เครือข่ายแพทย์ฯ หนุนนำ ‘กัญชา’ กลับเป็นยาเสพติด

13 พ.ค. 2567 - 03:06

  • เครือข่ายแพทย์ฯ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง ‘นายกฯ’ หนุนนำ ‘กัญชา’ กลับไปเป็นยาเสพติด

  • เครือข่ายกัญชาฯ เตรียมบุก ‘สธ.’ 16 พ.ค.นี้ ค้านนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

doctors-network-supports-bringing-marijuana-back-to-being-a-drug-SPACEBAR-Hero.jpg

เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชน ต้านภัยยาเสพติด ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องสนับสนุนให้นำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท 5 โดยมีเนื้อหาว่า

ตามที่เป็นข่าววันที่ 8 พ.ค. 2567 ว่านายกรัฐมนตรีมอบนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดแก่ผู้เกี่ยวข้อง อาทิ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยขอให้แก้ไขปัญหายาเสพติดและนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น 

โดยกำหนดไทม์ไลน์การดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้นั้น เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชน ต้านภัยยาเสพติด ขอสนับสนุนนโยบายนี้ด้วยเหตุผล 6 ประการ คือ 

1.การปลดกัญชาเสรีด้วยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนมติคณะกรรมการ ป.ป.ส. ที่ให้กระทรวงสาธารณสุขรอการบังคับใช้ 120 วันจนกว่าจะมีกฎหมายควบคุมกัญชาโดยเฉพาะออกมาบังคับใช้ และให้เลื่อนการการปลดกัญชาเสรีออกไปได้หากกฎหมายกัญชายังไม่แล้วเสร็จ จุดมุ่งหมายคือเพื่อต้องให้มีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิดที่ดีเพียงพอก่อน แต่กระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงเดินหน้าบังคับใช้ให้เกิดการปลดกัญชาเสรีแม้จะยังไม่มีกฎหมายกัญชาออกมาก็ตาม จึงเป็นการปลดกัญชาเสรีที่ไม่ถูกต้องชอบธรรมตามกระบวนการทางกฎหมายตั้งแต่ต้น

2.การปลดกัญชาเสรีนี้ ก่อให้เกิดสถานการณ์ “กัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศ” ทันที คือ ไม่มีมาตรการควบคุมเลยโดยสิ้นเชิง ผู้ใดจะปลูกหรือจะเสพทำได้หมดโดยไม่มีมาตรการควบคุมใดๆ (ไม่มีประเทศใดในโลกปลดกัญชาแบบนี้) ต่อมากระทรวงสาธารณสุขทยอยออกมาตรการควบคุมตามมาจำนวนหนึ่ง แต่ก็เป็นมาตรการที่ไม่มีประสิทธิผลและบังคับใช้ยาก เป็นผลให้เกิดการปลูกกัญชาทั่วประเทศทั้งแบบครัวเรือนและแบบพาณิชย์โดยไม่ต้องขออนุญาต ส่งผลให้เยาวชนเข้าถึงและเสพติดดอกกัญชาได้ง่ายจากการปลูกเอง ขโมย หรือ ได้รับจากเพื่อน ไม่มีการห้ามโฆษณากัญชาหากไม่ใช้ดอกกัญชามาทำการโฆษณา จำหน่ายชากัญชาที่ทำจากใบกัญชาทางเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และพกพากัญชาในที่สาธารณะได้ไม่จำกัดจำนวน เป็นต้น   ส่งผลให้เกิดการแพร่ระบาดของกัญชาทั่วประเทศไทย

3.การแพร่ระบาดของกัญชานี้ ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง มีผู้เสพกัญชามากขั้นทั่วประเทศ จำนวนผู้ป่วยจิตเวชเกี่ยวกับการใช้กัญชาที่เข้ารับการรักษาในหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง (แต่ข้อมูลนี้ไม่ถูกเปิดเผยอย่างเป็นทางการ) ครูและผู้ปกครองสะท้อนปัญหาเยาวชนเสพกัญชาอย่างกว้างขวางทั่วไป 

4.การนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 ด้วยการแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะทำให้กัญชากลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งอนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์อยู่แล้ว การพัฒนาให้ผู้ป่วยเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ได้ง่ายขึ้น หรือการสนับสนุนเศรษฐกิจกัญชาทางการแพทย์ เป็นสิ่งที่ทำได้โดยการออกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องและพัฒนาการบริหารจัดการการให้บริการกัญชาทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขให้ดียิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องปลดกัญชาจากการเป็นยาเสพติดในแบบที่กระทรวงสาธารณสุขในรัฐบาลก่อนทำมา ซึ่งก่อให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์ ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อประเทศในระยะยาว และทำให้สูญเสียคะแนนนิยมทางการเมืองอีกด้วย ข้อโต้แย้งของผู้ดำเนินธุรกิจกัญชาหรือผู้ที่ปลูกกัญชาแล้วว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เหตุผลในการหยุดยั้งนโยบายนำกัญชากลับไปเป็นยาเพสติด เนื่องจาก 

  • ผู้ที่ดำเนินธุรกิจต้องประเมินความเสี่ยงและรับผิดชอบการกระทำของตนเองอยู่แล้วทั้งด้านกำไรและขาดทุน  
  • หากกำหนดบทเฉพาะกาล เช่นอนุโลม 3-6 เดือน สำหรับกัญชาที่ปลูกไว้แล้ว แต่ไม่ให้ปลูกใหม่ กัญชาที่ปลูกไว้แล้วจะตายไปโดยธรรมชาติเพราะเป็นพืชล้มลุก เป็นการบรรเทาความเสียหายเชิงเศรษฐกิจที่เพียงพอแล้ว
  • รัฐบาลต้องคำนึงถึงคนทุกกลุ่ม ผู้ปลูกและผู้ดำเนินธุรกิจกัญชามีจำนวนเพียงหลักพันหรือหลักหมื่น แต่เยาวชนที่สมองถูกทำลายได้ด้วยกัญชา พ่อแม่ที่ต้องการให้ลูกเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี ครูที่ต้องสั่งสอนลูกศิษย์ พระที่ต้องสอนศีลธรรม หมอและพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วย มีจำนวนหลายสิบล้านคน   อีกทั้งนักการมืองที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลต้องไม่ให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระยะสั้น มาบดบังผลกระทบทางสังคมในระยะยาว

5.การปลดดอกกัญชาจากการเป็นยาเสพติดซึ่งเป็นผลให้ใช้กัญชาเพื่อความบันเทิงได้ เป็นการขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศ คือ อนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติด ค.ศ. 1961 ฉบับแก้ไข ที่ขณะนี้ยังคงอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ในทางการแพทย์เท่านั้น ก่อให้เกิดผลกระทบคือประเทศที่ฝ่าฝืนต่ออนุสัญญาฯนี้มีโอกาสถูกห้ามนำเข้ายารักษาอาการปวดบางประเภท (เช่น มอร์ฟีน) ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อระบบการแพทย์และผู้ป่วยอย่างมาก 

เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชน ต้านภัยยาเสพติด จึงส่งจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้มาเพื่อสนับสนุนนโยบายนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์เท่านั้น ของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ณ โอกาสนี้ และจะติดตามการทำงานของรัฐบาลในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดจนกว่าบรรลุผลต่อไป

ลงชื่อ เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ และภาคประชาชน ต้านภัยยาเสพติด

12 พฤษภาคม 2567

  1. นพ.ชาตรี บานชื่น อดีตกรรมการแพทยสภา อดีตอธิบดีกรมสุขภาพจิต และ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
  2. ดร.วิโรจน์ สุ่มใหญ่ ที่ปรึกษาคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ สหประชาชาติ
  3. ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล นักวิทยาศาสตร์ Centre for Addiction and Mental Health, Canada
  4. รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กุมารแพทย์ผู้เชียวชาญด้านการแพทย์วัยรุ่น และผู้จัดการโครงการต้นทุนชีวิต ประเทศไทย
  5. ศ.นพ.มานิต ศรีสุรภานนท์ ศาสตราจารย์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  6. ศ.นพ.ชวนันท์ ชาญศิลป์ ศาสตราจารย์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  7. พล.ต.นพ.พิชัย แสงชาญชัย ประธานชมรมจิตเวชศาสตร์การเสพติดแห่งประเทศไทย
  8. รศ.ดร.ภญ.จุฑามณี สุทธิสีสังข์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ อาจารย์ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
  9. ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย
  10. ผศ.นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ อายุรแพทย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
  11. ศ.ดร.พญ.สาวิตรี อัษณางค์กรชัย ศาสตราจารย์ สาขาระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 
  12. ผศ.ดร.อุษณีย์ พึ่งปาน ที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยยาเสพติด วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  13. ดร.วศิน พิพัฒนฉัตร อาจารย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  14. นายไฟซ้อน บุญรอด ประธานเครือข่ายภาคประชาชนป้องกันภัยยาเสพติด
  15. นายวัชรพงศ์ พุ่มชื่น นักพัฒนางานวิชาการ ศูนย์วิชาการสารเสพติดภาคเหนือ
  16. นพ.ไพศาล ปัณฑุกำพล สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทร์บรมราชชนนี
  17. นพ.วิทยา จารุพูนผล ข้าราชการบำนาญ รพ.ขอนเก่น
  18. นพ.วิโรจน์ เยาวพลกุล แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  19. นพ.วัฒนา สุพรหมจักร แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  20. พล.อ.นพ.ชูศักดิ์ สุวรรณศิริกุล แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  21. พล.อ.ท.นพ.วิศิษฏ์ ดุสิตนานนท์ แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  22. นพ.เจริญ ปฏิภาณเทวา แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  23. พญ.ภาพิส เสงี่ยมพรพาณิชย์ ข้าราชการบำนาญ
  24. พญ.อรพินธ์ พจน์พริ้ง อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  25. พล.อ.นพ.อิสสระชัย จุลโมกข์ ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ รพ.บางโพ  และอดีตผู้อำนวยการ รพ.พระมงกุฏเกล้าฯ
  26. นพ.พงษ์สันติ์ ลี้สัมพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพ รพ.หัวเฉียว
  27. นพ.ณัฐกุล แย้มประเสริฐ กลุ่มงานออร์โธปิดิกส์ รพ.มหาราชนครราชสีมา 
  28. ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม อายุรแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ และรองผู้อำนวยการ รพ.รามาธิบดี
  29. นพสรรัตน์ เลอมานุวรรัตน์ แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
  30. นพ.อธิคม สงวนตระกูล กลุ่มงานอายุรกรรม รพ.มหาราชนครราชสีมา
  31. พญ.สริฐา มหาศิริมงคล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รพ.กลาง
  32. นพ.ปฏิเวช งามวิจิตวงศ์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รพ.กลาง
  33. พญ.วิภัสรา สวัสดี นายแพทย์ชำนาญการ รพ.บุรีรัมย์
  34. นายยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC)
  35. พญ.เสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ อดีตผู้อำนวยการ รพ.มหาสารคาม
  36. นพ.เสถียร เตชะไพฑูรย์ แพทย์ รพ.บำรุงราษฎร์
  37. นายวิฑูรย์ เตชะพัฒนสุนทร Auditor บริษัทมหาชนหลายแห่ง
  38. นายวันชัย ตุลาธมุตติ วิศวกร
  39. นายชัยโรจน์ วัฒนวรรณเวชช์ เจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับกระจก
  40. นายซื่อตรง เจียมจรรยา แพทย์เกษียณ อดีตอาจารย์คณะแพทย์ รามาธิบดี
  41. พญ.ดวงเดือน ศิลปสุวรรณ แพทย์เกษียณ จบการศึกษาคณะแพทย์ศิริราชพยาบาล
  42. นพ.ธนวรรฒน์ โชติมา ศิษย์เก่าคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
  43. นพ.นคร ภิญญาวัฒน์ ศิษย์เก่าคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
  44. นพ.พรเทพ จันทวานิช ที่ปรึกษาคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
  45. พอ.นพ.ศักดิ์ชัย อติโพธิ แพทย์เกษียณ กรมการแพทย์ทหารบก
  46. พญ.สุรภี เรืองสุวรรณ อดีตผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
  47. ศ.พญ.อังกาบ ปราการรัตน์ อดีตอาจารย์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  48. พญ.กฤษณา เพ็งสา อดีตอาจารย์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล
  49. พญ.อุไภยพรรณ ลุวีระ ศิษย์เก่าคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
  50. พญ.สุนันท์ ไรวา ศิษย์เก่าคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
  51. พล.ตรี พญ.ยุพาพิญ จุลโมกข์ แพทย์เกษียณ โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กรมแพทย์ทหารบก
  52. นพ.วรพล ชีรณานนท์ ศิษย์เก่า คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล, แพทย์ รพ.สุขุมวิท
  53. พญ.กาญจนา ชัยกิตติศิลป์ ศิษย์เก่า คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล, แพทย์ รพ.กรุงเทพ
  54. พล.อ. นพ.สีมา ศุภเกษม แพทย์เกษียณ รพ.พระมงกุฏเกล้า กรมแพทย์ทหารบก
  55. ศ.เกียรติคุณ นพ.เกรียงศักดิ์ จีระแพทย์ อดีตอาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  56. ผศ.นพ.เอื้อพงศ์ จตุรธำรง อดีตรองคณบดี คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  57. พล.ท.หญิง ทิพย์สุรีย์ นาคประสิทธิ์ ข้าราชการเกษียณ รพ.พระมงกุฏเกล้า กรมแพทย์ทหารบก
  58. รศ.พญ.ชลีรัตน์ ดิเรกวัฒนชัย กรรมการและเหรัญญิก ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
  59. พล.ต.หญิงยุพาพิน จุลโมกข์ แพทย์ รพ.พระมุงกุฏเกล้า กรมแพทย์ทหารบก
  60. นพ.ภิญโญ เปลี่ยนรังษี แพทย์โรงพยาบาลเปาโล
  61. พญ.ประภาพรรณ นาควัชระ ศิษย์เก่า คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  62. พญ.รุ่งเรือง กาญจนภูมิ ศิษย์เก่า คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล
  63. นพ.สมหวัง อภิชัยรักษ์ ศิษย์เก่า คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล

ขณะที่ความเคลื่อนไหวด้านกลุ่มเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เปิดเผยว่าในวันที่ 16 พ.ค.นี้ เครือข่ายจะเดินทางไปกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคัดค้านนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขทำงานวิชาการเปรียบเทียบผลกระทบจากกัญชา บุหรี่ และสุรา ว่าทั้ง 3 อย่างนี้ สิ่งใดมีประโยชน์ มีโทษมากกว่ากัน หากผลออกมาว่ากัญชามีโทษมากกว่า ยินดีให้รัฐบาลนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด 

แต่หากกระทรวงสาธารณสุข ไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ ทางเครือข่ายอาจยกระดับการชุมนุมเป็นการปักหลักค้างคืน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์