เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี อ.ภาชี สงบแล้ว!

2 พ.ค. 2567 - 03:25

  • สงบแล้ว! เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีของกลาง ที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ได้แล้ว

  • แต่ยังพบกลุ่มควันภายในโกดัง ด้านสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบ

fire-2may2024-SPACEBAR-Hero.jpg

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 8.00 น.วันนี้ ( 2 พ.ค.) สถานการณ์เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีของกลาง ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ล่าสุดสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้วแต่ยังคงมีกลุ่มควันสีขาวคละคลุ้งอยู่ภายในโกดังเล็กน้อย และยังส่งกลิ่นเหม็นในระยะ 100 เมตร โดยพบว่า มีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขจากหลายภาคส่วนลงพื้นที่

ทั้งนี้ นิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการประสานไปยังกรมชลประทานเพื่อขอเปิดการระบายน้ำ ให้เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำรถสูบส่งน้ำระยะไกล เข้าสูบน้ำและนำรถกระเช้าดับเพลิง สูง 90 เมตร เข้ามายิงน้ำระดับสูงเพื่อฉีดจากด้านบน ลงมาสู่พื้นผิวด้านล่างตรงจุดที่ไฟไหม้บริเวณโกดัง 4 – 5 เนื่องจากด้านในโกดัง มีสารเคมีหลายชนิดและมีสารกัดก่อนชนิดเข้มข้น สามารถกัดพื้นผิวรองเท้าเสื้อผ้าขาดได้ทำให้เจ้าหน้าที่ทางภาคพื้นล่างเข้าทำงานได้ยากลำบาก

ด้าน นพ.ภานุวัฒน์ ปานเกตุ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 4 เผยเพลิงไหม้สารเคมีในพื้นที่ขณะนี้ยังคงมีการส่งกลิ่นเหม็นในระยะ 100 – 300 เมตร และทิศทางลมที่พัดพาไป ซึ่งทางสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับโรงพยาบาลภาชี ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ ให้เป็นศูนย์บัญชาการชั่วคราว ที่หน้าโรงพยาบาลภาชี และในส่วน ของโรงพยาบาลภาชี ได้มีการปิดทำการชั่วคราวส่วนผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาล มีคนไข้ทั้งหมด 35 ราย ซึ่งทางโรงพยาบาลได้จำหน่ายกลับบ้านทั้งหมด 17 รายส่วนอีก 18 ราย ได้เคลื่อนย้ายส่งรักษาต่อสามโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่โดยรอบ ได้มีจัดตั้งโรงพยาบาลสนามไว้ที่วัดโคกม่วง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนควันหรือมลพิษที่เกิดขึ้นในสภาพอากาศนั้น ได้ประสานทางกรมควบคุมมลพิษนำรถเข้ามาตรวจสภาพอากาศ ซึ่งเบื้องต้น ในสภาพอากาศ ถือว่ายังไม่เป็นอันตรายมาก แต่ในบริเวณโรงงานจุดที่เพลิงไหม้คาดว่ามีค่ามลพิษที่สูงอยู่

ด้าน นพ.ปรีชา เปรมปรี สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 4 เผยว่า หลังจากโกดังสารเคมีถูกไฟไหม้ ทำให้เกิดมีมลพิษในอากาศ จึงได้มีการนำรถตรวจสภาพอากาศเคลื่อนที่ มาจัดตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลภาชี เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าบริเวณใดมีค่าอากาศมลพิษสูงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลกระทบก็จะมีผลกระทบกับทางเดินหายใจ ระคายเคืองผิวหนังและแสบตา

สำหรับวิธีการป้องกันอันดับแรกจะต้องนำตัวเองออกจากพื้นที่ที่อันตรายและป้องกันโดยการสวมหน้ากากอนามัย ถึงแม้จะช่วยได้น้อยมาก แต่ก็ดีกว่าไม่ป้องกันเลย ล่าสุดยังไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งทางสาธารณสุข จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะส่งทีมงานลงไปยังพื้นที่ ตรวจสอบว่า มีใครได้รับผลกระทบหรือไม่ โดยเฉพาะเด็ก คนแก่ และกลุ่มผู้ป่วย เรื้อรัง เพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งบางรายอาจจะต้องเจาะเลือดเพื่อติดตามผล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เดินทางร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุไฟไหม้กากสารเคมีด้วย พบว่า กากสารเคมีที่ไหม้ไฟ ส่วนใหญ่เป็นโซลเว้นท์ ที่ใช้สำหรับชะล้างในอุตสาหกรรม เชื้อเพลิงที่ไหม้ไฟส่วนใหญ่เป็นเปลือกสายไฟฟ้าจำนวนมาก เช้าวันนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บตัวอย่างสภาพอากาศว่า มีสารตัวไหนที่เป็นอันตรายปนเปื้อนอยู่บ้าง ส่วนสาเหตุขอให้ตรวจสอบอย่างละเอียด

สำหรับการเคลื่อนย้ายกากสารเคมีทั้งหมดที่ล่าช้า อยู่ที่ขั้นตอนขบวนการข้อกฏหมายที่สั่งการให้ผู้ครอบครอง คือเจ้าของโกดัง และผู้เช่าโกดัง เข้ามาดำเนินการขนย้ายหรือเอาไปทำลายตามกระบวนการ แต่เมื่อไม่ดำเนินการรัฐต้องดำเนินการเอง จึงทำให้ล่าช้า สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ไหนจะต้องรอขออนุมัติงบประมาณปี 67 ได้มาแล้ว 6.7 ล้านบาทก็ไม่เพียงพอ ล่าสุดได้ขออนุมัติโยกงบจากราชบุรี มากำจัดกากสารเคมี ที่อำเภอภาชีก่อน เนื่องจากมีความจำเป็น ได้อนุมัติให้มาแล้วจำนวน 28 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างเขียน ทีโออาร์ ว่าจ้างผู้มาดำเนินการ แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์