การเมืองร้ายกว่ากัญชา? ผู้ประกอบการค้านนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

11 พ.ค. 2567 - 07:12

  • การเมืองร้ายกว่ากัญชา? ชวนฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการธุรกิจกัญชา กรณีนายกรัฐมนตรีมีแนวคิดนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

highland-case-where-government-about-to-turn-marijuana-back-into-drug-SPACEBAR-Hero.jpg

“ตอนถอดออกมามันคือการให้คุณกับคนใช่ไหมครับ แต่ตอนเอากลับเข้าไปมันคือการให้โทษกับคน มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ และผลกระทบมันเยอะมาก”

เป็นเสียงสะท้อนของ ‘รัฐพล แสนรักษ์’ ผู้ก่อตั้งเพจกัญชาชน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งร้าน Highland Cafe คาเฟ่กัญชา ที่มีทั้งเมนูอาหารและเครื่องดื่มพลังใบ ให้ความเห็นกับเราเกี่ยวกับประเด็นที่ ‘นายกรัฐมนตรี’ มีแนวคิดนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม

highland-case-where-government-about-to-turn-marijuana-back-into-drug-SPACEBAR-Photo01.jpg

‘รัฐพล’ ย้อนให้เห็นว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ก็มาจากรัฐบาลที่เป็นผู้ออกนโยบายปลดล็อกกัญชามาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว ภาคประชาชนที่เข้ามาทำธุรกิจ ก็ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด แต่อยู่ๆ พอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่จะมายูเทิร์นกลับไปทำให้กัญชากลายเป็นยาเสพติด มองว่าเป็นกระบวนการที่ไม่แฟร์และไม่ถูกต้อง  

พร้อมมองว่าการที่นายกรัฐมนตรี ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ออกมาพูดว่าทำนองว่าจะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เป็นการพูดโดยไม่ไตร่ตรอง และไม่มีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล มองว่ารัฐบาลทำงานแปลกๆ แม้จะเข้าใจว่ากัญชาเป็นเรื่องการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์ เเต่เรื่องนี้ ก็ไม่ควรเกิดขึ้น และมองว่าความไม่ชัดเจนทางการเมืองอาจจะทำร้ายประชาชนมากกว่ากัญชาเสียอีก

“กัญชาเป็นเรื่องการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่มันวุ่นวายขึ้นมาแบบนี้ ประชาชนไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนะ มันเป็นเพราะเรื่องการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์เลย จริงๆ พ.ร.บ.กัญชาฯ มันควรจะจบตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว แล้วปัญหาพวกนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะคนที่เขาเข้ามาทำเรื่องนี้อย่างถูกต้อง เขาก็ไม่ได้ผิดอะไร ”

highland-case-where-government-about-to-turn-marijuana-back-into-drug-SPACEBAR-Photo07.jpg

‘รัฐพล’ ยังอธิบายถึงสถานการณ์ธุรกิจกัญชา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หลัง ‘กัญชงและกัญชา’ ถูกถอดออกจากบัญชียาเสพติด (ยกเว้นสารสกัดของกัญชาที่มีค่า THC เกิน 0.2% ที่ยังเป็นสารเสพติดอยู่) ให้ฟังว่า ธุรกิจกัญชาได้เติบโตอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท หากมีการนำกลับไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิม เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทั้งในแง่ของอุตสาหกรรมกัญชา และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายได้ระดับครัวเรือน ที่จะมีคนตกงานเป็นจำนวนมาก หากธุรกิจกัญชาไปต่อไม่ได้ พร้อมถามว่ารัฐจะมีเงินมากพอที่จะเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบหรือไม่

อีกทั้งการที่ ‘รัฐบาลไทย’ แสดงออกถึงความไม่แน่นอนและกลับไปกลับมาเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย เชื่อว่าจะทำให้ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นและมองไทยในด้านลบมากขึ้น

“มันไม่มีทางเยียวยาได้อยู่ครับ รัฐจะเอาเงินที่ไหนมาเยียวยา จะเยียวยายังไง ได้ครบทุกคนหรือเปล่า แล้วประเด็นคือจะมาเยียวยาทำไม ถ้าคุณไม่ทำแบบนี้ ก็ไม่ต้องเยียวยา ตอนนี้เหลือขั้นตอนเดียวคือทำกฎหมายให้มันถูกต้อง มันจะควบคุมได้ง่ายกว่า”

highland-case-where-government-about-to-turn-marijuana-back-into-drug-SPACEBAR-Photo06.jpg

สำหรับทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ ‘รัฐพล’ ย้ำว่ารัฐบาลต้องเร่งทำ ‘พระราชบัญญัติกัญชาฯ’ ให้ออกมามีผลบังคับใช้โดยเร็ว เชื่อว่าหากมีการกำหนดมาตรการควบคุม บทลงโทษ และการกำหนดรูปแบบการใช้ที่ชัดเจน จะทำให้ธุรกิจกัญชาสร้างรายได้เข้ารัฐได้เป็นจำนวนมาก รวมถึงทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เพราะตัวเขาก็ไม่อยากให้มีการใช้กัญชาอย่างไม่เหมาะสมเช่นกัน

“ ทุกคนทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้านกัญชา ไม่ว่าเวทีที่ไหนก็แล้วแต่ที่เราได้คุยกัน มันห่วงเรื่องเดียวกันหมดเลย คือเราไม่อยากให้เยาวชนเข้าถึง ไม่อยากให้ตั้งร้านขายมั่วซั่ว เราไม่อยากเห็นคนมานั่งสูบในพื้นที่สาธารณะสร้างความรบกวนคนอื่น กำหนดกรอบให้ชัดเจน เพื่อจำกัดผลเสียที่จะเกิดขึ้น ”

highland-case-where-government-about-to-turn-marijuana-back-into-drug-SPACEBAR-Photo08.jpg

ส่วนการเคลื่อนไหวของเครือข่ายผู้ประกอบการธุรกิจกัญชาฯ และเครือข่ายภาคประชาชนต่อจากนี้ จะแบ่งการเคลื่อนไหวออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นฝ่ายของกลุ่มธุรกิจกัญชา ที่พร้อมรวมตัวกันฟ้องคดีแบบกลุ่มเพื่อเอาผิดรัฐบาลทันที หากมีคำสั่งนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และในส่วนของภาคประชาชนเตรียมเคลื่อนไหวยื่นหนังสื่อคัดค้านต่อกระทรวงสาธารณสุขในเร็วๆ นี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์