เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสดรามา ทราย สก๊อต หรือ สิรณัฐ สก๊อต ซึ่งกำลังจะถูกปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ออกมาแฉถึงพฤติกรรมว่า เรื่องนี้เหรียญมี 2 ด้าน พร้อมแนะนำให้ทุกฝ่ายฟังให้ครบถ้วน และทุกด้าน โดยจากการที่ได้สอบถามอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ พบว่า มีการทำสัญญาร่วมงานกันแบบปีต่อปี ตั้งแต่ก่อนที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มองว่า การทำงานไม่ว่าตำแหน่งใด ต่างมีกฎระเบียบ และเห็นด้วยที่ทรายออกมาปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้บอกอธิบดีไปว่า ให้กำลังใจ แต่บางส่วนต้องรับฟังข้อเท็จจริงว่า การทำคอนเทนต์บางเรื่องก็ไปกระทบกับหลายกลุ่ม ซึ่งต้องมาช่วยกันดูว่าเรื่องนี้จะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ โดยไม่อยากให้เป็นเรื่องดรามา สร้างกระแสในสังคมว่ามีการรังแก ถึงได้บอกว่า เหรียญมี 2 ด้าน
“เพราะฉะนั้น ต้องดูให้ครบทุกด้านว่า วันนี้สถานะแต่ละบุคคลเป็นอย่างไร ถ้าเขามาจากครอบครัวที่มีพื้นฐานดี ก็ต้องดูด้วยว่าครอบครัวเขาเป็นอย่างไร ต้องดูหลายๆ อย่าง ส่วนตัวพร้อมรับฟังทุกอย่าง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าปลดนายทรายนั้น ผมเช็กแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ายังไม่ได้ปลด แต่หากจะดำเนินการอะไร ก็เป็นอำนาจของอธิบดี เพราะเป็นที่ปรึกษาอธิบดี ไม่ได้เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี”
เฉลิมชัย กล่าว
เฉลิมชัย กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีอีกหลายคนที่เป็นนักอนุรักษ์ โดยเฉพาะประมงพื้นบ้าน หรือพี่น้องชาวเล ผู้ซึ่งเป็นผู้อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจริงๆ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่งการให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้รายงานเรื่องที่เกี่ยวกับการบุกรุก และการอนุรักษ์พื้นที่ทางทะเล โดยได้สั่งการไปเมื่อวันที่ 21 เม.ย. ซึ่งบางเรื่องเป็นการปฎิบัติของเจ้าหน้าที่ แต่ได้รับผลกระทบ จึงให้มารายงานให้รับทราบ ส่วนการดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามระเบียบเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ประกอบการเห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมชาติ เฉลิมชัย กล่าวว่า จะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น และประกาศในวันนี้ว่า ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เรื่องการดูแลทรัพยากรทางธรรมชาติ เป็นหัวใจการทำงาน และเป็นนโยบายที่ให้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ขอออกตัวว่า ไม่ใช่คนพูดมาก ไม่ใช่คนหิวแสง มั่นใจในการทำงานของตัวเอง ขอให้ทุกคนไปสอบถามเจ้าหน้าที่ได้
เฉลิมชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ ส่วนที่ดีก็ว่ากันไป ส่วนที่ไม่ดี หากยังต้องการให้ทรัพยากรธรรมชาติได้รับการอนุรักษ์ และฟื้นฟูต้องรับไปแก้ไข เช่นเดียวกันกับส่วนราชการที่ยังมีความบกพร่องก็ได้สั่งการให้แก้ไข และขอย้ำว่า อำนาจในการแต่งตั้งที่ปรึกษาเป็นอำนาจของอธิบดี เฉลิมชัยไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย