












‘อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์’ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำแผ่นป้ายไวนิลรายชื่อข้าราชการตำรวจ จำนวน 16 นาย จาก 100 กว่ารายชื่อ ที่อ้างว่าเป็นเครือข่ายตำรวจที่มีความเชื่อมโยงกับเว็บพนัน ตั้งแต่ระดับ ‘อดีตผู้บัญชาการ ตำรวจ แห่งชาติ’ จนถึง ‘ร้อยตำรวจโท’ มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ที่ บริเวณ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
‘อัจฉริยะ’ อ้างว่า ‘หัวหน้าขบวนการ’ ของเครือข่ายตำรวจกลุ่มนี้ คือ พล.ต.อ. อักษรย่อ ‘ส.’ อดีต ผบ.ตร. คอยดูแลเครือข่ายเว็บพนันในไทยกว่า 70% โดยมีลูกน้องหลายสังกัด ระดับ ‘พล.ต.ท.’ หลายคนรับช่วงดูแลต่อ รวมถึงมีกลุ่มตำรวจไซเบอร์ คอยให้การช่วยเหลือ ทั้งเว็บพนันของสารวัตรซัว และเว็บพนันมาเก๊า 888 ของตระกูล 4 บ. รวมถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา ทำให้ตำรวจสอบสวนกลางไม่สามารถดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับนายตำรวจอีก 200-300 นาย
นอกจากนี้ ‘อัจฉริยะ’ ยังนำหลักฐานเอกสารเส้นทางการเงิน ภาพถ่ายบุคคล และเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลของสโมสรฟุตบอลในพื้นที่ภาคเหนือ ที่อ้างว่าเครือข่ายตำรวจกลุ่มนี้ ใช้เป็นแหล่งฟอกเงินและเกี่ยวข้องกับธุรกิจเว็บพนัน มาเชื่อมโยงให้เห็นว่าในสโมสรฟุตบอลดังกล่าว มีตำรวจหลายนายและเจ้าของเว็บพนัน มีชื่อป็นคณะกรรมการอยู่ด้วย โดยมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปยังตำรวจ ทั้ง 16 ที่มีชื่อยู่บนป้ายไวนิลด้วย ซึ่งแต่ละคนมีเส้นทางการเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
และมีเส้นทางการโอนเงิน ไปยังเครือข่ายที่เป็นนายตำรวจตามรายชื่อทั้ง 16 คนด้วย ซึ่งนายอัจฉริยะบอกว่า เส้นทางการเงินเหล่านี้ไปถึงตำรวจระดับสูงคนละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
เบื้องต้น ‘อัจฉริยะ’ บอกว่าได้แจ้งความเอาผิดเครือข่ายตำรวจกลุ่มนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ไว้แล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน 2 คดี คือ คดีของแฟนดาราสาวชื่อดัง และคดีของลูกชายอดีตผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 ส่วนคดีของสารวัตรซัว อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และแม้ส่วนตัวจะไว้ใจ พล.ต.ท.จิรภพ แต่ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด ตำรวจระดับนายพลได้หรือไม่ เพราะเครือข่ายของสารวัตรซัว เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล โดยหลังจากนี้เขาจะนำรายชื่อตำรวจนครบาล ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนและเว็บพนันออนไลน์มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง
‘อัจฉริยะ’ อ้างว่า ‘หัวหน้าขบวนการ’ ของเครือข่ายตำรวจกลุ่มนี้ คือ พล.ต.อ. อักษรย่อ ‘ส.’ อดีต ผบ.ตร. คอยดูแลเครือข่ายเว็บพนันในไทยกว่า 70% โดยมีลูกน้องหลายสังกัด ระดับ ‘พล.ต.ท.’ หลายคนรับช่วงดูแลต่อ รวมถึงมีกลุ่มตำรวจไซเบอร์ คอยให้การช่วยเหลือ ทั้งเว็บพนันของสารวัตรซัว และเว็บพนันมาเก๊า 888 ของตระกูล 4 บ. รวมถึงกลุ่มทุนจีนสีเทา ทำให้ตำรวจสอบสวนกลางไม่สามารถดำเนินคดีกับกลุ่มคนเหล่านี้ได้ เพราะอาจส่งผลกระทบกับนายตำรวจอีก 200-300 นาย
นอกจากนี้ ‘อัจฉริยะ’ ยังนำหลักฐานเอกสารเส้นทางการเงิน ภาพถ่ายบุคคล และเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคลของสโมสรฟุตบอลในพื้นที่ภาคเหนือ ที่อ้างว่าเครือข่ายตำรวจกลุ่มนี้ ใช้เป็นแหล่งฟอกเงินและเกี่ยวข้องกับธุรกิจเว็บพนัน มาเชื่อมโยงให้เห็นว่าในสโมสรฟุตบอลดังกล่าว มีตำรวจหลายนายและเจ้าของเว็บพนัน มีชื่อป็นคณะกรรมการอยู่ด้วย โดยมีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปยังตำรวจ ทั้ง 16 ที่มีชื่อยู่บนป้ายไวนิลด้วย ซึ่งแต่ละคนมีเส้นทางการเงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
และมีเส้นทางการโอนเงิน ไปยังเครือข่ายที่เป็นนายตำรวจตามรายชื่อทั้ง 16 คนด้วย ซึ่งนายอัจฉริยะบอกว่า เส้นทางการเงินเหล่านี้ไปถึงตำรวจระดับสูงคนละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
เบื้องต้น ‘อัจฉริยะ’ บอกว่าได้แจ้งความเอาผิดเครือข่ายตำรวจกลุ่มนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ไว้แล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน 2 คดี คือ คดีของแฟนดาราสาวชื่อดัง และคดีของลูกชายอดีตผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 ส่วนคดีของสารวัตรซัว อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง และแม้ส่วนตัวจะไว้ใจ พล.ต.ท.จิรภพ แต่ยอมรับว่าไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด ตำรวจระดับนายพลได้หรือไม่ เพราะเครือข่ายของสารวัตรซัว เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล โดยหลังจากนี้เขาจะนำรายชื่อตำรวจนครบาล ที่เกี่ยวข้องกับบ่อนและเว็บพนันออนไลน์มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้ง