ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่บุตรสาวคนโตที่กำลังศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รีดเงินกว่า 600,000 บาทว่า มีบุคคลที่แอบอ้างชื่อ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ สอนบัว เป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทรศัพท์มาที่บุตรสาว แจ้งว่า มีคดีความและอย่านำเรื่องนี้ไปบอกพ่อแม่หรือญาติพี่น้อง พร้อมระบุว่า มีหนทางในการช่วยเหลือโดยให้โอนเงินเพื่อช่วยเหลือคดี และให้พูดคุยผ่าน LINE
โดยบุตรสาวได้โอนเงินครั้งแรก 56,000 บาทในเวลาประมาณ 08.00 น. หลังจากนั้น ก็มีการเปิดวิดีโอคอลพูดคุย อีกฝ่ายใส่ชุดเป็นตำรวจ อ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีการบอกถึงคดีความว่าเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็ได้ให้โอนเงินครั้งที่ 2 บุตรสาวก็ได้โทรศัพท์มาหาแล้วบอกว่า ต้องจ่ายค่าเทอม จึงให้บุตรสาวส่งใบเสร็จการจ่ายค่าเทอมมา เพราะความจริงจะต้องจ่ายเดือนมกราคม แต่เนื่องจากบุตรสาวเป็นคนตั้งใจเรียน และไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีในด้านการเงิน ก็ได้โอนเงินชำระค่าเทอมผ่านไปยังบุตรสาว หลังจากนั้นบุตรสาวก็ได้โอนเงินต่อไปไปให้แก๊งคลอเซ็นเตอร์ ผ่านบัญชีม้า 100,000 บาท 2 ครั้ง รวม 200,000 บาท หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินไปแล้ว 3 ครั้ง ก็ได้กล่อมให้บุตรสาวกลับบ้านต่างจังหวัดเพื่อไปหาเงิน ไม่เช่นนั้น จะทำให้คุณพ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะ Blackmail รูปที่วิดีโอคอลกันไว้ บุตรสาวจึงได้เดินทางกลับไปที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเอาเงินที่คุณยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 650,000 บาท
ทั้งนี้ การกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทำต่อเด็ก และเป็นบุตรของบุคคลสาธารณะในสังคม โดยใช้วาทะในการข่มขู่นักศึกษาเหล่านี้ว่า ถ้าไม่กระทำตาม คุณพ่อคุณแม่จะเสียชื่อเสียงและจะนำรูปที่มี ส่งให้มหาวิทยาลัย ทำให้เด็กเกิดความกลัว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น บุตรสาวก็ได้โทรมาหาและเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ให้บุตรสาวแจ้งความดำเนินคดี ที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
ชัยชนะ กล่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย ซึ่งจริงๆ แล้ว วันนี้รัฐบาลหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปรับตามเรื่องเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ส่วนตัวยังมีความโชคดีอยู่ว่า เขาไม่มาหลอกนำพาบุตรสาวไปดำเนินคดีแล้วกักขังไว้เหมือนที่คนอื่นโดน เพราะปัจจุบันก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่ ต้องยอมรับว่า เด็กหลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ถึงกระบวนการการกระทำแบบนี้ ก็จะโดนหลอกลวงแบบนี้อยู่บ่อยๆ
พร้อมกันนี้ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ ชัยชนะได้เปิดหลักฐานการพูดคุยระหว่างบุตรสาวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผ่าน LINE ซึ่งมีเนื้อหาการรายงานความเคลื่อนไหวของบุตรสาวอยู่ตลอดและมีการข่มขู่ ยังโชคดีที่บุตรสาวตัดสินใจบอกและแจ้งความดำเนินคดี
ชัยชนะ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้ ถ้าเราไม่จริงจังในการแก้ไข ไม่ทราบว่าคนไทยจะต้องสังเวยกับเรื่องแบบนี้ อีกนับเท่าไหร่ และบัญชีม้าทั้ง 3 บัญชี บุตรสาวได้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อเช็คเส้นทางทางการเงินว่า หลังจากโอนเข้าแล้วเส้นทางการเงินนี้ไปที่ไหน ซึ่งบัญชีม้าเหล่านี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะรับเงินกว่า 600,000 บาท เห็นแค่ค่าจ้างหมื่นสองหมื่น ดังนั้นต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ถึงตัวการใหญ่ให้ได้ แล้วเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาโทรกลับก็ไม่ติด ส่วนห้อง LINE เมื่อบุตรสาวดึงตนเองเข้าไปในกลุ่ม ผู้ที่แอบอ้างเป็น DSI ก็ได้ออกจาก LINE ไปทันที และติดต่อไม่ได้อีกเลย
“ผมขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ เร่งรัดปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสตช. ต้องมีนโยบายปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะไม่ใช่แค่ลูกสาวผมคนเดียวที่ถูกกระทำ เหยื่อทุกคนก็ต้องได้รับความเป็นธรรมในคดีเหล่านี้ ผมในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรก็จะนำเรื่องนี้ เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม เพราะที่ผ่านมา ผมก็ยังพิจารณาเรื่องแบบนี้อยู่มาก สุดท้ายไม่คิดว่าสิ่งที่เราดำเนินการช่วยเหลือสังคมอยู่และปราบปรามอยู่วันนี้ จะมาเกิดขึ้นกับลูกสาวของผม เพราะกระทบกระทั่งจิตใจ ลูกสาวร้องไห้ หลังจากนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลสภาพจิตใจ และผมขอประณามพฤติกรรมคนเหล่านี้ว่า เลวทรามมาก ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ มีคดีจริงๆ หากท่านมีคดีจริงๆ ขอให้ไปที่โรงพัก สถานีตำรวจหรือหน่วยงานราชการ อย่าไปหลงเชื่อกับคำพูดทางโทรศัพท์ อย่าโอนเงินให้เขา เพราะข้อเท็จจริงไม่มีแบบนี้แน่นอน รวมถึงการลงทุน ก็ขออย่าไปหลงเชื่อ อย่าไปเกิดความโลภ ขอวิงวอนประชาชนเรื่องเหล่านี้อย่าหลงเชื่อ”
— ชัยชนะ กล่าว
ส่วนแนวทางการแก้ไข ชัยชนะ แนะนำว่า กสทช.จะต้องตัดเบอร์ทั้งหมด ที่ไม่ได้ลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ และต้องกำหนดว่า ต่างด้าวสามารถใช้ได้คนละไม่เกินกี่เบอร์ รวมถึงบุคคลที่มีเงินเข้าเกินต้องไปตรวจสอบภาษีดูว่า มีการลงทะเบียนธุรกิจหรือมีรายได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องอายัดบัญชีเหล่านี้ ถ้าไม่เริ่มตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ก็ปราบปรามไม่ได้ รวมถึงกลุ่มคนจีนทั้งหลายที่กระทำเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่มีคนไทยร่วมด้วย บอกไว้เลยว่า ควรหยุดพฤติกรรมหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ ฆ่าเพื่อนมนุษย์ เป็นบาปเป็นกำสิ่งที่คุณสร้างไว้มันหนีไม่พ้น อาจจะมีความสุขในวันนี้แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัว ญาติของคุณจะรู้สึกอย่างไร
ส่วนนอกจากพฤติการณ์หลอกโอนเงินยังมีพฤติการณ์อื่นอีกหรือไม่ ชัยชนะ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่กลุ่มนี้ก็ทำคือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์คุยกับบุตรสาวและขู่นำภาพที่คุยไปเผยแพร่ ซึ่งถ้ามีภาพเหล่านี้เผยแพร่ออกไป ก็จะแจ้งความกับผู้ที่แชร์ภาพและเผยแพร่