันของอัยการกับตำรวจ ประกอบกับด้วย ตำรวจจาก 4 กองบัญชาการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) รวมทั้งพนักงานสอบสวน 42 นาย ร่วมกับอัยการ 12 ท่าน เราทำงานตลอดทุกวันจนสามารถขออนุมัติหมายจับได้ 15 หมายเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2565 จับกุมได้ 10 หมายจับ ชุดที่ 2 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ขออนุมัติหมายจับได้ 12 หมาย จับกุมได้ 2 ราย อยากให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจว่าตนเป็นผู้กำกับดูแลไม่ใช่ ผบช.น. และตนจะเป็นคนลงนามในสำนวนเสนออัยการสูงสุดไม่เกินวันที่ 20 มกราคมนี้ 

ส่วนความคืบหน้าคดีจากการที่เข้าร่วมประชุมทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการที่ทำงานร่วมกับอัยการก็มั่นใจว่าพยานหลักฐานว่าจะสามารถดำเนินคดีกับนายตู้เห่าและพวกได้ส่วนพวกที่กล่าวหาว่าตำรวจทำสำนวนไม่ดีสักวันจะทำให้ความจริงปรากฏว่าเรื่องที่กล่าวหามานั้นมันจริงหรือไม่อย่างไร 

เมื่อถามว่าในวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา มีนายตำรวจระดับสูงและ ปปส. ไปตรวจตงผับจินหลิง ย่านยานนาวา รวมถึงรถยนต์เรื่องนี้ท่านได้รับทราบรายงานข้อเท็จจริงหรือไม่อย่างไรและผลการตรวจดังกล่าวมีผลกระทบต่อพยานหลักฐานหรือรูปคดีหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า เท่าที่คุยกับทางอัยการเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบทางรูปคดีเพียงแต่ว่าการเข้าไปดังกล่าวต้องให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้นมาเป็นคนชี้แจงว่ามีใครทำอะไรผิดขั้นตอนหรือไม่ตนไม่ขอตอบจะเป็นการชี้นำให้คณะกรรมการชี้แจงทีเดียวเลย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์