อีสานฝ่าวิกฤตแอนแทรกซ์! ดัน ‘ขอนแก่นฮับ’ ส่งออกเนื้อวัวสู่ตลาดเอเชีย-ยุโรป

12 พ.ค. 2568 - 03:12

  • ปศุสัตว์ขอนแก่นส่งหนังสือขอความร่วมมือเกษตรกรงดการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์

  • สมาชิกสหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูณ อ.มัญจาคีรี รับผลกระทบต้องชะลอการขนย้าย-ซื้อขาย การส่งออกวัวเนื้อยังประเทศเพื่อนบ้านในช่วง 1-3 เดือน

เอกสารขอความร่วมมือของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่นให้เกษตรกรงดการเคลื่อนย้ายโค-กระบือ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ ทำให้สมาชิกสหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูณ ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ชะลอการส่งออกวัวเนื้อขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เกษตรกรจะได้รับผลกระทบด้านการขนย้าย-ซื้อขาย ในช่วง 1-3 เดือนนี้ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเข้าสู่ภาวะปกติ


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo03.jpg

 

สุรพล วรวงษ์ ในฐานะประธานกรรมการ สหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูณ ภายใต้แบรนด์มัญจาวากิว  กล่าวว่า  ทางสหกรณ์มีการรวมกลุ่มเลี้ยงวัวมานานแล้ว ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 1,500 คน  กระจายกันอยู่ทุกจังหวัดในภาคอีสานเลี้ยงตามมาตรฐานทั้งแบบการจัดการฟาร์มให้มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม Good Farming Management หรือ GFM และการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี  Good Agricultural Practices หรือ GAP มาตรฐานการจำหน่ายในประเทศ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ครอบคลุมการผลิตสินค้าเกษตรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ ปัจจัยการผลิต การผลิต การเก็บเกี่ยว การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว การบรรจุหีบห่อ และการขนส่งการผลิต  จึงสร้างความมั่นใจให้ตลาดสหกรณ์มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ

 

“แม้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่นจะมีคำสั่งห้ามเคลื่อนย้ายวัวในระยะนี้ สำหรับสมาชิกกลุ่มสหกรณ์นั้นได้รับผลกระทบบ้าง แต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักกว่า คือเกษตรกรที่เลี้ยงวัวแบบปล่อย ไม่ได้เป็นสมาชิกของสหกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีอยู่กว่าร้อยละ 80 ขณะที่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์เลี้ยงวัวพรีเมี่ยมมีเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น จึงทำให้มีเกษตรกรเป็นจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนี้”

 

“การแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์ที่หลายคนมองว่าเป็นวิกฤติ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพเกษตรกร เชิญชวนให้เกษตรกรเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหกรณ์บริการโคเนื้อแก่นคูณ มีการปรับปรุงสายพันธุ์วัวเนื้อตามความต้องการของตลาด อาทิ พันธุ์ชาโลเร่ พันธุ์วากิว เป็นต้น”


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo06.jpg

 

สุรพล กล่าวต่อว่า สำหรับสมาชิกกลุ่มเกษตรกร1,500 คน ที่เลี้ยงสายพันธุ์วากิวแบบพรีเมี่ยม มีวัวแม่พันธุ์วากิวที่พร้อมผลิตวัวตัวกว่า 50,000 ตัว จึงมองวิกฤติครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะชวนเกษตรกรที่เลี้ยงวัวแบบพื้นบ้านเข้าสู่การเลี้ยงแบบระบบฟาร์มใหญ่ เลี้ยงแบบขังคอกตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ เกษตรกรเองจะได้ยกระดับ มีความรู้ทั้งด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี  เกิดการปรับปรุงพันธุ์ และการผลิตอาหารสัตว์ คุณภาพสูงในราคาประหยัด มีการเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิตและการตลาดโคเนื้อร่วมกับสหกรณ์ เพื่อประโยชน์การเข้าถึงความช่วยเหลือจากภาครัฐ

 

ทางสหกรณ์ดำเนินการแบบครบวงจรตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยง ฟาร์มขุน โรงเชือด และตลาด ซึ่งสินค้าที่เราส่งออกมีทั้งซาก เนื้อก้อน เนื้อชิ้นสเต็กพร้อมรับประทาน รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป ทั้งไส้กรอก ไส้เบอร์เกอร์ ฮอตด็อก ทางเอเชียส่งออกไปขายประเทศญี่ปุ่น มีตลาดยุโรปเป็นตลาดหลัก ส่วนตลาดในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการ ที่สำคัญสหกรณ์เป็นผู้กำหนดราคาขายเอง

 

“อนาคตอำเภอบ้านไผ่ ขอนแก่น จะกลางเป็นเมืองท่าการคมนาคมที่สำคัญของขอนแก่นอีกอำเภอหนึ่ง เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง จึงวางแผนเตรียมให้อำเภอมัญจาคีรี เป็นฮับเรื่องเนื้อเพื่อการส่งออกของขอนแก่น ครอบคลุมพื้นที่ภาคอีสานเพราะอยู่ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง 17 กม. ที่มองว่าสะดวกเรื่องการขนย้าย วางแผนสร้างโรงเชือด โรงตัดแต่งเนื้อสัตว์ โรงคัดบรรจุ ที่มีมาตรฐานขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เพราะระบบง่าย โดยตรวจสอบมาตรฐานการผลิตที่นี่ทั้งหมด”

 

“ถือช่วงวิกฤตเปลี่ยนให้เป็นโอกาสมาทำเรื่องวัวพรีเมี่ยมทำเรื่องเนื้อวัวมาตรฐาน เข้าร่วมโครงการปศุสัตว์ OK เพื่อสร้างมาตรฐานสินค้าคุณภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือและยอมรับแก่ผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติก็ได้บริโภคเนื้อวัวที่สะอาดปลอดภัย”


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo07.jpg

 

ด้าน กระสินธ์ คลังชำนาญ เจ้าของร้านอาหารสีก้อยฟ้าวเจ้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ข่าวการพบเชื้อแอนแทรกซ์ที่ จ.มุกดาหาร ร้านไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ที่ จ.มุกดาหาร นอกจากนี้กลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ที่นิยมบริโภคอาหารปรุงสุกมากกว่าเนื้อดิบ เมื่อมีข่าวโรคระบาดก็จะสั่งเมนูอื่นที่ไม่ใช่เนื้อแทน เช่น หมู ปลา

  


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo01.jpg


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo04.jpg

 “นอกจากนี้วัตถุดิบสำคัญอย่างเนื้อวัวที่ทางร้านใช้จะสั่งซื้อตรงจากโรงฆ่าสัตว์ที่มีการรับรองมาตรฐานของเทศบาลนครขอนแก่น ผ่านการตรวจโรคจากสัตวแพทย์ก่อนเชือดเนื้อที่ได้จะสดใหม่ทุกวัน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ เนื้อวัวที่มีการเชือดตามชุมชนต่างๆ ซึ่งไม่มีการตรวจโรคก็จะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ”


“วิธีสังเกต ถ้าเป็นเนื้อที่มาจากโรงฆ่าสัตว์ ที่ถูกกฎหมาย จะเป็นเนื้อที่แน่นกว่า สดกว่า มีสีชมพู ไม่มีรอยช้ำ ไม่เพราะเกิน 1 ชั่วโมง เนื้อมาถึงร้าน แต่ถ้าเป็นเนื้อที่ชาวบ้านเชือดกันเอง ก็จะเป็นสีซีดกว่า คล้ำ เนื่องจากใช้เวลาเชือดนานกว่าโรงฆ่าสัตว์ ยิ่งกว่านั้นหากมีรอยจุดรอยช้ำ หรือรอยจ้ำ ห้ามนำมารับประทานเด็ดขาด ต้องตรวจสอบก่อน”

 


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo02.jpg

แพทย์หญิง พุทธพร ประเสริฐสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น กล่าวว่า แม้ในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดคือ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด ยังไม่พบว่ามีการระบาดของโรค ไม่มีข้อมูลผู้ติดเชื้อหรือกลุ่มเสี่ยง แต่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จ.ขอนแก่น ก็มีมาตรการดูแล และสั่งให้เฝ้าระวัง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคแอนแทรกซ์

 

พร้อมให้ข้อมูลว่า การติดเชื้อแอนแทรกซ์ มี 3 ช่องทางหลักๆ คือ 1.ติดต่อทางผิวหนัง มีแผลถลอก ถ้าหากสัมผัสซากสัตว์หรือผิวหนังสัตว์ที่ติดเชื้อก็จะได้รับเชื้อเข้าไปด้วย โดยเริ่มแรกแผลจะเริ่มเป็นตุ่มใส และแตกออก ข้างในจะมีสะเก็ดดำๆ คล้ายบุหรี่จี้ อัตราการเสียชีวิตร้อยละ 5-20  

 

2.ติดเชื้อผ่านทางเดินอาหาร คือ การบริโภคเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อ มีโอกาสเสียชีวิตร้อยละ 60-70  และ 3.การติดเชื้อผ่านทางเดินหายใจ คือการสูดดมสปอร์เชื้อเข้าไป ลักษณะนี้เกิดขึ้นน้อย ในประเทศไทยยังไม่มีการรายงาน หากสูดดมเข้าไปจะมีอาการภายใน 60 วัน มีโอกาสเสียชีวิตสูงร้อยละ  80-90


Northeast-overcomes-anthrax-crisis- pushing-Khon Kaen-to-become-a-beef-export-hub-SPACEBAR-Photo05.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์