เปิดใจ ‘สายมู’ หน้าใหม่! เข้าวงการจาก ‘ศรัทธา หรือ งมงาย’

30 ธ.ค. 2567 - 03:01

  • เปิดใจ ‘สายมูหน้าใหม่’ อยากให้ชีวิตดีขึ้น ตัดสินใจ ‘มูฯ’ ครั้งแรกเพราะเห็นจากโซเซียลฯ

  • พระชี้คนเข้าวัดทำบุญ ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรมี “สติ” แยกให้ออกระหว่างศรัทธากับงมงาย

  • นักวิชาการเผย “มนุษย์พึ่งพาสิ่งเหนือธรรมชาติ” มีมาตั้งแต่โบราณ

  • และถ้าเศรษฐกิจย่ำแย่ ยิ่งทำให้คนหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมากขึ้น

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Hero_09c094c98d.jpg

หนึ่งในกิจกรรมในช่วงใกล้วันสิ้นปีที่มักจะเห็นกันในสังคมไทย และกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ ก็คือการเดินทางไปขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล หรือ ‘สายมู’ เพื่อมุ่งหวังให้ในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ สมหวังหรือประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo06_24be43526b.jpg

ทีมข่าวพูดคุยกับ ศุภควัต อุ่นสมบูรณ์กุล ชาวเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เป็น ‘สายมูหน้าใหม่’ กำลังให้ความสนใจกับการทำบุญไหว้พระ หรือขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาเกือบ 1 ปี จุดเริ่มต้นคือเห็นในโลกสังคมออนไลน์ หลายๆ คนนำเสนอว่า ไปขอพรแล้วชีวิตดีขึ้นและรู้สึกว่าชีวิตอยากได้ที่พึ่ง และเห็นว่าน่าสนใจ จึงตัดสินใจลองไปตามที่มีคนรีวิวเอาไว้

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo04_0011288295.jpg

พอหลังจากที่ไปทำครั้งแรกไม่นาน เพียงไม่กี่วันก็ได้ตามที่หวังเอาไว้ ซึ่งตอนนั้นก็ได้ขอพรเกี่ยวกับเรื่องการงานและการเงิน ทำให้รู้สึกว่าการไหว้พระทำบุญ ส่งผลดีกับชีวิตก็เลยทำมาตลอด แต่ไม่ได้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด ถือว่าดีขึ้นตามลำดับ ส่วนสถานที่ที่ไปไหว้หรือทำบุญ ไม่ได้มีอยู่แค่ที่เดียว มักจะหมุนเวียนทำบุญทั้งพื้นที่รอบนอกและในตัวเมืองเชียงใหม่สลับกันไป แล้วแต่โอกาส เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและได้ไปเที่ยวไปในตัว

ศุภควัต อุ่นสมบูรณ์กุล ชาวเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo02_a050420f23.jpg

สำหรับการทำบุญ ขอพร จะทำเดือนละ 2 ครั้ง แต่ละครั้งก็ไม่ได้ทำมากนักประมาณ 100 ถึง 200 บาท หากเป็นวันสำคัญ เช่น วันเกิด วันพระ ก็อาจจะทำเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่เคยเกิน 1,000 บาทต่อครั้ง อย่างช่วงปีใหม่นี้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งช่วงที่จะไม่พลาดในการไหว้พระ ทำบุญ ขอพร เพราะถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี จะได้มีกำลังใจและที่ยึดเหนี่ยว

ศุภควัต อุ่นสมบูรณ์กุล ชาวเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V02_20811c5916.jpg

มองว่าไม่ได้งมงาย เป็นเรื่องของความศรัทธา เพราะแยกแยะและวิเคราะห์ได้ว่า อันไหนที่พอเหมาะ ไม่เกินกำลัง และไม่กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน ก็คิดว่าจะยังคงทำบุญแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ส่วน ‘การท่องเที่ยวสายมู’ ที่กำลังได้รับความนิยม คิดว่าส่วนหนึ่งมาจากสภาพเศรษฐกิจที่อาจจะไม่ดีนัก ทำให้คนต้องการที่พึ่งทางใจ และต้องการทำให้ชีวิตดีขึ้นโดยเร็ว

ศุภควัต อุ่นสมบูรณ์กุล ชาวเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo13_01b4f3c16b.jpg
พระครูสมุห์วรฉัตร สุจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดปากเหมือง จ.เชียงใหม่

ด้านพระครูสมุห์วรฉัตร สุจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดปากเหมือง ต.ขัวมุง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ มีความคิดเห็นว่า การท่องเที่ยวสายมู ถือเป็นสิ่งที่ดี ส่วนใหญ่การไปทำบุญของชาวพุทธ ก็จะไปทำบุญที่วัด เป็นเรื่องดีที่บุคคลหนึ่งยังอยากที่จะเข้าวัดไหว้พระ อาจจะช่วยให้จิตใจของคนผู้นั้นอ่อนโยนหรือสงบลง

เจตนาของแต่คนละก็แตกต่างกันออกไปอีก เช่น ทำบุญปฎิบัติธรรม ขอพร บนบานศาลกล่าว ปัจจุบันนี้ความเชื่อในสังคมมีหลากหลาย แล้วแต่ว่าบุคคลนั้นจะเลือกศรัทธาสิ่งใด ถ้านับถือกราบไหว้บูชาแล้วไม่เดือดร้อนใคร ทั้งตัวเองและผู้อื่นก็สามารถทำได้

พระครูสมุห์วรฉัตร สุจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดปากเหมือง จ.เชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo10_104f33c442.jpg

ในส่วนที่ทำให้ท่องเที่ยวสายมูได้รับความนิยม ปัจจัยหนึ่งก็มาจากคนขาดที่พึ่งทางจิตใจ สิ่งที่จะช่วยบุคคลให้แยกแยะระหว่าง ศรัทธา กับ งมงาย ก็คือ “สติ“ ต้องมีสติอยู่กับตัว การที่คนเราไปไหว้ขอพรก็เป็นการเสริมกำลังใจได้ เป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปสู่สิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ แต่หากไม่มีสติ มีความโลภนำหน้าเห็นคนอื่นมีก็อิจฉา อันนี้ถือว่าเริ่มไม่มีสติ การใช้ชีวิตประจำวันก็อาจจะหลุดออกจากแนวทางที่วางไว้ได้

พระครูสมุห์วรฉัตร สุจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดปากเหมือง จ.เชียงใหม่

พระครูสมุห์วรฉัตร ยังบอกอีกว่า ปีใหม่ 2568 ที่กำลังจะถึงนี้เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะเดินทางไปไหว้พระ ขอพร เนื่องจากเป็นการส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ อย่างการสวดมนต์ข้ามปี เข้าวัดจิตใจสงบ ทิ้งเรื่องไม่ดีไว้ในปีเก่า ปีใหม่ตั้งใจเริ่มใหม่ แถมยังส่งผลดีที่คนจะได้ลดการดื่มแอลกอฮอล์ในการฉลองข้ามปี ซึ่งหากขาดสติก็จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่า การขอพรที่ผ่านมาก็ไม่ช่วยหากเมาขาดสติ

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V08_c59df16e16.jpg

หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนามีอยู่มากมาย แล้วแต่ว่าบุคคลจะเลือกอันไหน แต่สิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆก็คือการมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา รู้สึกว่ากำลังทำอะไรอยู่ หากนึกขึ้นได้ว่ากำลังทำผิด กำลังโลภมาก ก็ให้ดึงตัวเองกลับมา จากเรื่องร้ายก็อาจจะช่วยให้เป็นเรื่องดีได้

พระครูสมุห์วรฉัตร สุจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดปากเหมือง จ.เชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V10_copy_4_6bcf61d7ad.jpg
ชญานิตย์ ยิ้มสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ขณะที่ในมุมของทางวิชาการ ชญานิตย์ ยิ้มสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในอดีตมนุษย์เคยเป็นผู้ไม่รู้มาก่อน เพราะเมื่อเกิดสภาวะการณ์ที่ทำให้หวาดกลัว มนุษย์จะพึ่งพาสิ่งเหนือธรรมชาติที่เป็นที่พึ่งทางใจให้รู้สึกปลอดภัย นำมาซึ่งการเกิดขึ้นของพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธ์ ความเชื่อและวัฒนธรรม สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งเหนือธรรมชาติ ความศรัทธา และการแสวงหาความหมายในชีวิต

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo12_0e87357f97.jpg

ซึ่งการท่องเที่ยวสายมู ไม่ได้เป็นเพียงการเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หรือทำพิธีกรรมเท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างความมั่นใจ ความหวัง การเชื่อมโยงกับชุมชนทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ การวิเคราะห์ในเชิงของความสัมพันธ์กับการท่องเที่ยวในเชิงเศรษฐกิจ จะช่วยส่งเสริมรายได้ให้กับชุมชน และสร้างอัตลักษณ์ร่วมระหว่างผู้คนให้เกิดขึ้นในพื้นที่นั้นๆ ด้วย

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V06_e45629dca8.jpg

หากเป็นในช่วงที่เศรษฐกิจไม่มั่นคง ก็จะทำให้ผู้คนเกิดการพึ่งพาความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น ซึ่งลัทธิความเชื่อ พิธีกรรมและความศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์รวมใจให้กับมนุษย์ทั่วไปที่ยังคงรู้สึกไม่มั่นคงในการใช้ชีวิต โดยเฉพาะในโลกปัจจุบันที่กระแสทุนนิยมโลกได้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของผู้คน ทำให้การใช้ชีวิตในวิถีของทุนนิยมสร้างแรงกดดันให้ผู้คนทางทั้งกายและทางจิตใจ เนื่องด้วยความรู้สึกหวาดกลัวในความล้มเหลวทางการเงิน และกระแสของความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ การไหว้พระขอพรจึงอาจจะเป็นหนึ่งในคำตอบให้กับผู้คนจำนวนมาก

ชญานิตย์ ยิ้มสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V10_copy_72568d91be.jpg

การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถเติมเต็มความมั่นคงทางจิตใจได้ แม้อาจจะไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ยืนยันได้ว่าการพึ่งพาสายมู จะนำมาซึ่งความสำเร็จที่แท้จริง แต่ในแง่ของจิตวิทยาการไหว้พระ ขอพร สามารถกระตุ้นให้ผู้คนบางกลุ่มสามารถดำเนินชีวิตบนความเสี่ยงได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น ด้วยแรงศรัทธาและความเชื่อจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นใจได้

ชญานิตย์ ยิ้มสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V10_b2374714d5.jpg

อย่างไรก็ตาม หากมองในมุมของกระแสโลกาภิวัฒน์วิธีการ มุมมอง ความเชื่อ อาจารย์ชญานิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาจจะมีมิติที่ถูกปรับให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคนั้นๆ มากยิ่งขึ้น ซึ่งในอดีต พิธีกรรมความเชื่อต่างๆ จะเกี่ยวข้องกับความเชื่อท้องถิ่น และยึดโยงกับชุมชนวัฒนธรรมและความสัมพันธ์กับธรรมชาติเป็นสำคัญ เช่น การบูชาธรรมชาติ การขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ตามสถานที่สำคัญทางศาสนา

แต่ในปัจจุบันถูกปรับให้ทันสมัยและผสมผสานกับความเชื่อทางตะวันตกเพิ่มมากขึ้น โดยรวมเอาอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างประเทศเข้ามาผสมผสานกับการมูเตลูดั้งเดิมของวัฒนธรรมตนมากยิ่งขึ้น

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V09_89904bbb71.jpg

ความแตกต่างสำคัญอีกประการคือ การใช้เทคโนโลยีและสื่อสังคมออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ช่วยผลักดันให้สายมูกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ ที่ง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูล พิธีกรรม วัตถุมงคลได้อย่างเป็นวงกว้าง

ชญานิตย์ ยิ้มสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V07_6b0bd08d68.jpg

นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงกับการตลาด และแบรนด์สินค้าที่ต้องการดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ เช่น สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็ถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋าสตางค์ ลิปสติก น้ำหอม โทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งเป็นกระแสเรียกลูกค้า ที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น และการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ ‘สายมู’ ในการปรับตัวกับบริบทสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป แต่แก่นแท้ของ ‘สายมู’ ยังคงอยู่ที่ความศรัทธาและการแสวงหาความมั่นคงทางจิตใจ

ชญานิตย์ ยิ้มสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

Chiang_Mai_Mutelu_reliance_on_supernatural_things_faith_or_superstition_SPACEBAR_Photo_V10_copy_3_0fe1698fa1.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์