มาตรการ ฟรีวีซ่า ที่รัฐบาลไทยประกาศใช้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเมืองพัทยา หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แม้มาตรการนี้จะส่งเสริมการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านความปลอดภัย และปัญหาการเข้ามาแฝงตัวทำงานผิดกฎหมาย

บุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า มาตรการฟรีวีซ่า เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวสามารถตัดสินใจเดินทางเข้ามาได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ภาคธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวได้รับประโยชน์

“อย่างไรก็ตาม แม้ฟรีวีซ่าจะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว แต่ก็มีข้อกังวลเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของมาตรการนี้ เช่น นักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยไม่มีจุดประสงค์เพื่อท่องเที่ยวจริง หรือ การพำนักเกินกำหนด โดยเฉพาะเมื่อมีการยกเลิกเอกสาร ตม.6 ทำให้ติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้วไม่มีที่พักชัดเจนได้ยากขึ้น”
— บุญอนันต์ พัฒนสิน

ธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลไทยให้ฟรีวีซ่าในหลายประเทศ ซึ่งระยะเวลา 90 วันอาจถือว่านานเกินไป เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักเดินทางมาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ การอนุญาตให้อยู่ได้นานขึ้นอาจเพิ่มโอกาสให้บางกลุ่มใช้ช่องว่างของกฎหมายในการเข้ามาทำงานแบบผิดกฎหมาย หรือกระทำความผิดอื่นๆ
ธเนศ กล่าวด้วยว่า เมืองพัทยากำลังเผชิญกับความท้าทายในการคัดกรองนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากบางกลุ่มที่เข้ามาโดยมีวัตถุประสงค์ที่ไม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ส่งผลให้โรงแรมระดับ 2-3 ดาวได้รับประโยชน์สูงสุดจากนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด ขณะที่ธุรกิจบางประเภทกลับไม่ได้รับผลประโยชน์โดยตรง
“นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับกรณี นักท่องเที่ยวจีนที่มาซื้อคอนโดในไทย แล้วปล่อยให้เช่าในกลุ่มคนจีนด้วยกันเอง ซึ่งอาจส่งผลให้ไทยไม่ได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจเท่าที่ควร รัฐบาลควรพิจารณาทั้ง ข้อดีและข้อเสียของฟรีวีซ่า และปรับระยะเวลาการอนุญาตให้เหมาะสม เช่น ลดจาก 90 วัน เหลือ 30 วัน” ธเนศ กล่าว

ลักษมัน ซิงห์ นายกสมาคมอินเดียพัทยา เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวอินเดียยังคงเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาเที่ยวพัทยาจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่สนใจสถานที่บันเทิง แหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และชายหาด ซึ่งพัทยามีครบทุกองค์ประกอบที่ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย
“อย่างไรก็ตาม สมาคมอินเดียพัทยากำลังรณรงค์ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวอินเดีย เกี่ยวกับกฎหมายและมารยาททางสังคมของไทย โดยเฉพาะในเรื่องการขับขี่รถจักรยานยนต์ การเดินทาง และการปฏิบัติตัวในพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น”
นายกสมาคมอินเดียพัทยา กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบของสมาคม พบว่า ปัญหานักท่องเที่ยวที่กระทำผิดกฎหมายในพัทยา ไม่ได้เกิดจากนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นหลัก แต่เป็นกลุ่มแรงงานจากประเทศอื่นๆ เช่น พม่า และบังกลาเทศ ดังนั้น ทางสมาคมอินเดียพัทยาจึงขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยประชาสัมพันธ์และคัดกรองนักท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขณะที่ สมจิตร บามการ์ทเนอร์ ชาวบ้านในพื้นที่กล่าวว่า นักท่องเที่ยวอินเดียไม่ได้สร้างความเดือดร้อนหรือความรำคาญให้กับชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะมาเที่ยวแบบประหยัดและใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวอินเดียที่มาเที่ยวพัทยาช่วงนี้มีจำนวนลดลง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้

ข้อเสนอแนะ: ทำอย่างไรให้ฟรีวีซ่าเป็นประโยชน์สูงสุด
- กำหนดระยะเวลาฟรีวีซ่าที่เหมาะสม – อาจลดจาก 90 วัน เหลือ 30 วัน เพื่อลดปัญหาการเข้ามาแฝงตัวทำงาน
- เพิ่มมาตรการคัดกรองนักท่องเที่ยว – ควรใช้เทคโนโลยี เช่น ระบบลงทะเบียนออนไลน์ หรือการเก็บข้อมูลที่พักอาศัย เพื่อติดตามนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา
- ฟื้นฟูระบบเอกสาร ตม.6 หรือรูปแบบอื่นที่ช่วยระบุตัวตน – เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและตรวจสอบนักท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น
- เน้นการควบคุมด้านกฎหมาย – ให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับกฎหมายไทย โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับจราจร การเช่ารถ และพฤติกรรมที่เหมาะสมในที่สาธารณะ
- สนับสนุนให้เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่น – ควรมีมาตรการที่ช่วยให้เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ ไม่ให้เกิดกรณีที่นักท่องเที่ยวมาใช้บริการจากธุรกิจที่ไม่ได้จดทะเบียนในไทย
มาตรการฟรีวีซ่าถือเป็นดาบสองคม ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ แต่ในทางกลับกัน ข้อเสียคือการขาดมาตรการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ อาจเปิดช่องให้เกิดปัญหาการเข้ามาทำงานผิดกฎหมาย และความท้าทายด้านความปลอดภัย
สิ่งสำคัญคือ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาจุดสมดุล ระหว่างการดึงดูดนักท่องเที่ยวและการควบคุมความเสี่ยง เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ทั้ง ปลอดภัย น่าเที่ยว และได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจสูงสุด

