‘บิ๊กต่าย’ ยิ้มหวานต้านภัยโจ๊ก ปัดเสี้ยนอยากเป็น ‘ผบ.ตร.’

26 เมษายน 2567 - 06:25

chada-big-tai-surachate-police-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘บิ๊กต่าย’ ยิ้มหวานต้านภัยโจ๊ก ปัดเสี้ยนอยากเป็น ‘ผบ.ตร.’ เมินถูกมองเป็นคู่ขัดแย้ง มั่นใจทำทุกอย่างตามกฎหมายไม่กลัวติดคุก ยันไม่เคยหลอกนายกฯ

  • ‘ชาดา’ ขอสื่ออย่าขยายปม ‘โจ๊ก-ต่อ-ต่าย’ มองเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่กระทบต่อองค์กรตำรวจ เชื่อ ‘สส-สว.’ งดจ้อปม ‘โจ๊ก’ แฉกระบวนการสรรหา ป.ป.ช. ไม่ชอบ เพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุม

“ผมไม่เอาสมองกับเวลามาทำเรื่องอย่างนี้หรอก”

เป็นคำตอบของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้สั่งให้ปลดป้ายชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากหน้าห้องทำงานภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่วนตัวมีอะไรต้องทำมากกว่าการไปปลดป้ายชื่อคนอื่น และหากจะปลดคงปลดป้ายชื่อของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ ไปแล้ว 

การตอบคำถามของ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ เกิดขึ้นภายในงานแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ มีของกลางเป็นยาเสพติดกว่า 5 ล้านเม็ด ที่ตำรวจภูธรภาค 1 โดยมี ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว

chada-big-tai-surachate-police-SPACEBAR-Photo02.jpg

ใจความสำคัญที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ตอบคำถามผู้สื่อข่าววันนี้ (26 เม.ย.) คือยืนยันว่า ตัวเองดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะตั้งข้อสังเกตหรือพาดพิงอะไรถือว่าเป็นสิทธิ์ ย้ำการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 และกฎ ก.ตร. อย่างเคร่งครัด ไม่มีปัจจัยอื่นมาแทรกแซง และไม่ได้ตัดสินใจด้วยความรู้สึกส่วนตัว ส่วนขบวนการ 4 ต. ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างถึงเมื่อวานนี้ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีมูลความจริงแค่ไหน 

ย้ำทุกการตัดสินใจในฐานะรักษาการ ผบ.ตร. พร้อมยอมรับผลกระทบต่างๆ ที่อาจตามมา และพร้อมชี้แจงข้อสงสัยประเด็นต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม มองการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ถือเป็นสิทธิ์ของตำรวจทุกคน และหากรู้สึกยังไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้  พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ย้ำไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร

chada-big-tai-surachate-police-SPACEBAR-Photo01.jpg

ใจความสำคัญที่ พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ตอบคำถามผู้สื่อข่าววันนี้ (26 เม.ย.) คือยืนยันว่า ตัวเองดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะตั้งข้อสังเกตหรือพาดพิงอะไรถือว่าเป็นสิทธิ์ ย้ำการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 และกฎ ก.ตร. อย่างเคร่งครัด ไม่มีปัจจัยอื่นมาแทรกแซง และไม่ได้ตัดสินใจด้วยความรู้สึกส่วนตัว ส่วนขบวนการ 4 ต. ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างถึงเมื่อวานนี้ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีมูลความจริงแค่ไหน 

ย้ำทุกการตัดสินใจในฐานะรักษาการ ผบ.ตร. พร้อมยอมรับผลกระทบต่างๆ ที่อาจตามมา และพร้อมชี้แจงข้อสงสัยประเด็นต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม มองการที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ถือเป็นสิทธิ์ของตำรวจทุกคน และหากรู้สึกยังไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้  พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ ย้ำไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร

ส่วนประเด็นที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พูดในทำนองว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ไปหลอกล่อให้นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กลับมาปฏิบัติงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนในเวลาต่อมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ หัวเราะ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้หลอกนายกฯ ย้ำท่านเป็นถึงนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของชาติ

“ผมคือตำรวจคนหนึ่งเท่านั้นเอง จะเอาอะไรไปหลอกลวงระดับบริหารประเทศได้ครับ ด้วยสติปัญญา ด้วยความคิดต่างๆ ผมจะไปหลอกอะไรท่าน ท่านเป็นนายกฯ”

นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ยังชี้แจงว่า ตัวเองไม่เคยคิดอยากกระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะมองอย่างไรถือเป็นสิทธิ์ ย้ำไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งและไม่ได้มีอคติกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และเรื่องศักดิ์ศรีหรือเรื่องติดคุก เมื่อเป็นตำรวจแล้วต้องเตรียมรับสถานการณ์เหล่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างที่ต้องทำงาน และส่วนตัวอยากใช้ชีวิตเหมือนตำรวจทั่วไป ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถาม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ว่ามีอะไรอยากฝากถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า ไม่มี ไม่ฝาก ก่อนยิ้มออกมาเล็กน้อย

chada-big-tai-surachate-police-SPACEBAR-Photo03.jpg

ทั้งนี้ ระหว่างที่อยู่ในช่วงถามตอบ ชาดา ได้พยายามพูดแทรกเพื่อขอให้ผู้สื่อข่าวหยุดถามเรื่อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และขอให้โฟกัสที่งานแถลง ขอสื่ออย่าขยายความในเรื่องนี้มากเกินไป

“เชื่อว่าท่านรักษาการฯ ทำไปตามบทบาทหน้าที่ของรักษาการฯ ส่วน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็มีสิทธิ์ที่จะแก้ต่างตามสิทธิ์ของตัวเอง”

สำหรับความขัดแย้งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชาดา มองว่าไม่กระทบต่อองค์กรตำรวจ และนโยบายในส่วนของกระทรวงมหาดไทยทั้งเรื่องปราบปรามผู้มีอิทธิพลและการดูแลความเรียบร้อบ เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่ตัวองค์กร 

ส่วนประเด็นที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร แสดงความเห็นทำนองว่า สส. และ สว. ดูเงียบผิดปกติ ไม่มีการออกมาแอคชั่นเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่ากระบวนการสรรหา ป.ป.ช. มีปัญหา ชาดา มองว่าอาจะเป็นเพราะช่วงนี้สภาปิดสมัยการประชุมจึงยังไม่มีการเคลื่อนไหว แต่หลังจากสภาเปิดสมัยประชุมแล้วน่าจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้

chada-big-tai-surachate-police-SPACEBAR-Photo05.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์