Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Hero.jpg
Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Photo01.jpg
Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Photo02.jpg
Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Photo03.jpg

Photo Story: ‘ก้าวไกล’ ปูด! สวมสิทธิกู้สหกรณ์ตร.ลำพูน

28 ก.ย. 2566 - 06:03

  • ‘ก้าวไกล’ ปูดอีก โกงสวมสิทธิกู้สหกรณ์ตร.ลำพูน 423 นาย เสียหายกว่า 220 ล้าน กู้ผ่อนรถ 4 แสนเดือนละ 5 พัน สุดท้ายยอดหนี้พุ่ง 7 แสน

  • แฉมี ‘ปลอมแปลง-แก้สัญญา’ เลือกเฉพาะ ตร.ผู้น้อยใกล้เกษียณ

  • ขีดเส้นจี้ ‘ผบ.ตร.’ สางปัญหาภายใน 2 สัปดาห์เป็นของขวัญ เชื่อมี ‘ระดับบิ๊ก’ อยู่เบื้องหลัง

Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Hero.jpg
Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Photo01.jpg
Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Photo02.jpg
Wijarn-unfold-subrogate-coopertive-police-lamphun-SPACEBAR-Photo03.jpg

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย วิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวถึงปัญหาของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จ.ลำพูน นายตำรวจชั้นผู้น้อย ชั้นประทวน กว่า 423 ราย ได้รับความเสียหายรวมกันกว่า 220 ล้านบาทหรือมากกว่านั้น

โดยสส.ลำพูน พรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคก้าวไกลได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายตำรวจสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งได้กู้หนี้ 4 แสนบาท ทว่ามูลค่าหนี้กลับเพิ่มขึ้นเป็นล้านบาท จากคนไม่เคยกู้ ก็กลายเป็นผู้กู้ และหลายคนอยู่ในช่วงใกล้เกษียณราชการ ทำให้ขวัญกำลังใจหดหาย ทั้งนี้หวังว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่จะช่วยคลี่คลายปัญหา

ด้านวิโรจน์ เผยว่า เรื่องดังกล่าวได้แจ้งความไปตั้งแต่เดือน ก.พ. 2566 อีกทั้งคณะกรรมการสหกรณ์ก็เป็นนายตำรวจระดับสูง จึงไม่มั่นใจว่า ผู้เสียหายจะได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ และต้องตกเป็นหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อหรือไม่

ขณะที่วิทวิสิทธิ์ กล่าวว่า นายตำรวจ 423 นาย ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ ถูกสวมสิทธิและปลอมแปลงเอกสาร โดยขีดฆ่ามูลหนี้เดิม เปลี่ยนยอดเงิน แล้วปลอมลายเซ็นต์ทับ ทำให้ยอดหนี้จาก 4 แสนบาทกลายเป็น 7.8 แสนบาท ทั้งที่เมื่อตรวจสอบเงินกู้จริงใน statement ก็มีแค่ 4 แสนบาท โดยได้แจ้งความไว้ตั้งแต่เดือน ก.พ. ผ่านมา 9 เดือน ยังไม่มีความก้าวหน้า และยังพบว่ากรรมการสหกรณ์ก็เป็นผู้บังคับบัญชาของตัวเองอีก

วิทวิสิทธิ์ กล่าวว่า จะดำเนินการแบ่งหลักฐานที่ได้รับมาเป็น 2 ชุด ชุดหนึ่งจะส่งประธานสภาฯ ให้ สตช. ติดตามเรื่องนี้ และอีกส่งให้ประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อหวังจะคืนความเป็นธรรมให้ผู้เสียหาย

ทั้งนี้ วิโรจน์ ฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนใหม่ ให้เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา เพื่อเป็นการมอบของขวัญให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ คิดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์น่าจะรู้ผล 

วิโรจน์ กล่าวว่า เชื่อว่า เรื่องทุจริตดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นแค่ใน จ.ลำพูน เท่านั้น แต่ผู้ทุจริตอาจจะเชื่อมโยงกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ถ้า ผบ.ตร. ใส่ใจกับเรื่องนี้จะได้ใจผู้ใต้บังคับบัญชาว่า มีความทุ่มเทแก้ปัญหาให้ประชาชน รวมทั้งมองว่า จงใจเลือกเหยื่อกำลังเกษียณ ถือว่า มีความอำมหิต เพราะผู้เสียหายอยู่ในวัยที่อาจไม่ถนัดในการใช้แอปฯ เพื่อตรวจสอบยอดหนี้ตัวเอง

วิโรจน์ กล่าวด้วยว่า กรณีนี้เป็นเรื่องของตำรวจตัดตำรวจ ขอถาม ผบ.ตร. ว่าโกงแม้แต่เพื่อนตำรวจด้วยกัน แล้วประชาชนจะหวังพึ่งอะไรได้ พร้อมเปิดเผยว่าที่ผ่านมาเคยมีการยึดทรัพย์เจ้าหน้าที่ ซึ่งกระทำการทุจริตไปเพียง 16 ล้าน ทั้งที่มูลค่าความเสียหายมีกว่า 220 ล้านบาท ขอให้อย่ารอ สส.ก้าวไกล เพราะผบ.ตร. สามารถตรวจสอบได้ทันที

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์