ชวนเยาวชนใส่ ‘ถุงยางอนามัย-ตรวจเชื้อ’ หลังพบผู้ติดเชื้อโรคเพศสัมพันธ์พุ่งสูง

4 พ.ย. 2566 - 02:00

  • กรมควบคุมโรค ห่วง เยาวชนติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงขึ้น แนะให้สวมถุงยางอนามัย และตรวจเชื้อ

HIV_and_sexually_transmitted_diseases_infected_is_rising_especially_youths_SPACEBAR_Hero_cde314edfd.jpg

หลายปีที่ผ่านมาสังคมไทย อาจประมาทเกินไปกับ ‘โรค_เอดส์’ ซึ่งก็_คือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงหลังระบาดหนัก แต่มาปีนี้คงต้องคิดใหม่ แถมมีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตามมาอีกเป็นขบวน โดยเฉพาะ ‘โรคฝีดาษลิง’ ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากทวีปแอฟริกา และระบาดไปภูมิภาคอื่น รวมถึงไทย ที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ และกลุ่มที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ‘กลุ่มเยาวชน’

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มเยาวชน โดยในปี 2565 คาดประมาณผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ 9,230 คน ซึ่งเกือบครึ่งเป็นกลุ่มอายุระหว่าง 15-24 ปี และมีสัดส่วนเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีในระบบการรักษาถึง ร้อยละ 22.4 ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2551 ที่ร้อยละ 9.5 

นอกจากนี้ยังพบผู้ติดเชื้อซิฟิลิสและหนองใน สูงถึง 14,534 คน สอดคล้องกับข้อมูลการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี ปี 2562 ที่พบว่า เยาวชนมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยครั้งล่าสุดที่มีเพศสัมพันธ์ เพียงร้อยละ 80 และใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอทุกครั้งกับแฟนและคนรักไม่ถึงร้อยละ 40

ผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงพุ่งสูง ตายจากติดเชื้อเอชไอวีร่วม

ขณะที่ผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงยังคงเพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์โรคฝีดาษลิงในประเทศไทย (ข้อมูล วันที่ 28 ตุลาคม 2566) พบ ผู้ติดเชื้อรวม 559 คน เสียชีวิต 1 คน (ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง) แบ่งเป็นชาวไทย 503 คน ชาวต่างชาติ 52 คน และไม่ระบุสัญชาติ 4 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหลากหลายทางเพศ 474 คน ในจำนวนนี้ รู้ตัวว่าติดเชื้อเอชไอวี 274 คน คิดเป็นร้อยละ 44.18 หากแบ่งตามกลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ กลุ่มอายุ 30-39 ปี จำนวน 241 คน ,อายุ 20-29 ปี จำนวน 172 คน 

ภายใน 1 สัปดาห์ ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม 2566 พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากถึง 24 ราย และเสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 24 ปี ซึ่งติดเชื้อเอชไอวี โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ มีประวัติ มีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า มีเพศสัมพันธ์กับคนรู้จัก/แฟน มีคู่นอนหลายคน สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

อาการของโรคฝีดาษลิงที่พบบ่อย ได้แก่ มีผื่น มีไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต และอาการคัน สำหรับการรักษานั้น หากผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ไม่มีโรคอื่นร่วมด้วย จะรักษาตามอาการ และสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีโรคประจำตัวร่วม เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จะให้ยาต้านไวรัส Tecovirimat (TPOXX) ซึ่งผลการรักษาส่วนใหญ่จะอาการดีขึ้น แต่มีบางรายที่ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องรุนแรงจะเสียชีวิต

การป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิง โดยสวมถุงยางอนามัยจึงไม่เพียงพอ เพราะติดเชื้อจากการสัมผัสบริเวณที่มีผื่น ตุ่มใส จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง และงดมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า

รับถุงยางฟรี ตรวจเอชไอวี-ซิฟิลิสฟรี

สำหรับการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆในประเทศไทย ที่ผ่านมากรมควบคุมโรค ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย ส่งเสริมให้วัยรุ่นและเยาวชน พกและใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับทุกคนทุกช่องทาง จะช่วยป้องกันทั้งการติดเชื้อเอชไอวี โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมอีกด้วย 

ประชาชนสามารถรับถุงยางอนามัยได้ฟรี ที่หน่วยบริการสุขภาพของรัฐ และภาคประชาสังคมทั่วประเทศ พร้อมร่วมกับเครือข่ายเยาวชน จัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจ และชวนเพื่อนใช้ถุงยางอนามัยให้เป็นเรื่องปกติทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ผ่านสื่อสังคมออนไลน์

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้วัยรุ่นและเยาวชน เข้าถึงการตรวจคัดกรองเอชไอวีและซิฟิลิส โดยสนับสนุนชุดตรวจคัดกรองเอชไอวีและซิฟิลิสแบบรู้ผลเร็วภายใน 20 นาที ให้กับ 53 จังหวัด ในปี 2565 และขยายความครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ ในปี 2566 ทำให้เกิดบริการตรวจเชิงรุกในชุมชน และสถานบริการสุขภาพอย่างทั่วถึง หากพบการติดเชื้อจะได้รับการดูแลรักษาโดยเร็ว

กรมควบคุมโรค ยังได้ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ขับเคลื่อนการตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ทำให้คนไทยทุกคนตรวจเอชไอวีด้วยตนเองฟรี โดยเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในเมนูกระเป๋าสุขภาพ และรับชุดตรวจไอวีด้วยตนเอง ที่หน่วยบริการสุขภาพของรัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ตลอดจนร้านขายยาที่ร่วมโครงการทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ส่งเสริมการจัดบริการสุขภาพที่เป็นมิตรแบบครบวงจร สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของเยาวชน ยุค 5G โดยพัฒนาศักยภาพและความร่วมมือของบุคลากรสหวิชาชีพ แกนนำเยาวชน รวมถึงเพิ่มช่องทางเพื่อให้เยาวชนเข้าถึงบริการได้สะดวก ผ่านระบบออนไลน์ เช่น ระบบลงทะเบียน บริการปรึกษา การนัดหมายและแจ้งเตือน โดยบูรณาการกับระบบบริการปกติ พร้อมเร่งขยายผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เยาวชนเข้าถึงบริการป้องกัน ดูแลรักษาได้เร็วและครอบคลุม มุ่งลดการติดเชื้อเอชไอวีและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ นำสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีของเยาวชนต่อไป

นอกจากการแนะนำให้สวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีแล้ว เว็บไซต์ Buddystation ยังแนะนำการกินเพร็พ ว่ากินให้ถูกต้อง สม่ำเสมอ = ไม่ติดเชื้อ = ไม่ดื้อยา 

สามารถค้นหาข้อมูลได้ที่ https://buddystation.ddc.moph.go.th/  facebook fanpage: buddystation หรือสอบถามสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 และกองโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 02 590 3217

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์