









ภาพบรรยากาศประชาชนเดินทางกลับบ้านในช่วงสงกรานต์ที่สถานีขนส่งหมอชิตปีนี้ ต้องเรียกว่าแปลกใหม่กว่าทุกปี เพราะนอกจากแคมเปญรณรงค์เมาไม่ขับแล้ว ปีนี้ชายชื่อ ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ยังได้เริ่ม ‘รณรงค์พี้ (กัญชา) ไม่ขับ’ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางด้วย
โดยเมื่อเย็นวานนี้ (11เม.ย.66) ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ พร้อมทีมงาน ได้เดินทางไปส่งไปประชาชนกลับบ้านที่สถานีขนส่งหมอชิต พร้อมกับรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี และรณรงค์เมา-พี้ไม่ขับ โดยชูวิทย์ บอกว่านอกจาก ‘เมาสุรา’ แล้วขับจะเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้ว การ ‘เมากัญชา’ แล้วขับก็อันตรายเช่นกัน จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการตรวจสอบว่าคนขับเมากัญชาก่อนขับหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ขณะที่บรรยากาศการเดินแจกสติกเกอร์ต่อต้านกัญชาเสรีของชูวิทย์ เรียกว่ามีสีสันให้เห็นกันหลายช็อตเลยทีเดียว เพราะนอกจากประชาชนทั่วไป ที่ยกมือขอสติกเกอร์แล้ว ยังพบว่ามีทั้งพระสงฆ์และคนในเครื่องเเบบที่ยกมือขอรับสติกเกอร์ด้วย โดยระหว่างที่เดินแจกสติกเกอร์ ชูวิทย์ ได้อวยพรให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพ และบอกว่าสติกเกอร์นี้จะช่วยให้คุณห่างไกลยาเสพติด ช่วงหนึ่งชูวิทย์ ยังได้เจอ ‘ต้นกัญชา’ ที่ถูกห่อใส่ถุงเป็นอย่างดี โดยหญิงวัยกลางคนที่เป็นเจ้าของต้นกัญชา เธอบอกว่าจะนำต้นกัญชากลับไปปลูกที่บ้านต่างจังหวัด เพื่อหวังใช้รักษาอาการจากโรคเบาหวาน โดยชูวิทย์ ได้แนะนำหญิงคนนี้กลับไปว่าควรปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันก่อนว่าใช้กัญชารักษาดีหรือไม่
นอกจากนี้ชูวิทย์ ยังได้เดินไปที่ชานชลา และพบกับรถโดยสารที่จะเดินทางไป จ.บุรีรัมย์ โดย ชูวิทย์ ได้โบกรถ เพื่อขอให้รถหยุดและติดสติกเกอร์ต่อต้านกัญชาที่บริเวณหน้ารถ และได้ขึ้นไปพูดคุยกับพนักงานขับรถและผู้โดยสาร โดยพนักงานขับรถและผู้โดยสารได้ ชวนให้ชูวิทย์ไปที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่ง ชูวิทย์ ได้ตอบกลับว่าไปแน่นอน
ก่อนเดินทางกลับ ชูวิทย์ ย้ำว่าเขาจะรณรงค์ต่อต้านกัญชาไปจนถึงวันเลือกตั้ง และในช่วงเทศกาลสงกรานต์อาจจะไปปรากฏตัวตามจุดจัดงานต่างๆ เช่น ถนนข้าวสาร และหลังจากสงกรานต์เขาจะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านกัญชา โดยเริ่มจากสามจังหวัดชายแดนใต้ก่อน และจะไล่ขึ้นมาขึ้นมาเรื่อยๆ
โดยเมื่อเย็นวานนี้ (11เม.ย.66) ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ พร้อมทีมงาน ได้เดินทางไปส่งไปประชาชนกลับบ้านที่สถานีขนส่งหมอชิต พร้อมกับรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี และรณรงค์เมา-พี้ไม่ขับ โดยชูวิทย์ บอกว่านอกจาก ‘เมาสุรา’ แล้วขับจะเป็นอันตรายต่อชีวิตแล้ว การ ‘เมากัญชา’ แล้วขับก็อันตรายเช่นกัน จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง มีมาตรการตรวจสอบว่าคนขับเมากัญชาก่อนขับหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
ขณะที่บรรยากาศการเดินแจกสติกเกอร์ต่อต้านกัญชาเสรีของชูวิทย์ เรียกว่ามีสีสันให้เห็นกันหลายช็อตเลยทีเดียว เพราะนอกจากประชาชนทั่วไป ที่ยกมือขอสติกเกอร์แล้ว ยังพบว่ามีทั้งพระสงฆ์และคนในเครื่องเเบบที่ยกมือขอรับสติกเกอร์ด้วย โดยระหว่างที่เดินแจกสติกเกอร์ ชูวิทย์ ได้อวยพรให้ทุกคนเดินทางโดยสวัสดิภาพ และบอกว่าสติกเกอร์นี้จะช่วยให้คุณห่างไกลยาเสพติด ช่วงหนึ่งชูวิทย์ ยังได้เจอ ‘ต้นกัญชา’ ที่ถูกห่อใส่ถุงเป็นอย่างดี โดยหญิงวัยกลางคนที่เป็นเจ้าของต้นกัญชา เธอบอกว่าจะนำต้นกัญชากลับไปปลูกที่บ้านต่างจังหวัด เพื่อหวังใช้รักษาอาการจากโรคเบาหวาน โดยชูวิทย์ ได้แนะนำหญิงคนนี้กลับไปว่าควรปรึกษาแพทย์แผนปัจจุบันก่อนว่าใช้กัญชารักษาดีหรือไม่
นอกจากนี้ชูวิทย์ ยังได้เดินไปที่ชานชลา และพบกับรถโดยสารที่จะเดินทางไป จ.บุรีรัมย์ โดย ชูวิทย์ ได้โบกรถ เพื่อขอให้รถหยุดและติดสติกเกอร์ต่อต้านกัญชาที่บริเวณหน้ารถ และได้ขึ้นไปพูดคุยกับพนักงานขับรถและผู้โดยสาร โดยพนักงานขับรถและผู้โดยสารได้ ชวนให้ชูวิทย์ไปที่เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่ง ชูวิทย์ ได้ตอบกลับว่าไปแน่นอน
ก่อนเดินทางกลับ ชูวิทย์ ย้ำว่าเขาจะรณรงค์ต่อต้านกัญชาไปจนถึงวันเลือกตั้ง และในช่วงเทศกาลสงกรานต์อาจจะไปปรากฏตัวตามจุดจัดงานต่างๆ เช่น ถนนข้าวสาร และหลังจากสงกรานต์เขาจะเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านกัญชา โดยเริ่มจากสามจังหวัดชายแดนใต้ก่อน และจะไล่ขึ้นมาขึ้นมาเรื่อยๆ