









เรียกว่าลีลาดีไม่มีตก! สำหรับ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ที่วันนี้ได้พกไม้กวาดขนไก่และไม้กวาดดอกหญ้า มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ปัดกวาดทำความสะอาดบริเวณป้ายกระทรวงคมนาคม และบริเวณทางเข้ากระทรวง ก่อนเริ่มพิธีกรรมแฉบนกระดานไวท์บอร์ดตามสไตล์ แต่วันนี้พิเศษตรงที่เขาได้ควงลูกสาว ‘ต๊ะ-ตระการตา กมลวิศิษฎ์’ มาร่วมมอบช่อดอกไม้ที่แนบกระดาษระบุข้อความ ‘ปราบโกง’ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ ‘อธิรัตน์ รัตนเศรษฐ’ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมด้วย
นอกจากมอบกำลังใจให้ ‘อธิรัฐ’ แล้ว ‘ชูวิทย์’ ยังได้มอบหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือขอหลักฐานจากเขา มามอบให้ ‘อธิรัฐ’ ด้วย เพราะเชื่อว่า ‘อธิรัฐ’ เป็นข้าราชการน้ำดี และเชื่อว่ามีความจริงใจที่จะแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง รวมถึงนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของ ‘สุขสมรวย วันทนียกุล’ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงพฤติกรรมของผู้ว่าการ รฟม. และ ผู้ว่าการ รฟท. รวม 4 เรื่อง มาให้ ‘อธิรัฐ’ ตรวจสอบด้วย
โดย ‘ชูวิทย์’ อ้างว่า ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ มีพฤติกรรมฮั้วประมูล โดยใช้วิธีตั้งบริษัทคู่เทียบขึ้นมา เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของตัวเองชนะการประมูล ในโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคม กว่า 40 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งต่อมาพบว่า หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และบริษัทคู่เทียบดังกล่าว ได้บริจาคเงินหลักล้านเข้าพรรคภูมิใจไทยด้วย
ส่วนพฤติกรรมของ ‘สุขสมรวย’ พบว่ามีเซ็นเอกสารคำสั่งเกี่ยวกับงบประมาณ แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในโครงการหนึ่ง ที่มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เข้าข่ายทำเกินอำนาจหน้าที่ของเลขาฯ
นอกจากนี้ ‘ชูวิทย์’ ยังฝากถึง ‘ศักดิ์สยาม’ ว่าให้เลิกวิ่งเต้นล้มคดีกับ ป.ป.ช. ได้แล้ว และมองว่าพรรคภูมิใจไทย ควรเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคภูมิใจพัง พร้อมย้ำว่าเขาจะถล่มพรรคภูมิใจไทย ด้วยการแฉเรื่องราวต่างๆ ระหว่างที่มีการหาเสียงเลือกตั้งตามเวทีต่างๆ แน่นอน และที่ต้องออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าหากเปิดเผยช่วงเวลาอื่นคงทำอะไรกับคนกลุ่มนี้ไม่ได้
ขณะที่ ‘อธิรัฐ รัตนเศรษฐ’ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่าหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนจะทันกรอบเวลา 15 วัน ตามที่ ‘ชูวิทย์’ร้องขอหรือไม่ คงตอบไม่ได้ แต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุด พร้อมยอมรับว่าอาจจะต้องชะลอเรื่องการลงนาม เพื่อส่งต่อให้ ครม. พิจารณาต่อไว้ก่อน เพราะต้องดูรายละเอียดมากกว่านี้ก่อน และบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลด้วย จึงไม่มั่นใจว่าจะพิจารณาทันสมัยรัฐบาลนี้หรือไม่ รวมถึงไม่มั่นใจว่าเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการแล้ว จะมีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนประเด็นที่ ‘ชูวิทย์’ อ้างว่า ‘สุขสมรวย’ เซ็นเอกสารงบประมาณแทน รมว.คมนาคม ตามระเบียบสามารถทำได้หรือไม่ ‘อธิรัฐ’ อธิบายว่า เรื่องนี้ต้องไปดูว่า รมว.คมนาคม ได้มอบหมายอำนาจหน้าที่อะไรให้กับ ‘สุขสมรวย’ ในเรื่องนี้หรือไม่
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้จะกระทบกับความสัมพันธ์ของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ‘อธิรัฐ’ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเมืองแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของการบริหารงานในกระทรวง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้กำชับอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกทั้งผู้ใหญ่ทุกคนยังเน้นย้ำให้ปฎิบัติการระเบียบกฎหมายเป็นหลัก
นอกจากมอบกำลังใจให้ ‘อธิรัฐ’ แล้ว ‘ชูวิทย์’ ยังได้มอบหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือขอหลักฐานจากเขา มามอบให้ ‘อธิรัฐ’ ด้วย เพราะเชื่อว่า ‘อธิรัฐ’ เป็นข้าราชการน้ำดี และเชื่อว่ามีความจริงใจที่จะแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง รวมถึงนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของ ‘สุขสมรวย วันทนียกุล’ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงพฤติกรรมของผู้ว่าการ รฟม. และ ผู้ว่าการ รฟท. รวม 4 เรื่อง มาให้ ‘อธิรัฐ’ ตรวจสอบด้วย
โดย ‘ชูวิทย์’ อ้างว่า ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ มีพฤติกรรมฮั้วประมูล โดยใช้วิธีตั้งบริษัทคู่เทียบขึ้นมา เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทของตัวเองชนะการประมูล ในโครงการก่อสร้างของกระทรวงคมนาคม กว่า 40 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งต่อมาพบว่า หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และบริษัทคู่เทียบดังกล่าว ได้บริจาคเงินหลักล้านเข้าพรรคภูมิใจไทยด้วย
ส่วนพฤติกรรมของ ‘สุขสมรวย’ พบว่ามีเซ็นเอกสารคำสั่งเกี่ยวกับงบประมาณ แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในโครงการหนึ่ง ที่มีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท เข้าข่ายทำเกินอำนาจหน้าที่ของเลขาฯ
นอกจากนี้ ‘ชูวิทย์’ ยังฝากถึง ‘ศักดิ์สยาม’ ว่าให้เลิกวิ่งเต้นล้มคดีกับ ป.ป.ช. ได้แล้ว และมองว่าพรรคภูมิใจไทย ควรเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคภูมิใจพัง พร้อมย้ำว่าเขาจะถล่มพรรคภูมิใจไทย ด้วยการแฉเรื่องราวต่างๆ ระหว่างที่มีการหาเสียงเลือกตั้งตามเวทีต่างๆ แน่นอน และที่ต้องออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าหากเปิดเผยช่วงเวลาอื่นคงทำอะไรกับคนกลุ่มนี้ไม่ได้
ขณะที่ ‘อธิรัฐ รัตนเศรษฐ’ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม บอกว่าหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนจะทันกรอบเวลา 15 วัน ตามที่ ‘ชูวิทย์’ร้องขอหรือไม่ คงตอบไม่ได้ แต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุด พร้อมยอมรับว่าอาจจะต้องชะลอเรื่องการลงนาม เพื่อส่งต่อให้ ครม. พิจารณาต่อไว้ก่อน เพราะต้องดูรายละเอียดมากกว่านี้ก่อน และบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาลด้วย จึงไม่มั่นใจว่าจะพิจารณาทันสมัยรัฐบาลนี้หรือไม่ รวมถึงไม่มั่นใจว่าเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการแล้ว จะมีอำนาจในการพิจารณาเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนประเด็นที่ ‘ชูวิทย์’ อ้างว่า ‘สุขสมรวย’ เซ็นเอกสารงบประมาณแทน รมว.คมนาคม ตามระเบียบสามารถทำได้หรือไม่ ‘อธิรัฐ’ อธิบายว่า เรื่องนี้ต้องไปดูว่า รมว.คมนาคม ได้มอบหมายอำนาจหน้าที่อะไรให้กับ ‘สุขสมรวย’ ในเรื่องนี้หรือไม่
เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้จะกระทบกับความสัมพันธ์ของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ‘อธิรัฐ’ ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเมืองแน่นอน เพราะเป็นเรื่องของการบริหารงานในกระทรวง และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ได้กำชับอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกทั้งผู้ใหญ่ทุกคนยังเน้นย้ำให้ปฎิบัติการระเบียบกฎหมายเป็นหลัก