ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมรับมือฝนตกและน้ำท่วม หลังกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ปัจจุบัน กทม.พร่องน้ำทุกพื้นที่ รวมถึงดำเนินการโครงการใหญ่ เช่น โครงการทำเขื่อนกั้นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในจุดที่ฟันหลอ โดยนำบทเรียนจากปี 2565 เพื่อแก้ไขจุดน้ำท่วมต่างๆ แต่บางจุดอาจทำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากเพิ่งได้รับงบประมาณ เช่น การก่อสร้างประตูน้ำ ซึ่งการเตรียมการภาพรวมทำได้ 50% ทำให้มีจุดเสี่ยงน้อยลงและสามารถนำทรัพยากรมาเสริมจุดที่ยังดำเนินการไม่เสร็จได้ และปีนี้จะดำเนินโครงการต่างๆ ต่อเนื่องให้ดีขึ้น เช่น ซอยสุขุมวิท 101/1 ปัจจุบันมีทางระบายน้ำลงคลองสะดวกขึ้น ช่วยบรรเทาน้ำท่วมได้มาก รวมถึงบริเวณต้นซอยอ่อนนุช ได้เชื่อมท่อลอดถนนสุขุมวิทเพื่อระบายน้ำ ปัจจุบันน้ำไม่ท่วมแล้ว
ทั้งนี้ หลายจุดได้นำบทเรียนจากปีที่แล้วมาแก้ไข ซึ่งทำได้ดี แต่ยังมีปัญหาหนักใจบริเวณคลองเปรมประชากร และคลองลาดพร้าว ซึ่งยังมีบ้านเรือนริมคลองอาศัยอยู่ ไม่สามารถขุดลอกคลองได้อย่างเต็มที่ ต้องอาศัยเวลาระยะยาว เพื่อดูแลให้ประชาชนริมคลอง ย้ายขึ้นมาอยู่ในพื้นที่ที่จัดสรรไว้
ส่วนเรื่องการลอกท่อระบายน้ำ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ยังดำเนินการลอกท่อให้ แต่อาจจะล่าช้า เนื่องจากกำลังคนไม่เพียงพอ ซึ่งกทม.อาจจ้างเอกชนเข้าไปช่วยเสริม แต่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมาว่า เอกชนบางรายทำงานไม่ละเอียด ดังนั้น การจ้างเอกชนต้องเน้นเรื่องคุณภาพ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าที่กรมราชทัณฑ์ทำไว้
ทั้งนี้ หลายจุดได้นำบทเรียนจากปีที่แล้วมาแก้ไข ซึ่งทำได้ดี แต่ยังมีปัญหาหนักใจบริเวณคลองเปรมประชากร และคลองลาดพร้าว ซึ่งยังมีบ้านเรือนริมคลองอาศัยอยู่ ไม่สามารถขุดลอกคลองได้อย่างเต็มที่ ต้องอาศัยเวลาระยะยาว เพื่อดูแลให้ประชาชนริมคลอง ย้ายขึ้นมาอยู่ในพื้นที่ที่จัดสรรไว้
ส่วนเรื่องการลอกท่อระบายน้ำ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ยังดำเนินการลอกท่อให้ แต่อาจจะล่าช้า เนื่องจากกำลังคนไม่เพียงพอ ซึ่งกทม.อาจจ้างเอกชนเข้าไปช่วยเสริม แต่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมาว่า เอกชนบางรายทำงานไม่ละเอียด ดังนั้น การจ้างเอกชนต้องเน้นเรื่องคุณภาพ ซึ่งต้องไม่น้อยกว่าที่กรมราชทัณฑ์ทำไว้