เป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ที่คณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ‘พล.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล’ กับพวกรวม 5 คน ที่มี ‘พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิชย์’ รอง ผบ.ตร. เป็นประธานได้ประชุมกำหนดกรอบการทำงานนัดแรกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดเรียก ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ กับพวกมารับข้อกล่าวหาวินัยร้ายแรงในวันนี้ ( 7 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม
โดยบรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบว่ามีผู้สื่อข่าวจากหลายสำนักมาปักหลักรอทำข่าวท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายไม่พบว่า ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ เดินทางมาแต่อย่างใด

จากนั้นสื่อมวลชนหลายสำนักพยายามโทรศัพท์หา ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ เพื่อสอบถามว่าจะเข้ามาตามนัดหมายหรือไม่ แต่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ไม่รับสาย ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถาม ‘พล.ต.อ.สราวุฒิ’ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ตอบเพียงว่า ขณะนี้ติดธุระอยู่ ก่อนจะตัดสายไป โดยคณะกรรมการสอบวินัยฯ ที่ปรากฏตัวให้สื่อมวลชนได้เห็นในช่วงเช้าที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารด้านหน้า พบว่ามีแค่ ‘พล.ต.ท.ณพวัฒน์ อารยางกูร’ รองจเรตำรวจแห่งชาติเท่านั้น

ต่อมามีรายงานว่า ‘พล.ต.อ.สุเชษฐ์’ จะเข้ามาพบคณะกรรมการฯ ในวันนี้ ก่อน 16.00 น. แต่ปรากฏว่าในเวลาประมาณ 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่าคณะกรรมการสอบวินัยเลิกประชุมแล้ว เมื่อถามว่า ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ได้เดินทางมาหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่ทราบ

จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์หาคณะกรรมการสอบฯ ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ตอบคำถามสื่อ และ ‘พล.ต.อ.สุเชษฐ์’ แต่ไม่มีใครรับสาย ขณะที่ ‘พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ’ หนึ่งในลูกน้องของ พล.ต.อ.สุเชษฐ์ ที่ได้รับการนัดหมายให้เข้ามาพบคณะกรรมการฯ วันนี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์สั้นๆ ว่า วันนี้ตัวเองได้เข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการฯ จริง แต่ไม่รู้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และคนอื่นๆ เข้ามาให้ปากคำด้วยหรือไม่ เนื่องจากคณะกรรมการนัดหมายคนละช่วงเวลา และช่วงที่ให้ปากคำก็ไม่เห็นว่ามีใครบ้าง รวมถึงไม่รู้ว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ส่งหนังสื่อขอเลื่อนวันนัดหมายหรือไม่
ส่วนรายละเอียดในการให้ปากคำ ‘พ.ต.ท.คริษฐ์’ ตอบว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับทางวินัยทั้งหมด แต่ไม่ขอให้รายละเอียดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันอย่างไรบ้าง เพราะอยู่ในสำนวน พร้อมปฏิเสธตอบคำถามว่ารู้สึกกังวลหรือไม่
สำหรับคณะกรรมการสอบวินัยฯ ชุดนี้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ได้ยื่นคำร้องคัดค้านการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง จำนวน 9 คน จาก 14 คน โดยกล่าวหาคณะกรรมการทั้ง 9 คน ขาดคุณสมบัติเนื่องจากเป็นคู่ขัดแย้งกับตัวเอง