หลัง ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์’ ออกมาแฉว่า ‘สารวัตร ซัว’ แห่ง ‘เป็นต่อกรุ๊ป’ คือเจ้าของบ่อนพนันรายใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของไทย ใหญ่กว่าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ‘มาเก๊า 888’ แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ‘สารวัตรซัว’ คือใครและมีขุมทรัพย์ที่อยู่ในมือมากน้อยแค่ไหน ทีมข่าว SPACEBAR จะพามาทำความรู้จักกับเขาคนนี้ให้มากขึ้น
‘สารวัตรซัว’ หรือ ‘พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล’ ปัจจุบันตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง รับเงินเดือน (ระดับ) ส.3 ขั้น 14 เงินเดือน 32,450 บาท ซึ่งตอนนี้เขากำลังถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณีละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกัน เกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งนอกจากบทบาทของการเป็นตำรวจแล้ว ยังพบว่า ‘สารวัตรซัว’ ยังทำธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ การมีชื่ออยู่ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาระดับสูง ฝ่ายบริหารกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด ขณะที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาเปิดรายชื่อกลุ่มธุรกิจ ที่ สารวัตรซัว มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 10 บริษัท คือ
1. Pentor Exchange by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด) ทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
2. PT Software by Pentor Group (บริษัท พีที ซอฟแวร์ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด) ทำธุรกิจผลิต และพัฒนาซอฟแวร์คอมพิวเตอร์
3. Pentor Property by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ พร็อพเพอร์ตี้ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์
4. Pentor Entertainment by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด) ทำธุรกิจสถานบันเทิง เช่น Tomorrowland Exclusive lounge, Dubai Luxury Club
5. Snocko Technology (บริษัท สน็อคโค เทคโนโลยี จำกัด) ทำธุรกิจผลิตบุคลากรวงการคอมพิวเตอร์
6. AMB Games (บริษัท เอเอ็มบีเกมส์ จำกัด) ทำธุรกิจให้บริการเกมส์ออนไลน์
7. Esyms ทำธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มเภสัชกรออนไลน์
8. สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด
9. มูลนิธิ เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด
10. บริษัท ลาลิซ่า 2020 จำกัด ทำอาบอบนวด ‘ลาลิซ่า’ (ซื้อต่อมาจากกำพล วิคตอเรีย)
นอกจากนี้หากย้อนดูข่าวที่เกี่ยวกับ เครือข่ายพนันของ ‘เป็นต่อ’ พบว่ามีการพูดถึงในหน้าข่าว ตั้งแต่ช่วงปี 64 อย่างน้อย 3 สำนักข่าว คือ เดลินิวส์ เนชั่น และ พีพีทีวี จากข้อมูลที่ได้พบว่า ‘สารวัตรซัว’ มีอีกชื่อหนึ่ง คือ ‘เป็นต่อ’ โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.64 ‘สันธนะ ประยูรรัตน์’ อดีตตำรวจสันติบาล เคยยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ในขณะนั้น ให้จับกุมเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายเป็นต่อ หรือ สารวัตรซัว กลุ่มของนายเอ็ดดี้หรือพันณรงค์ และกลุ่มของนายชัย ฟันเหล็ก หรือบุญชัย
ไม่เพียงเท่านี้ สันธนะ ยังเคยอ้างว่าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่รู้จักในวงการ มี 2 เครือข่าย คือ เอ็ดดี้ และ เป็นต่อ ทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์อ้างเป็นลูกบุญธรรมของ ‘บิ๊กตำรวจ’ ที่เกษียณราชการไปแล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงตัว 2 คนนี้ได้ เพราะมีคนมีสียศใหญ่คอยดูแลทั้งสองคน แลกกับการจ่ายส่วยมหาศาลเป็นรายเดือน
‘สารวัตรซัว’ หรือ ‘พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล’ ปัจจุบันตำแหน่ง สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สังกัดกองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง รับเงินเดือน (ระดับ) ส.3 ขั้น 14 เงินเดือน 32,450 บาท ซึ่งตอนนี้เขากำลังถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง กรณีละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อกัน เกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งนอกจากบทบาทของการเป็นตำรวจแล้ว ยังพบว่า ‘สารวัตรซัว’ ยังทำธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือ การมีชื่ออยู่ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาระดับสูง ฝ่ายบริหารกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด ขณะที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้ออกมาเปิดรายชื่อกลุ่มธุรกิจ ที่ สารวัตรซัว มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 10 บริษัท คือ
1. Pentor Exchange by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด) ทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
2. PT Software by Pentor Group (บริษัท พีที ซอฟแวร์ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด) ทำธุรกิจผลิต และพัฒนาซอฟแวร์คอมพิวเตอร์
3. Pentor Property by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ พร็อพเพอร์ตี้ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงที่อยู่อาศัย และเชิงพาณิชย์
4. Pentor Entertainment by Pentor Group (บริษัท เป็นต่อ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ บาย เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด) ทำธุรกิจสถานบันเทิง เช่น Tomorrowland Exclusive lounge, Dubai Luxury Club
5. Snocko Technology (บริษัท สน็อคโค เทคโนโลยี จำกัด) ทำธุรกิจผลิตบุคลากรวงการคอมพิวเตอร์
6. AMB Games (บริษัท เอเอ็มบีเกมส์ จำกัด) ทำธุรกิจให้บริการเกมส์ออนไลน์
7. Esyms ทำธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มเภสัชกรออนไลน์
8. สหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด
9. มูลนิธิ เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด
10. บริษัท ลาลิซ่า 2020 จำกัด ทำอาบอบนวด ‘ลาลิซ่า’ (ซื้อต่อมาจากกำพล วิคตอเรีย)
นอกจากนี้หากย้อนดูข่าวที่เกี่ยวกับ เครือข่ายพนันของ ‘เป็นต่อ’ พบว่ามีการพูดถึงในหน้าข่าว ตั้งแต่ช่วงปี 64 อย่างน้อย 3 สำนักข่าว คือ เดลินิวส์ เนชั่น และ พีพีทีวี จากข้อมูลที่ได้พบว่า ‘สารวัตรซัว’ มีอีกชื่อหนึ่ง คือ ‘เป็นต่อ’ โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.64 ‘สันธนะ ประยูรรัตน์’ อดีตตำรวจสันติบาล เคยยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ในขณะนั้น ให้จับกุมเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายเป็นต่อ หรือ สารวัตรซัว กลุ่มของนายเอ็ดดี้หรือพันณรงค์ และกลุ่มของนายชัย ฟันเหล็ก หรือบุญชัย
ไม่เพียงเท่านี้ สันธนะ ยังเคยอ้างว่าเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ที่รู้จักในวงการ มี 2 เครือข่าย คือ เอ็ดดี้ และ เป็นต่อ ทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์อ้างเป็นลูกบุญธรรมของ ‘บิ๊กตำรวจ’ ที่เกษียณราชการไปแล้ว แต่ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงตัว 2 คนนี้ได้ เพราะมีคนมีสียศใหญ่คอยดูแลทั้งสองคน แลกกับการจ่ายส่วยมหาศาลเป็นรายเดือน