











เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ที่ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ใช้เวลาพูดถึงเรื่องราวที่อ้างว่ามีการทุจริตเกี่ยวกับคนในพรรคภูมิใจไทย โดยวันนี้นอกจากสวมบทเป็น ‘จอมแฉ’ ที่จัดเต็มเรื่องข้อมูลแล้ว ยังสวมบทเป็น ‘จอมแอ็กชัน’ มากลีลา นำพร็อพมาประกอบการอธิบายและสร้างสีสันในหลายช่วง
โดยประเด็นที่ ‘ชูวิทย์’ พูดถึงหลักๆ มี 3 เรื่อง เรื่องแรก คือกรณีที่ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้โอนหุ้นของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้าง ให้ชายชื่อ ‘ศุภวัฒน์’ ซึ่งเป็นลูกน้องของตัวเอง ในช่วงปี 61 เพื่อให้เป็นนอมินีที่ถือครองหุ้นแทน เพื่อเคลียร์ตัวเองก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากที่ ‘ศักดิ์สยาม’ ได้เป็น รมต.คมนาคม แล้ว ยังพบว่ามีการส่งงานที่เกี่ยวกับการก่อสร้างให้ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น หลายโครงการ รวมมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท และล่าสุดเรื่องนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องที่ฝ่ายค้าน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี จากปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น โดยศาลเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยจริง และได้มีคำสั่งให้ ‘ศักดิ์สยาม’ หยุดปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้ (3 มี.ค.) ไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยใหม่
ประเด็นต่อมา คือ กรณีที่ ‘ศักดิ์สยาม- เนวิน ชิดชอบ’ และเครือญาติ ได้รุกล้ำพื้นที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งที่เป็นที่หลวงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2462 แม้ประเด็นนี้ รฟท. จะมีข้อพิพาทกับชาวบ้าน อีก 35 ราย แต่ปี 2560 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่าที่ดินบริเวณเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ เป็นของ รฟท. และให้เพิกถอนโฉนดที่ดินของชาวบ้าน ที่รุกล้ำที่หลวงออกไป แต่กลับพบว่า บ้านพักของ ศักดิ์สยาม-เนวิน และเครือญาติ รวมถึงสนามฟุบอลช้างอารีนา พื้นที่ของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น และสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชันเนล เซอกิต ที่เป็นทรัพย์สินของคนในตระกูลชิดชอบ กลับไม่ถูกรื้อถอนออกไป จึงตั้งข้อสังเกตว่า รฟท. เลือกปฎิบัติหรือไม่ รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่าด้วยเหตุนี้หรือไม่ จึงทำให้คนในตระกูลชิดชอบ ต้องมีชื่อเป็นเจ้ากระทรวงคมนาคม อยู่ในทุกสมัยรัฐบาล
ประเด็นที่สาม คือ เรื่องที่ บริษัท ช.การช่าง (BEM) ครอบครองที่ดิน สปก. ในพื้นที่ ต.หนองเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จำนวน 700 ไร่ อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีชายชื่อ ‘ปลิว’ อยู่เบื้องหลัง ซึ่งบุคคลนี้พบว่ามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ เนวินและศักดิ์สยาม นอกจากนี้ยังพูดถึงการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ บริษัท ช.การช่าง (BEM) ไปร่วมยื่นประมูลด้วย
นอกจากนี้ ‘ชูวิทย์’ ยังบอกว่าข้อมูลทั้งหมดที่เขามี เบื้องต้น ป.ป.ช. ได้ติดต่อมาขอข้อมูลไปตรวจสอบต่อแล้ว พร้อมกับฝากถึง ‘ศักดิ์สยาม’ กรณีที่ถูกศาลฯ สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ว่า ‘มึงจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ และเชื่อว่าศักดิ์สยาม จะต้องติดคุกนานกว่าตัวเองแน่นอน’ และเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เลิกเกรงใจพรรคภูมิใจไทยได้แล้ว อย่าห่วงแต่ว่าพรรคภูมิใจไทย จะช่วยให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งได้นานขึ้น ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเร่งจัดการเรื่องนี้ ก่อนทิ้งท้ายว่าเขาเองก็มีข้อมูลที่เป็นเบื้องหลังและบาดเเผลของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เหมือนกัน แต่ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ ‘เศรษฐา’ เป็นการส่วนตัว และหาก ‘เศรษฐา’ ยังคงทำประโยชน์ให้ประชาชน เขาเองก็คงไม่มีเหตุให้ต้องออกมาพูดอะไร
โดยประเด็นที่ ‘ชูวิทย์’ พูดถึงหลักๆ มี 3 เรื่อง เรื่องแรก คือกรณีที่ ‘ศักดิ์สยาม ชิดชอบ’ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้โอนหุ้นของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้าง ให้ชายชื่อ ‘ศุภวัฒน์’ ซึ่งเป็นลูกน้องของตัวเอง ในช่วงปี 61 เพื่อให้เป็นนอมินีที่ถือครองหุ้นแทน เพื่อเคลียร์ตัวเองก่อนมีการเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากที่ ‘ศักดิ์สยาม’ ได้เป็น รมต.คมนาคม แล้ว ยังพบว่ามีการส่งงานที่เกี่ยวกับการก่อสร้างให้ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น หลายโครงการ รวมมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านบาท และล่าสุดเรื่องนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องที่ฝ่ายค้าน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี จากปมถือหุ้น หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น โดยศาลเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยจริง และได้มีคำสั่งให้ ‘ศักดิ์สยาม’ หยุดปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันนี้ (3 มี.ค.) ไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยใหม่
ประเด็นต่อมา คือ กรณีที่ ‘ศักดิ์สยาม- เนวิน ชิดชอบ’ และเครือญาติ ได้รุกล้ำพื้นที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งที่เป็นที่หลวงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2462 แม้ประเด็นนี้ รฟท. จะมีข้อพิพาทกับชาวบ้าน อีก 35 ราย แต่ปี 2560 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาว่าที่ดินบริเวณเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ เป็นของ รฟท. และให้เพิกถอนโฉนดที่ดินของชาวบ้าน ที่รุกล้ำที่หลวงออกไป แต่กลับพบว่า บ้านพักของ ศักดิ์สยาม-เนวิน และเครือญาติ รวมถึงสนามฟุบอลช้างอารีนา พื้นที่ของ หจก.บุรีเจริญ คอนสตัคชั่น และสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชันเนล เซอกิต ที่เป็นทรัพย์สินของคนในตระกูลชิดชอบ กลับไม่ถูกรื้อถอนออกไป จึงตั้งข้อสังเกตว่า รฟท. เลือกปฎิบัติหรือไม่ รวมถึงตั้งข้อสังเกตว่าด้วยเหตุนี้หรือไม่ จึงทำให้คนในตระกูลชิดชอบ ต้องมีชื่อเป็นเจ้ากระทรวงคมนาคม อยู่ในทุกสมัยรัฐบาล
ประเด็นที่สาม คือ เรื่องที่ บริษัท ช.การช่าง (BEM) ครอบครองที่ดิน สปก. ในพื้นที่ ต.หนองเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จำนวน 700 ไร่ อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยมีชายชื่อ ‘ปลิว’ อยู่เบื้องหลัง ซึ่งบุคคลนี้พบว่ามีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับ เนวินและศักดิ์สยาม นอกจากนี้ยังพูดถึงการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ บริษัท ช.การช่าง (BEM) ไปร่วมยื่นประมูลด้วย
นอกจากนี้ ‘ชูวิทย์’ ยังบอกว่าข้อมูลทั้งหมดที่เขามี เบื้องต้น ป.ป.ช. ได้ติดต่อมาขอข้อมูลไปตรวจสอบต่อแล้ว พร้อมกับฝากถึง ‘ศักดิ์สยาม’ กรณีที่ถูกศาลฯ สั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ ว่า ‘มึงจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ และเชื่อว่าศักดิ์สยาม จะต้องติดคุกนานกว่าตัวเองแน่นอน’ และเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เลิกเกรงใจพรรคภูมิใจไทยได้แล้ว อย่าห่วงแต่ว่าพรรคภูมิใจไทย จะช่วยให้ตัวเองอยู่ในตำแหน่งได้นานขึ้น ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเร่งจัดการเรื่องนี้ ก่อนทิ้งท้ายว่าเขาเองก็มีข้อมูลที่เป็นเบื้องหลังและบาดเเผลของ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย เหมือนกัน แต่ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ ‘เศรษฐา’ เป็นการส่วนตัว และหาก ‘เศรษฐา’ ยังคงทำประโยชน์ให้ประชาชน เขาเองก็คงไม่มีเหตุให้ต้องออกมาพูดอะไร