



‘คดีแอม ไซยาไนด์’ ทั้ง 15 คดี ที่ตอนนี้มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% โดยตอนนี้ตำรวจเหลือเพียงรวมรวมข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้น และคาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีทั้งหมด ได้ภายในสัปดาห์หน้า
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) พล.ต.อ สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีแอม ไซยาไนด์ พร้อมกับเชิญบุคลากรทางแพทย์ และเพื่อนของแอมที่เป็นนายหน้าประกันมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่วงหนึ่ง พล.ต.อ สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งขยายผลเส้นทางการเงิน จำนวน 78 ล้าน ที่พบว่ามีการหมุนเวียนในบัญชีของแอม ในช่วงปี 63-65 เบื้องต้นพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเงินก้อนนี้ประมาณ 11-12 คน โดยคาดว่าวันนี้จะมีความชัดเจนเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดภายในวันนี้ และตอนนี้ตำรวจมีไทม์ไลน์การก่อเหตุของแอมแล้ว โดยพบว่าทุกคนที่เสียชีวิตจะอยู่กับแอมประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยปี 58 และ 62 มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นในช่วงปี 64 และ 65 ซึ่งตำรวจรู้เหตุผลแล้วว่าเป็นเพราะอะไร เเต่ไม่ขอลงรายละเอียด บอกได้แค่ว่า “เมื่อไหร่ที่ยาอยู่ในมือ จำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงขึ้น” ย้ำว่าหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจะดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.อ สุรเชษฐ์ ยังยอมรับว่าพฤติกรรมของแอม เข้าข่ายการเป็นฆาตกรต่อเนื่อง พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า นิยามของฆาตกรต่อเนื่อง คือ ต้องฆ่าคนตาย 2 ขึ้นไป และมีระยะเวลาในการฆ่าห่างกัน โดยวัตถุประสงค์ของฆาตรต่อเนื่องผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทรัพย์สิน โดยใช้วิธีวางยาพิษ และเหยื่อส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ตัว ฆ่าได้ไม่เว้นสามี
ขณะที่ ‘ใหม่’ ซึ่งเป็นนายหน้าประกันและเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของ ‘แอม ไซยาไนด์’ เปิดเผยว่า แอมเคยมาปรึกษาเรื่องการทำกรมธรรม์ พรีเมียม ให้กับ ‘แด้’ ซึ่งเป็นอดีตสามี โดยมีวงเงินประกันรับผลประโยชน์สูงถึง 7 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันปีละประมาณ 1 แสนบาท
พร้อมเล่าย้อนให้ฟังว่า ในช่วงต้นปี 2566 แอม ได้มาปรึกษาว่าอยากทำประกันสุขภาพให้กับแด้ เพราะเเด้ เพิ่งไปผ่าตัดริดสีดวงมา จึงอยากได้ประกันที่ครอบคลุมการดูแลคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่พอคุยไปคุยมา แอมบอกว่าอยากมีทุนชีวิต ในกรณีที่แด้เสียชีวิตด้วยเธอจึงแนะนำกรมธรรม์ที่มีทั้งประกันอุบัติและประกันสุขภาพในฉบับเดียวกันให้กับแอม โดยชื่อผู้รับผลประโยชน์ของกรมธรรม์นี้ ตอนแรกเป็นชื่อของลูกสาวแอมที่เป็นลูกติด ไม่ใช่ลูกของแด้ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นแอม โดยระหว่างที่คุยเรื่องนี้แด้และลูกสาวของแอม ก็อยู่ด้วยตลอดเวลาซึ่งทั้งคู่ยังดูรักกันดีอยู่
ส่วนเหตุผลของการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ ใหม่คิดว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหากแด้เสียชีวิตก่อนที่ลูกสาวแอมจะบรรลุนิติภาวะ ยังไงแอมเป็นผู้รับผลประโยชน์อยู่ดี จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อตัวเอง
แต่ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนของการทำกรมธรรม์ มีเอกสารบางอย่างไม่ครบ ทางบริษัทจึงขอเอกสารเพิ่มเติมจากแอม แต่แอมกลับไม่ยอมมาดำเนินการและตัดจบไปดื้อๆ ว่า ยังไงสุดท้ายคงไม่มีเงินจ่ายค่าประกันอยู่ดี ใหม่จึงแนะนำให้ทำกรมธรรม์อื่นที่จ่ายค่าเบี้ยถูกลง เพราะเห็นว่าแอมมีปัญหาเรื่องเงิน โดยเธอพยายามติดต่อไปคุยกับแด้เรื่องนี้ แต่แอมบอกว่าอย่าเพิ่งโทรมาแด้ โดยอ้างว่ากำลังทะเลาะกันเรื่องเงินอยู่ ทั้งที่ตอนแรกที่มาปรึกษาเรื่องทำประกันแอม ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีปัญหาเรื่องเงินเลย หลังจากนั้นประมาณเดือนมีนาคม เธอก็ได้ข่าวว่าแด้เสียชีวิต ยอมรับว่ารู้สึกตกใจไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ส่วนกรมธรรม์ถือว่าทำไม่สำเร็จเพราะแอม ไม่ยอมมาดำเนินการเรื่องเอกสารตามที่บริษัทร้องขอไป
สำหรับช่วงบ่าย ตำรวจ ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่นิติเวชและแพทยสภา มาดูเรื่องสภาพศพของผู้เสียชีวิตในคดีแอม ไซยาไนด์ เพื่อประกอบสำนวนคดี โดยตอนนี้ ศาลฯ ได้อนุมัติหมายจับแอม รวม 15 คดี แบ่งเป็นหมายจับในคดีฆ่าคนตาย 14 คดี และพยายามฆ่าอีก 1 คดี
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) พล.ต.อ สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีแอม ไซยาไนด์ พร้อมกับเชิญบุคลากรทางแพทย์ และเพื่อนของแอมที่เป็นนายหน้าประกันมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ช่วงหนึ่ง พล.ต.อ สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการเร่งขยายผลเส้นทางการเงิน จำนวน 78 ล้าน ที่พบว่ามีการหมุนเวียนในบัญชีของแอม ในช่วงปี 63-65 เบื้องต้นพบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเงินก้อนนี้ประมาณ 11-12 คน โดยคาดว่าวันนี้จะมีความชัดเจนเรื่องเส้นทางการเงินทั้งหมดภายในวันนี้ และตอนนี้ตำรวจมีไทม์ไลน์การก่อเหตุของแอมแล้ว โดยพบว่าทุกคนที่เสียชีวิตจะอยู่กับแอมประมาณ 6-8 ชั่วโมง โดยปี 58 และ 62 มีจำนวนผู้เสียชีวิตน้อย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นในช่วงปี 64 และ 65 ซึ่งตำรวจรู้เหตุผลแล้วว่าเป็นเพราะอะไร เเต่ไม่ขอลงรายละเอียด บอกได้แค่ว่า “เมื่อไหร่ที่ยาอยู่ในมือ จำนวนผู้เสียชีวิตจะสูงขึ้น” ย้ำว่าหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจะดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.อ สุรเชษฐ์ ยังยอมรับว่าพฤติกรรมของแอม เข้าข่ายการเป็นฆาตกรต่อเนื่อง พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า นิยามของฆาตกรต่อเนื่อง คือ ต้องฆ่าคนตาย 2 ขึ้นไป และมีระยะเวลาในการฆ่าห่างกัน โดยวัตถุประสงค์ของฆาตรต่อเนื่องผู้หญิง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องทรัพย์สิน โดยใช้วิธีวางยาพิษ และเหยื่อส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ตัว ฆ่าได้ไม่เว้นสามี
ขณะที่ ‘ใหม่’ ซึ่งเป็นนายหน้าประกันและเป็นเพื่อนสมัยมัธยมของ ‘แอม ไซยาไนด์’ เปิดเผยว่า แอมเคยมาปรึกษาเรื่องการทำกรมธรรม์ พรีเมียม ให้กับ ‘แด้’ ซึ่งเป็นอดีตสามี โดยมีวงเงินประกันรับผลประโยชน์สูงถึง 7 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกันปีละประมาณ 1 แสนบาท
พร้อมเล่าย้อนให้ฟังว่า ในช่วงต้นปี 2566 แอม ได้มาปรึกษาว่าอยากทำประกันสุขภาพให้กับแด้ เพราะเเด้ เพิ่งไปผ่าตัดริดสีดวงมา จึงอยากได้ประกันที่ครอบคลุมการดูแลคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด แต่พอคุยไปคุยมา แอมบอกว่าอยากมีทุนชีวิต ในกรณีที่แด้เสียชีวิตด้วยเธอจึงแนะนำกรมธรรม์ที่มีทั้งประกันอุบัติและประกันสุขภาพในฉบับเดียวกันให้กับแอม โดยชื่อผู้รับผลประโยชน์ของกรมธรรม์นี้ ตอนแรกเป็นชื่อของลูกสาวแอมที่เป็นลูกติด ไม่ใช่ลูกของแด้ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นแอม โดยระหว่างที่คุยเรื่องนี้แด้และลูกสาวของแอม ก็อยู่ด้วยตลอดเวลาซึ่งทั้งคู่ยังดูรักกันดีอยู่
ส่วนเหตุผลของการเปลี่ยนชื่อผู้รับผลประโยชน์ ใหม่คิดว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหากแด้เสียชีวิตก่อนที่ลูกสาวแอมจะบรรลุนิติภาวะ ยังไงแอมเป็นผู้รับผลประโยชน์อยู่ดี จึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อตัวเอง
แต่ระหว่างที่อยู่ในขั้นตอนของการทำกรมธรรม์ มีเอกสารบางอย่างไม่ครบ ทางบริษัทจึงขอเอกสารเพิ่มเติมจากแอม แต่แอมกลับไม่ยอมมาดำเนินการและตัดจบไปดื้อๆ ว่า ยังไงสุดท้ายคงไม่มีเงินจ่ายค่าประกันอยู่ดี ใหม่จึงแนะนำให้ทำกรมธรรม์อื่นที่จ่ายค่าเบี้ยถูกลง เพราะเห็นว่าแอมมีปัญหาเรื่องเงิน โดยเธอพยายามติดต่อไปคุยกับแด้เรื่องนี้ แต่แอมบอกว่าอย่าเพิ่งโทรมาแด้ โดยอ้างว่ากำลังทะเลาะกันเรื่องเงินอยู่ ทั้งที่ตอนแรกที่มาปรึกษาเรื่องทำประกันแอม ไม่ได้มีท่าทีว่าจะมีปัญหาเรื่องเงินเลย หลังจากนั้นประมาณเดือนมีนาคม เธอก็ได้ข่าวว่าแด้เสียชีวิต ยอมรับว่ารู้สึกตกใจไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ส่วนกรมธรรม์ถือว่าทำไม่สำเร็จเพราะแอม ไม่ยอมมาดำเนินการเรื่องเอกสารตามที่บริษัทร้องขอไป
สำหรับช่วงบ่าย ตำรวจ ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่นิติเวชและแพทยสภา มาดูเรื่องสภาพศพของผู้เสียชีวิตในคดีแอม ไซยาไนด์ เพื่อประกอบสำนวนคดี โดยตอนนี้ ศาลฯ ได้อนุมัติหมายจับแอม รวม 15 คดี แบ่งเป็นหมายจับในคดีฆ่าคนตาย 14 คดี และพยายามฆ่าอีก 1 คดี