‘พม.’ ชงร่างแก้ไข ‘ปัญหาโครงสร้างประชากร’

19 มีนาคม 2567 - 06:00

M-society-Propose-a-draft-to-solve-the-Thai-population-structure-problem-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์’ เร่งแก้ปัญหาผู้สูงอายุเพิ่มในไทย

  • ชงร่างแก้ไขปัญหาโครงสร้างประชากรเข้า ครม.-ที่ประชุมสหประชาชาติ

  • ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเยียวยา-สนับสนุนการเงินเหยื่อวัย 13 ปีถูกรุมอนาจารที่สุโขทัย

  • ขอความร่วมมือประชาชนภาคเหนือ งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง-งดเผาในที่โล่งแจ้ง เลี่ยงปัญหาฝุ่นควัน

วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจกระทรวง พม.ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า จากการประชุมเกี่ยวกับโครงสร้างประชากร เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา และสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยมี สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบในร่างพิมพ์เขียว

ขณะนี้ ทางกระทรวง พม. ได้ทำเอกสารเพื่อนำเสนอที่ประชุม ครม. ภายในปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งคาดว่าหากที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว เราจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยประชากร ในช่วงปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ 

เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า ประเทศไทยตระหนักถึงปัญหา และได้ทำเวิร์กช็อป (workshop) กับทุกภาคส่วน ทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรประชาสังคม รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ ที่ได้ระดมความคิดพิมพ์เขียว ว่าประเทศไทยควรแก้ไขปัญหาในมิติใดบ้าง

ท้ายที่สุด จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของประชากร และเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวง พม. กำลังดำเนินการในขณะนี้

ส่งเจ้าหน้าที่เข้าเยียวยา-สนับสนุนการเงินเหยื่อวัย 13 ปี ถูกรุมอนาจารที่สุโขทัย

สำหรับความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือกรณีเด็กวัย 13 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมกระทำอนาจารกว่า 10 คน ที่ จ.สุโขทัย วราวุธ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพบกับผู้ปกครอง มีนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุย และประสานไปยังโรงเรียนในพื้นที่ เพราะจะกระทบกับผลการเรียน พร้อมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีผู้กระทำผิด เยียวยาทางด้านจิตใจ รวมทั้งสนับสนุนด้านการเงินในบางส่วน เพราะกระทบกับรายได้ของครอบครัวผู้เสียหาย

M-society-Propose-a-draft-to-solve-the-Thai-population-structure-problem-SPACEBAR-Photo01.jpg

ลดเพดานอายุบทลงโทษเด็กกระทำผิด ยังไม่ใช่การแก้ปัญหา ชี้ต้องแก้ที่สภาพแวดล้อม

เมื่อถามถึงประเด็นที่หลายเหตุการณ์มีผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนเพิ่มมากขึ้น จะมีการปรับมาตรการลงโทษหรือไม่นั้น วราวุธ กล่าวว่า ประเด็นนี้เราได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการคุ้มครองเด็ก ที่สำคัญคือ เราต้องแยกเด็กออกจากความเสี่ยงให้ได้ก่อน การลงโทษเด็กหรือลดอายุเด็ก ที่ประชุมขณะนั้นยังเชื่อว่านี่ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะถ้าลดอายุลง หรือกรณีที่มีเด็กอายุต่ำลงไปอีก แต่บทลงโทษต้องดำเนินตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

พร้อมชี้ให้เห็นถึงที่สำคัญคือ การเร่งแก้ไขสภาพแวดล้อมแวดล้อมของเด็กที่ถูกกระทำและผู้ที่กระทำ โดยแบ่งเป็นสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ปลอดภัย กลุ่มที่มีความเสี่ยง และกลุ่มที่กำลังจะเป็นผู้กระทำผิด ซึ่งจะมีมาตรการแตกต่างกันไป ส่วนผู้ที่เคยกระทำความผิดแล้ว ก็จะดำเนินการตามกรอบกฏหมาย โดยมีนักสหวิชาชีพคอยประสานงานอยู่ตลอด

ส่วนที่อันตรายคือ กลุ่มที่อยู่ในความเสี่ยง จะต้องเอาเด็กเหล่านี้ออกจากสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือสังคมที่มีความเสี่ยง ที่อาจทำให้กลายเป็นผู้กระทำความผิด

วราวุธ ยืนยันว่า ทางกระทรวง พม.ดำเนินการเรื่องนี้เต็มที่ แต่ในกระบวนการยุติธรรมเราไม่เข้าไปแทรกแซง เมื่อเกิดเหตุการณ์เราก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเยียวยาจิตใจ และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระบวนการยุติธรรมเป็นฝ่ายดำเนินการ

ขอความร่วมมือประชาชนภาคเหนือ งดทำกิจกรรมกลางแจ้ง-งดเผาในที่โล่งแจ้ง เลี่ยงปัญหาฝุ่นควัน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแลกลุ่มเด็กเล็ก-ผู้สูงอายุ-คนพิการ

ส่วนการแก้ปัญหาสถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมหนักในพื้นที่ภาคเหนือ วราวุธ เปิดเผยว่า ทางกระทรวง พม. ได้ประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ให้ดูแลประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ ที่จะได้รับผลกระทบจากปริมาณฝุ่นพิษที่เพิ่มขึ้น จึงขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัย งดการออกกำลังกายและทำกิจกรรมการแจ้ง ขอให้ปิดบ้านเรือนมิดชิด และขอความร่วมมืองดการเผาในที่โล่งแจ้ง

วราวุธ ยังระบุว่า ช่วงสองวันนี้มีฝนตกลงมา จึงคาดหวังว่า ปริมาณฝุ่นในภาคเหนือจะสามารถลดลงได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์