‘โฆษกอัยการ’ แจงคืนสำนวน ‘เด็กกราดยิง’ เหตุป่วย-สู้คดีไม่ได้

29 ธ.ค. 2566 - 10:22

  • โฆษกอัยการสูงสุด แจงตีคืนสำนวนคดี 'เยาวชน' กราดยิงพารากอน แพทย์ยืนยันเด็กยังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ หลังหมดเวลาผัดฟ้อง 31ธ.ค.นี้ แพทย์อาจขอตัวรักษาต่อ จนกว่าจะหายและสามารถสู้คดีได้

Attorney-General-Shootings-Youth-SPACEBAR-Hero (1).jpg

ประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงกรณีอัยการสูงสุดตีกลับสำนวนให้ทางพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน คดีเยาวชนก่อเหตุกราดยิงห้างดัง ว่า เมื่อคืนสำนวนไปแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะต้องงดการสอบสวน ไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 14 เนื่องจากกระบวนการใดๆที่พนักงานสอบสวน ดำเนินการไปโดยไม่ยึดหลักกฎหมายดังกล่าวก็ต้อง ถือว่าเป็นกระบวนการสอบสวนที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย 

ซึ่งคดีนี้เมื่อได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน ศจีมาศ บัวรอด อัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ในฐานะหัวหน้าพนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีและคณะทำงานอัยการได้ตรวจสำนวนคดีนี้แล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ต้องหาที่เป็นเด็กยังมีอาการป่วยอยู่ และเป็นคนไข้ของสถาบันกัลยาราชนครินทร์มาโดยตลอด โดยมีใบรับรองประเมินผลการตรวจรักษายืนยันว่าผู้ต้องหายังไม่สามารถต่อสู้คดีได้ เมื่อข้อเท็จจริงทางการแพทย์ยืนยันเช่นนี้ การพิจารณาของพนักงานอัยการไม่มีประเด็นอื่นนอกจากคืนสำนวนกลับไปให้พนักงานสอบสวนรอกระบวนการบำบัดรักษาจากคุณหมอที่ประเมิน ตรวจผู้ต้องหาว่าอยู่ในภาวะปกติ และสามารถต่อสู้คดีได้แล้ว ภายในอายุความ 20 ปี

เมื่อการสอบสวนชอบด้วยกฎหมายและทำการสอบสวนเสร็จแล้วค่อยส่งสำนวนให้ พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายอีกครั้ง จากการประสานกับคุณหมอทราบในเบื้องต้นว่าช่วงเดือน ม.ค. 2567 คณะกรรมการตรวจรักษาจะมีการประชุมเพื่อประเมินอาการของผู้ต้องหาอีกครั้ง แต่การควบคุมตัวตามกฎหมายจะครบกำหนดระยะผัดฟ้องครั้งสุดท้าย ในวันที่ 31 ธ.ค. นี้

ประยุทธ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางคุณหมอและคณะกรรมการตรวจรักษาผู้ต้องหา จะมีการเดินทางไปพบผู้ปกครองของผู้ต้องหา และจะมีการแจ้งว่าเด็กยังมีอาการ ป่วยอยู่ทางทีมที่บำบัดรักษาจะขอรับตัวไปบำบัดรักษาต่อหากผู้ปกครองเข้าใจและอนุญาต ถ้าคุณหมอก็จะรับตัว ผู้ต้องหากลับไปเป็นคนไข้เพื่อรักษาต่อตามปกติ แต่สมมติว่าผู้ปกครองไม่ยอมและไม่อนุญาต หากทางคณะกรรมการของแพทย์ประเมินแล้วว่าจำเป็นจะต้องดูแล ผู้ต้องหาเพื่อป้องกันอันตราย 

สำหรับตัวผู้ต้องหาเอง และสังคมอาจจะต้องใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 มาตรา 22 บังคับ ที่จะเอาตัวผู้ต้องหาไปรักษาตัวต่อ ซึ่งระยะเวลาการควบคุมตัวของ แพทย์ผู้รักษา มีกรอบกฎหมายชัดเจนอยู่ใน พ.ร.บ.สุขภาพจิต พ.ศ.2551 จะมีการแจ้งผลการตรวจรักษาให้กับพนักงานสอบสวนทุก 180 วัน ถ้ายังไม่หายก็สามารถขยายได้อีก 180 วันไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ต้องหาจะหายและสามารถต่อสู้คดีได้ เพราะเราไม่สามารถจะนำคนป่วยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ 

แต่ถ้าหายป่วยเเล้วก็ได้ไม่ต้องรอ 180 วัน ทีมแพทย์ที่รกษาสามารถรายงานให้พนักงานสอบสวนทราบเพื่อดำเนินการสอบสวนได้ทันที

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์