‘เจษฎา’ เชื่อถูกหลอกขาย กากแคดเมียม

18 เมษายน 2567 - 08:18

jessada-and-wanna-Kengrungruengchai-cadmium-greencop-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘เจษฎา’ เจ้าของเจแอนด์บี รับซื้อกากแคดเมียมเตรียมส่งออกลาว โวยถูกบริษัทต้นทางหลอกขาย จ่อฟ้องเรียกค่าเสียหาย ติงสื่อบิดเบือนข้อมูลพิษแคดเมียม ลั่นแคดเมียมที่ตัวเองถือครองไม่อันตราย ยันไม่ได้เป็นนอมินี-ไม่เกี่ยวการเมือง

  • ‘ตำรวจ’ เผยยังไม่พบ ‘ข้าราชการ-หน่วยงานรัฐ’ ร่วมกระทำความผิด แจง ‘ส.ก.ก้าวไกล’ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้

ประเด็นเรื่อง ‘การขนย้ายกากแร่แคดเมียม’ ซึ่งเป็นสารอันตรายออกจากบ่อฝังกลบในพื้นที่ จ.ตาก กว่า 15,000 ตัน มากระจายเก็บรักษาไว้ในที่ จ.สมุทรสาคร , จ.ชลบุรี และกรุงเทพฯ ยังคงเป็นเรื่องที่กระทรวงอุตสาหรรมต้องเร่งหาทางจัดการกับกากแร่แคดเมียมที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ขณะที่ ตำรวจ บก.ปทส. อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการขนย้ายกากแร่แคดเมียมโดยมิชอบ 

ล่าสุดวันนี้ (18 เม.ย.) ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) มีความเคลื่อนไหวจาก ‘เจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย’ กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโกดังซุกกากแคดเมียม ได้เดินทางมาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกครั้งที่ 2 หลังจากขอเลื่อนมาแล้ว 1 ครั้ง เนื่องจากเจษฎาอ้างว่าติดธุระที่ต่างจังหวัด โดยมีภรรยาและทนายความเดินทางมาด้วย

jessada-and-wanna-Kengrungruengchai-cadmium-greencop-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: แผนผังเส้นทางการขนย้ายกากเเคดเมียมออกจากโรงงานในพื้นที่ จ.ตาก

หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน ‘เจษฎา’ ได้แถลงข่าวเปิดใจกับสื่อว่า พร้อมอธิบายว่า ตัวเองได้ทำสัญญาเพื่อซื้อแร่สังกะสีจาก ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด’ โดยตั้งใจซื้อแร่สังกะสีไปทำกำไรต่อ เพราะแร่สังกะสีขายได้กิโลกรัมละ 300 กว่าบาท แต่ปกติแล้วในแร่สังกะสีจะมีกากแร่แคดเมียมปะปนอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว อีกทั้งโรงงานต้นทางก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับการถลุงเเร่สังกะสีอยู่แล้ว และมีการฝังกลบกากแร่สังกะสีไว้ในบ่อ พร้อมโรยปูนขาวและปูนพอตแลนต์ลงไปด้วย เพื่อปรับสภาพความเข้มข้นของกากแร่แคดเมียมให้ลดลง 

ส่วนกากแร่สังกะสีที่ ‘เจษฎา’ ครอบครองมี ทั้งหมด 13,800 ตัน ในจำนวนนี้มีกากแร่แคดเมียมผสมอยู่เพียง 38% เท่านั้น และจากการนำแร่ในโรงงานที่ซื้อมาไปทดสอบกับกรมวิทยาศาสตร์ พบว่ากากแร่แคดเมียมที่ตัวเองครอบครอง ไม่ใช่แคดเมียมบริสุทธิ์ เป็นเพียงกากแร่แคดเมียมผสมเท่านั้น และมีความเข้มข้นในระดับที่ไม่กระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ พร้อมตำหนิสื่อที่นำเสนอข่าวในทำนองว่ากากแร่แคดเมียมที่พบในโกดังของตัวเองอันตรายและรุนแรงกว่าความเป็นจริง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก

jessada-and-wanna-Kengrungruengchai-cadmium-greencop-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: ภาพบรรกาศการทำงานขณะขุดกากแร่ออกจากบ่อฝังกลบในพื้นที่ จ.ตาก เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ 'เจษฎา' นำมามอบให้พนักงานสอบสวน

ส่วนประเด็นที่คนในโรงงานและคนรอบโรงงานบอกว่าได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ‘เจษฎา’ เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากกากเเร่แคดเมียมที่ตัวเองครอบครองอยู่ เพราะผลตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์ชัดเจนว่ากากแร่ของเขาไม่อันตราย พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบโรงงานบริเวณโดยรอบๆ ด้วย เพื่อหาหลักฐานมายืนยันว่าผลกระทบที่เกิดขึ้น มาจากกากแร่ที่เขาครอบครองอยู่จริงหรือไม่ 

‘เจษฎา’ ยังชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดที่ได้ทำสัญญาไว้กับ  ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด’ ที่ระบุว่าเป็นซื้อเพื่อนำไปกำจัด แต่เหตุใดถึงมีการนำไปขายต่ออีกทอด โดย ‘เจษฎา’ ยอมรับว่าเนื่องจากหมุนเงินไม่ทัน และขาดสภาพคล่องจึงจำเป็นต้องนำกากแร่บางส่วนออกไปขาย ส่วนปริมาณกากแร่ที่นำมาตอนแรกหนัก 13,800 ตัน แต่กลับพบเพียง 12,000 ตันนั้น เป็นเพราะกากแร่ที่ขุดขึ้นมามีความชื้นและมีลักษณะเปียก ดังนั้นความชื้นลดลงปริมาณน้ำหนักจึงลดลง พร้อมยอมรับว่าตัวเองผิดสัญญาที่ซื้อมาเพื่อกำจัด เเต่กลับนำไปขายต่อในเอกชนรายอื่น

แต่กระบวนการประมูลและการขออนุญาตขนย้ายกากแร่จาก จ.ตาก มาพักเก็บที่ จ.สมุทรสาคร รวมถึงการยื่นขอจดใบประกอบกิจการของบริษัท ‘เจษฎา’ ยืนยันว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีใครมาเป็นที่ปรึกษา ไม่เกี่ยวกับเรื่องทุนจีนสีเทา และไม่ได้เป็นนอมินีให้ใคร

jessada-and-wanna-Kengrungruengchai-cadmium-greencop-SPACEBAR-Photo05.jpg
Photo: ภาพบรรกาศการทำงานขณะขุดกากแร่ออกจากบ่อฝังกลบในพื้นที่ จ.ตาก เป็นหนึ่งในหลักฐานที่ 'เจษฎา' นำมามอบให้พนักงานสอบสวน

‘เจษฎา’ ยังเชื่อว่าตัวเองถูกหลอกและโดนลอยแพจากบริษัทต้นทาง เพราะจากสัญญาซื้อขายที่ทำร่วมกันในรายละเอียดเรื่องการรับผิดชอบต่างๆ มีการเขียนลักษณะผูกมัดให้ตัวเองเป็นผู้รับผิดชอบเพียงผู้เดียว ส่วนเหตุผลที่ยอมเซ็นสัญญาด้วย เเม้จะเห็นความผิดปกติ ยอมรับเป็นเพราะมองเเค่เรื่องกำไรที่จะได้ และหลังเกิดเรื่องขึ้น ยอมรับเตรียมดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทต้นทางฐานทำให้เสื่อมเสีย 

อีกประเด็นที่ถูกถามถึง คือเรื่องการเตรียมขนย้ายกากแร่ออกไปยัง สปป.ลาว ‘เจษฎา’ มองว่าหากนำไปขายที่ลาวจะขายได้ในราคาที่แพงกว่าที่ขายให้ ‘นายจาง’ เพราะเดิมราคาอยู่ที่ 1.25 บาท/กิโลกรัม แต่หากขายให้บริษัทที่ลาวจะขายได้ราคา 8.25 บาท/กิโลกรัม และเรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตจากกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนกากแร่บางส่วนที่เขาครอบครองอยู่ได้นำไปหลอมบางแล้ว แต่ยังไม่เยอะมาก

jessada-and-wanna-Kengrungruengchai-cadmium-greencop-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: ‘เจษฎา เก่งรุ่งเรืองชัย’ กรรมการ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด

ขณะที่ ‘พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์’ ผบก.ปทส. เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ‘เจษฎา’ เปิดเผยว่า ได้ทำสัญญาซื้อขายกากแร่กับ ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด’ โดยให้ราคาตามน้ำหนักกิโลกรัมละ 1.25 บาท 

ยืนยันว่า การที่ ‘บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด’ นำไปขายต่อถือว่าผิดวัตถุประสงค์ในสัญญาซื้อขายเพราะบริษัทมีใบอนุญาตกำจัด และสัญญาซื้อขายระบุว่าซื้อมากำจัด โดยเจษฎาให้ดูรูปยืนยันว่ามีเครื่องมือในการกำจัด แต่ตอนนี้เครื่องมือดังกล่าวอยู่ระหว่างการซ่อมแซมทำให้ไม่สามารถกำจัดได้ 

ดังนั้นพนักงานสอบสวนต้องไปตรวจสอบว่าเครื่องจักรเพิ่มเติม เชื่อว่าวัตถุประสงค์ที่ซื้อมาจาก บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด เป็นซื้อมาเพื่อขายต่อมากกว่ากำจัดกันแน่

ส่วนที่ บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด ต้องนำกากแร่ไปฝากโกดังอื่นๆ ที่ไปตรวจพบก่อนหน้านี้เจษฎา ให้การว่าที่จัดเก็บของตัวเองไม่เพียงพอจึงต้องนำไปจัดเก็บที่อื่น ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่จำเป็นที่ต้องสอบในทางลึกอีกที

jessada-and-wanna-Kengrungruengchai-cadmium-greencop-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: ‘พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์’ ผบก.ปทส.

นอกจากนี้ ‘พล.ต.ต.วัชรินทร์’ ยังบอกว่า ‘เจษฎา’ ยืนยันว่าการขนกากแคดเมียมไม่มีการจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ  ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเจ้าหน้าที่รัฐระดับรองอธิบดีเกี่ยวข้องตอนนี้ยังไม่มีข้อมูล ส่วนการกล่าวหาใครต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน

ส่วนกรณีกระทรวงการคลังถือหุ้นใน ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์’ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์’ ไม่มีความผิดนั้นจะเกิดข้อครหาหรือไม่ ‘พล.ต.ต.วัชรินทร์’ ชี้แจงว่าเรื่องนี้มีหนังสือไปถึงอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ให้พิจารณาว่า  ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์’ มีความผิดอะไรบ้าง หากพบความผิดให้อุตสาหกรรมจังหวัดตากเป็นผู้ร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เนื่องจากตอนนี้  ‘บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์’ ยังไม่มีความผิดทางอาญาทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถดำเนินการได้

ส่วนจะต้องเขิญ ‘ส.ก.ก้าวไกล’ มาให้ข้อมูลหรือไม่ ‘พล.ต.ต.วัชรินทร์’ บอกว่าแม้จะเป็นญาติจริงแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีนี้และเจษฎาบอกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและห่างกันมานานแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์