วันนี้ (23 ม.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทีมสอบสวนคดีนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนและคดีส่งออกตีนไก่เถื่อน ได้ประชุมหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดีและการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณาเชิญข้าราชการและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
หลังใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง ‘พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม’ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ข้อมูลที่ได้จากการสอบปากคำ ‘เฮียเก้า’ หรือ ‘หลี่ เซิ่งเจียว’ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาสำคัญคดีส่งออกตีนไก่เถื่อน ที่เข้ามอบตัวและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เมื่อวานนี้ แม้เจ้าตัวจะให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ข้อมูลที่ได้ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี โดยวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวเฮียเก้ามาให้ข้อมูลอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ได้ให้ประกันตัวไปในวงเงิน 200,000 บาท
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง ‘เฮียเก้า’ กับ ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เฮียเก้าให้ข้อมูลว่าบรรพบุรุษรุ่นปู่ของเขา และอดีตรัฐมนตรีคนดังกล่าวรู้จักกันมาตั้งแต่ที่จีน เมื่อมาไทยจึงได้มาตามหากัน ซึ่งตัวเฮียเก้าเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเมื่อ 28 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากมาท่องเที่ยวและเข้ามาหางานทำที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่วนประเด็นเรื่องนามสกุลที่ไปเกี่ยวข้องกับพี่ชายของเฉลิมชัย เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ติดใจอะไร

ส่วนสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวนจะเชิญ ‘หัวหน้ากองกรมปศุสัตว์’ และ ‘สัตวแพทย์ประจำโรงงาน’ มาให้ข้อมูลเรื่องขั้นตอนและวิธีนำเข้า-ส่งออก ตีนไก่ไปจีนเพิ่มเติม ส่วนข้าราชการระดับกำหนดนโยบายตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่
สำหรับคดีหมูเถื่อนและตีนไก่เถื่อนที่ DSI รับผิดชอบอยู่ตอนนี้ ‘พ.ต.ต.ณฐพล’ ยืนยันว่า ไม่มีแรงกดดันจากใคร และตอนนี้ไม่มีปัญหาอุปสรรคใดเข้ามาขัดขวางการทำงาน ย้ำเจ้าหน้าสืบสวนตามกรอบอำนาจที่มีและตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เตรียมเดินทางมาร้องเรียนให้ DSI ตรวจสอบเรื่องการสวมสิทธิ์กุ้งเพื่อส่งออกไปต่างประเทศว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานและเจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้