ภายหลังจากที่ทางการไทยได้ดำเนินการตัดไฟฟ้าเมียนมา โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.ของวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 โดยงดจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเมียนมา ใน 5 จุด จากฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 2 จุด อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 2 จุด และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อีก 1 จุด เพื่อตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปราบปรามการค้ามนุษย์ และการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ตามนโยบายรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจความเคลื่อนไหวในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (5 กุมภาพันธ์ 2568) พบว่า ในฝั่งเมียนมา ทั้งเมียวดี และท่าขี้เหล็ก ไม่ได้มืดสนิทแต่อย่างใด ยังคงมีไฟฟ้าสว่างตามปกติ แต่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าอาจลดลงจากทุกๆ วันที่ผ่านมา โดยบรรยากาศในฝั่งจังหวัดเมียวดี ยังคงได้ยินเสียงปั่นไฟดังอยู่ตลอดเวลา ขณะที่บางจุดก็มีการเปิดไฟตามปกติ จากการใช้เครื่องปั่นไฟ และพลังงานโซลาร์เซลส์
ส่วนจุดสำคัญอย่าง สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ด่านฯ อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงเปิดไฟฟ้าส่องทางตามปกติ จะมีเพียงถนนเชื่อมต่อเข้าไปยังเมียนมา ที่ได้มีการปิดไฟฟ้ามืดสนิท
จากการสอบถามประชาชนในฝั่งเมียวดี ยอมรับว่ามีความกังวลใจหากไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยยังพบว่าประชาชนชาวเมียนมายังคงหลั่งไหลไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมันทุกแห่งอย่างหนาแน่น เพื่อสำรองไว้ใช้ในการปั่นไฟ และใช้ในพาหนะต่างๆ หลังจากที่ทางการไทยได้มีคำสั่งงดส่งน้ำมันไปยังประเทศเมียนมาด้วย
ส่วนบรรยากาศฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็ก ด่านฯ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย แม้จะมีการตัดกระแสไฟฟ้า แต่ได้มีการนำไฟฟ้าจาก สปป.ลาว เข้ามาทดแทน ทำให้การใช้ชีวิตของประชาชนฝั่งท่าขี้เหล็กยังคงดำเนินเป็นปกติ แต่ทั้งนี้หากน้ำมันเชื้อเพลิงหมดสต็อก จะส่งผลกระทบต่อระบบขนส่ง เนื่องจากว่าเป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเข้าไปยังเขตรัฐฉานของเมียนมา
ล่าสุด ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ได้มอบหมายให้นางมะตินติน เมียะ ประธานหอการค้าจังหวัดเมียวดี ถือหนังสือข้ามมาฝั่งไทย เพื่อนำมามอบให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่เดินทางมาติดตามการแก้ไขปัญกายาเสพติด และปัญหาแก๊งตอลเซ็นเตอร์ ที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
โดยนางมะตินติน กล่าวว่า มี 2 ประเด็นสำคัญที่ทางจังหวัดเมียวดีได้นำเสนอต่อรัฐบาลไทย คือ
1.ขอให้มีการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงมายังจังหวัดเมียวดีได้ตามปกติ ภายใต้การควบคุมของจังหวัดเมียวดี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและการขนส่งสินค้า ซึ่งในวันนี้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หมดแล้ว
2.ขอให้มีการจ่ายไฟฟ้าให้กับหน่วยงานราชการ และโรงพยาบาล ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก ผู้ป่วยกำลังขาดออกซิเจน และรอการผ่าตัด
นางมะตินติน กล่าวว่า ทางจังหวัดเมียวดี เห็นด้วยที่ทางรัฐบาลไทยปราบปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนทุกด้าน และอยากให้เข้าใจว่า การระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในพื้นที่ ‘ชเวก๊กโก’ และ ‘เคเคพาร์ค’ ทำให้เกิดผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขณะที่ อาจารย์ประจำสำนักวิชานวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สืบสกุล กิจนุกร กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นนี้ โดยมองว่า รัฐบาลยังไม่มีกรอบการทำงานอย่างชัดเจนในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ตั้งอยู่ในฝั่งเมียนมา ตรงข้ามฝั่งไทย การตัดไฟฟ้าเป็นแค่เพียงแก้ไขที่ปลายเหตุ แต่กลับส่งผลกระทบทั้งภาคสังคม และภาคเศรษฐกิจ
“สะท้อนให้เห็นว่า ทางรัฐบาลไทยยังไม่สามารถชี้ให้เห็นถึงภาพรวมของแผนการแก้ไขปัญหาทั้งระบบ แต่จำเป็นต้องออกมาแอ็คชั่น เพื่อลดแรงกดดันจากจีน กลายเป็นว่า ทำไปประเมินไป จึงมองว่า การตัดไฟฟ้า การงดส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิง ยังไม่ใช้แนวทางการแก้ไขที่จะทำให้ถอนรากถอนโคลนได้”
— สืบสกุล กิจนุกร ม.แม่ฟ้าหลวง
อ.สืบสกุล กล่าวว่า “รัฐบาลต้องจริงจังในการแก้ไขปัญหามากกว่านี้ ที่ผ่านมามีทั้งการร้องเรียนจากทุกฝ่าย แต่กลับไม่มีแผนงานใดๆ ทำให้การเดินเครื่องปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังไม่เกิดเป็นรูปธรรม”
