












ภาคประชาชน นำโดยกลุ่มทำทาง และเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงท้องไม่พร้อม ร่วมกันจัดกิจกรรม กรวดน้ำคว่ำขัน ‘อนุทิน’ เพื่อแสดงจุดยืนไม่สนับสนุน ให้ ‘อนุทิน ชาญ วี รกูล’ รมต.สาธารณสุข กลับมาเป็นรัฐมนตรี ว่าการกระทรวง สาธารณสุข หรือรัฐมนตรี ในกระทรวงอื่นๆ อีก รวมถึงไม่สนับสนุนให้เป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ เนื่องจากไม่พอใจ ที่ ‘อนุทิน’ เซ็นคำสั่งตัดงบ ‘ทำแท้ง’ ออกจากสิทธิ บัตรทอง รวมถึงไม่พอใจการทำงานของ ‘อนุทิน’ ในฐานะที่เป็นเจ้ากระทรวง แต่กลับไม่สร้างความชัดเจนและสร้างความเข้าใจ เกี่ยวกับกฎหมายทำแท้ง จนกลายเป็นเหตุให้มีผู้หญิงหลายคนต้องจบชีวิต ด้วยการไปทำแท้งเถื่อน
‘สุไลพร ชลวิไล’ นักวิชาการกลุ่มทำทาง บอกว่าวันนี้ (7 ก.พ.) ถือเป็นวันครบรอบ 2 ปี ที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่เปิดทางให้ผู้หญิง สามารถทำแท้งได้ภายในอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ และเพิ่มเหตุยกเว้นความผิดอื่นๆ เพื่อให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้อย่างปลอดภัย และไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากลับพบว่ามีผู้หญิงหลายคนที่ท้องไม่พร้อม ต้องเสียชีวิตจากการทำแท้งที่ไม่ถูกต้อง โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการพวกเธอไม่รู้ว่ามีกฎหมายที่รองรับเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ และมีสถานบริการที่ได้มาตรฐาน ให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยรายชื่อสถานที่ให้บริการให้คำปรึกษา และยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงมีกลไกอื่นๆ ที่เข้ามาดูแลผู้หญิงที่รับบริการยุติการตั้งครรภ์ให้ปลอดภัยจนสิ้นสุดกระบวนการ
เครือข่ากลุ่มนี้ยังมองว่า ‘ถ้าการเมืองดี จะไม่มีกฎหมายทำแท้ง ที่ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิต’
‘สุไลพร ชลวิไล’ นักวิชาการกลุ่มทำทาง บอกว่าวันนี้ (7 ก.พ.) ถือเป็นวันครบรอบ 2 ปี ที่ ราชกิจจานุเบกษา ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่เปิดทางให้ผู้หญิง สามารถทำแท้งได้ภายในอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ และเพิ่มเหตุยกเว้นความผิดอื่นๆ เพื่อให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้อย่างปลอดภัย และไม่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมากลับพบว่ามีผู้หญิงหลายคนที่ท้องไม่พร้อม ต้องเสียชีวิตจากการทำแท้งที่ไม่ถูกต้อง โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการพวกเธอไม่รู้ว่ามีกฎหมายที่รองรับเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ และมีสถานบริการที่ได้มาตรฐาน ให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยรายชื่อสถานที่ให้บริการให้คำปรึกษา และยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ที่ถูกต้องตามกฎหมายให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงมีกลไกอื่นๆ ที่เข้ามาดูแลผู้หญิงที่รับบริการยุติการตั้งครรภ์ให้ปลอดภัยจนสิ้นสุดกระบวนการ
เครือข่ากลุ่มนี้ยังมองว่า ‘ถ้าการเมืองดี จะไม่มีกฎหมายทำแท้ง ที่ทำให้ผู้หญิงเสียชีวิต’