ปิดตำนาน 77 ปี ‘ดาบวิชัย’ คนบ้าปลูกต้นไม้

27 พ.ย. 2566 - 04:54

  • ‘ดาบชัย’ ตำนานคนบ้าปลูกต้นไม้ เจ้าของวาทะ ‘ผมจะปลูกต้นไม้จนกว่าผมจะตาย’ ชายผู้ปลูกต้นไม้มานานกว่า 30 ปี รวมแล้วกว่า 2 ล้านต้น สิ้นแล้วในวัย 77 ปี

dap_wichai_tree_conservationist_died_at_the_age_of_77_years_SPACEBAR_Hero_0aecfaa0a8.jpg

เพจเฟซบุ๊ก ปลูกต้นไม้ ปลูกธรรมะ โพสต์ข้อความแจ้งข่าวการเสียชีวิตของ ‘ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ’ หรือ ‘ดาบวิชัย’ ตำนานคนบ้าปลูกต้นไม้ ที่จากไปอย่างสงบในวัย 77 ปี โดยโพสต์ดังกล่าวระบุว่า 

ขอไว้อาลัยแด่ “พ่อดาบวิชัย” 

ร้อยตำรวจตรี วิชัย สุริยุทธ 

“คนบ้าปลูกต้นไม้” ที่พวกเรารู้จักกันดี

ตลอดชีวิตของท่าน ได้ปลูกต้นไม้ มากกว่าสามล้านต้น และเป็นแรงบันดาลใจให้ “คนบ้าปลูกต้นไม้” รุ่นต่อ ๆ มา

แม้จนวินาทีสุดท้าย…

พ่อให้บอกทุกคนว่า 

"อย่าเซ่า ชีวิตมีอิหยังให้เฮ็ดอีกหลาย"

คุณกฤษฎาวัลย์ (พี่อ้อ) ลูกสาวของพ่อดาบ กล่าวถึง ข้อความที่ พ่อดาบวิชัย บันทึกฝากไว้ในช่วงท้ายของชีวิต ก่อนจากไปอย่างสงบ เมื่อคืนวานนี้ (๒๕ พย ๒๕๖๖) ในวัย ๗๗ ปี

Untitled_design_6_ee08f111ea.png
ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ หรือ ดาบวิชัย

— ย้อนตำนานคนบ้าปลูกต้นไม้ —

‘ร.ต.ต.วิชัย สุริยุทธ’ หรือ ‘ดาบวิชัย’ เป็นที่รู้จักกันในสังคมไทย จากการที่เขาเป็นผู้ปลูกต้นไม้มากกว่า 2,000,000 ต้น ใน อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ จนสามารถทำให้ อ.ปรางค์กู่ ที่เคยถูกจัดว่าแห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่ง ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์

‘ดาบวิชัย’ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2489 ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนทั้งหมด 6 คน พ่อแม่ของดาบวิชัยเป็นชาวนา ที่มีฐานะยากจน ขณะที่ดาบวิชัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แม่ได้เสียชีวิตลง พ่อของดาบวิชัยจึงต้องทำนาคนเดียว และตัวดาบวิชัยต้องรับจ้างทำงานสารพัด ไม่ว่าจะเป็นกรรมกรก่อสร้าง, จับกัง กระทั่งได้ศึกษาต่อที่โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย

หลังจบโรงเรียนพลตำรวจ 3 จ.นครราชสีมา ในปี พ.ศ. 2511 ‘ดาบวิชัย’ ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองศรีสะเกษ ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 ย้ายมาประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่ 

ในปี พ.ศ. 2530 จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย พบว่า อ.ปรางค์กู่ เป็นอำเภอที่ยากจนที่สุดใน จ.ศรีสะเกษ และ จ.ศรีสะเกษ ยังเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุดในประเทศไทย มีการปล้นชิงลักขโมยเป็นคดีความมากมาย ‘ดาบวิชัย’ ในฐานะผู้เติบโตมาในพื้นที่และเจ้าพนักงานสอบสวนรับรู้ถึงปัญหามาตลอด จึงเกิดความคิดที่จะพัฒนาความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ให้ดีขึ้น จากความคิดของเขา ทำให้เขาตัดสินใจปลูกต้นไม้ เนื่องจากเห็นว่าจะผลที่จะตามมาจะเป็นผลที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์ไปถึงคนรุ่นลูกรุ่นหลาน

Untitled_design_7_c95f841e19.png
ดาบวิชัย (ชายสวมหมวกสีขาว ด้านซ้าย) ร่วมปลูกต้นไม้กับชาวบ้าน ณ.โคก หนอง นา สันติศึกษาโมเดล เมื่อปี 2564 ภาพจาก : Facebook ดาบวิชัย คนบ้าปลูก

หลังจาก พ.ศ. 2531 เป็นต้นมา ทุกเช้าและหลังเลิกงานของวัน ‘ดาบวิชัย’ จะขับจักรยานยนต์ ตระเวนปลูกต้นไม้ไปตามพื้นที่ต่างๆ ใน อ.ปรางค์กู่ โดยระยะแรก ในสายตาชาวบ้านเขาถูกมองว่าเป็นคนบ้า แม้ว่าจะถูกสังคมมองไปในทางเช่นนั้น เขาก็ยังคงปลูกต้นไม้อยู่เรื่อยไป

พ.ศ. 2541 เป็นต้นมา สังคมเริ่มเห็นผลจากการปลูกต้นไม้ของเขา เกิดโครงการปลูกต้นไม้ในที่สาธารณะเพื่อส่วนรวมเกิดขึ้น ได้แก่ รณรงค์ปลูกต้นยางนา เพื่อเอาไว้สร้างบ้านเรือน รณรงค์ปลูกต้นตาล ซึ่งเป็นพืชสารพัดประโยชน์ รณรงค์ปลูกต้นคูน ต้นไม้ประจำภาคอีสานและประจำชาติไทย และ รณรงค์ให้เปลี่ยนการทำนาปีเป็นไร่นาสวนผสม จน อ.ปรางค์กู่ กลายเป็นอำเภอที่อุดมสมบูรณ์ อีกทั้งต้นไม้ที่เขาปลูกนั้นสามารถสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในอำเภอได้

พ.ศ. 2543 ประชาคม อ.ปรางค์กู่ ทั้ง 10 ตำบล ได้พร้อมใจกันลงมติให้ใช้ 4 โครงการรณรงค์ดังกล่าวเป็นคำขวัญของ อำเภอปรางค์กู่ ที่ว่า “ปรางค์กู่อยู่ในป่ายางกลางดงตาล บานสะพรั่งดอกคูน บริบูรณ์ไร่นาสวนผสม”

ต่อมาในปี พ.ศ. 2548 ‘ดาบวิชัย’ ได้รับพระราชทานยศเป็นกรณีพิเศษ เป็น ‘ร้อยตำรวจตรี’ จากการอุทิศตนต่อประเทศชาติ จนเกษียณอายุราชการ ในปี พ.ศ. 2549 ขณะดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอปรางค์กู่

— วาทะแห่งตำนาน —

ผมว่าโลกของวัตถุเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้นแหละครับ ความสุขที่แท้จริง ก็อยู่กับธรรมชาติ และรู้จักเคารพธรรมชาติ ต้นไม้นี่ผมจะต้องปลูก ปลูกไปเรื่อย ๆ ปลูกจนกว่าจะตาย -  ร.ต.ต. วิชัย สุริยุทธ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์