‘นอท พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์’ หรือ ‘นอท กองสลากพลัส’ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อชี้แจงที่มาของเส้นทางการเงิน จำนวน 39 เส้นทาง ที่ถูกเชื่อมโยงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงิน โดยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางการเงินดังกล่าว อย่างละเอียดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เขา ถูกดีเอสไอตรวจสอบเรื่องนี้
โดยใจความสำคัญของโพสต์ดังกล่าว คือ การชี้แจง ‘เส้นทางการเงินช่วงเดือนกรกฎาคม 64’ จำนวน 2 เส้นทาง รวม 53 ล้านบาท มีที่มาว่า หลังจากที่เขา ได้ฝากขายบ้าน คอนโดฯ และรถ ไปหมดแล้ว ยังต้องการเงินทุนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายหน้ากู้เงิน ที่รู้จักกัน ได้พาเขาไปหานายทุนกลุ่มหนึ่ง โดยนายทุนกลุ่มนี้ สนใจที่จะลงทุนด้วย แต่มีข้อแม้ว่าจะขอดูขั้นตอนการทำงานทั้งหมดก่อน รวมถึงขั้นตอนไปขึ้นรางวัล โดยให้ นาย อ. (อรรถกานต์) มาเป็นตัวแทนในการขึ้นเงินรางวัล ในวันที่ 3-6 สิงหาคม 2564
โดย ‘นอท’ ได้ทำสัญญามอบอำนาจ และมอบสลากถูกรางวัล จำนวน 11,481 ใบ ให้ นาย อ. ไปขึ้นเงินรางวัลที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีเลขาฯ ของตนเป็นผู้พาไปขึ้นเงิน และเป็นพา นาย อ. ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับซื้อรางวัล ของ สนง.สลาก ให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่ง หลังจาก นาย อ. นำสลากขึ้นเงินรางวัลเรียบร้อย นาย อ. ได้เช็คจาก สนง.สลากมา 2 ยอด คือ 1. ยอด 42,381,030 2. ยอด 11,207,690
หลังจากนั้น นาย อ. ได้นำเช็คเงิน ทั้ง 2 ใบ ไปที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาลง เพื่อเปลี่ยนเช็คจากชื่อของตัวเอง เป็นเช็คสั่งจ่ายในชื่อ ‘นอท พันธ์ธวัช’ ตามยอดที่ได้รับมา
แต่ นาย อ. ไม่สามารถนำเงินเข้าเช็คให้ตนได้ เนื่องจากบัญชีธนาคารของตน เป็นบัญชี ธนาคารกสิกรไทย แต่เนื่องจากติดช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ นาย อ. จึงจำเป็นต้องนำเงินเข้าเช็คให้ตน ในวันที่ 9 สิงหาคม 64 ช่วงบ่ายแทน และกว่าธนาครจะเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบการสั่งจ่ายเงินผ่านเช็ค ก็ทำให้เงินทั้ง 2 ยอด เข้าบัญชีของตนในวันถัดมา (10 ส.ค.64)
สุดท้ายหลังจากที่ทดลองระบบแล้ว ตนและกลุ่มทุนดังกล่าว ไม่สามารถตกลงร่วมงานกันได้ เนื่องจากนายทุนมองว่าความเสี่ยงสูงเกินไป
โดย ‘นอท’ ยืนยันว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ส่วนคำถามว่าทำไมตนถึงไว้ใจให้ นาย อ. เอาเงินไปขึ้นแทน คำตอบคือ 1. ตนต้องการเงินทุนมาก เพราะต้องการซื้อลอตเตอรี่มาขาย จึงจำเป็นต้องยอม 2. เลขาฯ ตนก็อยู่ด้วยตลอดเวลาจนเปลี่ยนเช็คเป็นชื่อของตน พร้อมขอให้ดูแผนผังในโพสต์ประกอบ เพื่อทำความเข้าใจ
อ่านต้นโพสต์
นอกจากนี้ ‘นอท กองสลากพลัส’ ยังโพสต์ชี้แจงว่าเนื่องจากเมื่อวานเขาติดประชุม จึงได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสาร ไปมอบให้ DSI เพิ่มเติม และยังมีเอกสารบางส่วน (3 รายการ) ที่ยังไม่ได้จากธนาคาร ที่จะนำไปมอบเพิ่มเติมหลักจากธนาคารทำสำเนาส่งให้ โดย เส้นเงิน 39 เส้น จะแบ่งเป็น ฝาก 27 ครั้ง 600 ล้าน ถอน 12 ครั้ง 400 ล้าน ส่วนเงินที่เข้าบัญชีตนจะแบ่งเป็น 1. เงินกู้จากบุคคลต่างๆ 240 ล้าน 2. เงินที่ผมได้จากการขายฝากบ้าน-คอนโดฯ 102 ล้าน 3. เงินที่ผมโอนไปมาหมุนเวียน ในบัญชีตัวเอง เพื่อใช้ในการซื้อลอตเตอรี่ 330 ล้าน 4. เงินที่ผมให้เพื่อนและบุคคลภายนอกยืม 20 ล้าน โดยเอกสารทั้งหมดยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
โดยใจความสำคัญของโพสต์ดังกล่าว คือ การชี้แจง ‘เส้นทางการเงินช่วงเดือนกรกฎาคม 64’ จำนวน 2 เส้นทาง รวม 53 ล้านบาท มีที่มาว่า หลังจากที่เขา ได้ฝากขายบ้าน คอนโดฯ และรถ ไปหมดแล้ว ยังต้องการเงินทุนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งนายหน้ากู้เงิน ที่รู้จักกัน ได้พาเขาไปหานายทุนกลุ่มหนึ่ง โดยนายทุนกลุ่มนี้ สนใจที่จะลงทุนด้วย แต่มีข้อแม้ว่าจะขอดูขั้นตอนการทำงานทั้งหมดก่อน รวมถึงขั้นตอนไปขึ้นรางวัล โดยให้ นาย อ. (อรรถกานต์) มาเป็นตัวแทนในการขึ้นเงินรางวัล ในวันที่ 3-6 สิงหาคม 2564
โดย ‘นอท’ ได้ทำสัญญามอบอำนาจ และมอบสลากถูกรางวัล จำนวน 11,481 ใบ ให้ นาย อ. ไปขึ้นเงินรางวัลที่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีเลขาฯ ของตนเป็นผู้พาไปขึ้นเงิน และเป็นพา นาย อ. ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับซื้อรางวัล ของ สนง.สลาก ให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่ง หลังจาก นาย อ. นำสลากขึ้นเงินรางวัลเรียบร้อย นาย อ. ได้เช็คจาก สนง.สลากมา 2 ยอด คือ 1. ยอด 42,381,030 2. ยอด 11,207,690
หลังจากนั้น นาย อ. ได้นำเช็คเงิน ทั้ง 2 ใบ ไปที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาลง เพื่อเปลี่ยนเช็คจากชื่อของตัวเอง เป็นเช็คสั่งจ่ายในชื่อ ‘นอท พันธ์ธวัช’ ตามยอดที่ได้รับมา
แต่ นาย อ. ไม่สามารถนำเงินเข้าเช็คให้ตนได้ เนื่องจากบัญชีธนาคารของตน เป็นบัญชี ธนาคารกสิกรไทย แต่เนื่องจากติดช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ นาย อ. จึงจำเป็นต้องนำเงินเข้าเช็คให้ตน ในวันที่ 9 สิงหาคม 64 ช่วงบ่ายแทน และกว่าธนาครจะเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบการสั่งจ่ายเงินผ่านเช็ค ก็ทำให้เงินทั้ง 2 ยอด เข้าบัญชีของตนในวันถัดมา (10 ส.ค.64)
สุดท้ายหลังจากที่ทดลองระบบแล้ว ตนและกลุ่มทุนดังกล่าว ไม่สามารถตกลงร่วมงานกันได้ เนื่องจากนายทุนมองว่าความเสี่ยงสูงเกินไป
โดย ‘นอท’ ยืนยันว่าเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน ส่วนคำถามว่าทำไมตนถึงไว้ใจให้ นาย อ. เอาเงินไปขึ้นแทน คำตอบคือ 1. ตนต้องการเงินทุนมาก เพราะต้องการซื้อลอตเตอรี่มาขาย จึงจำเป็นต้องยอม 2. เลขาฯ ตนก็อยู่ด้วยตลอดเวลาจนเปลี่ยนเช็คเป็นชื่อของตน พร้อมขอให้ดูแผนผังในโพสต์ประกอบ เพื่อทำความเข้าใจ
อ่านต้นโพสต์
นอกจากนี้ ‘นอท กองสลากพลัส’ ยังโพสต์ชี้แจงว่าเนื่องจากเมื่อวานเขาติดประชุม จึงได้มอบหมายให้ทนายความนำเอกสาร ไปมอบให้ DSI เพิ่มเติม และยังมีเอกสารบางส่วน (3 รายการ) ที่ยังไม่ได้จากธนาคาร ที่จะนำไปมอบเพิ่มเติมหลักจากธนาคารทำสำเนาส่งให้ โดย เส้นเงิน 39 เส้น จะแบ่งเป็น ฝาก 27 ครั้ง 600 ล้าน ถอน 12 ครั้ง 400 ล้าน ส่วนเงินที่เข้าบัญชีตนจะแบ่งเป็น 1. เงินกู้จากบุคคลต่างๆ 240 ล้าน 2. เงินที่ผมได้จากการขายฝากบ้าน-คอนโดฯ 102 ล้าน 3. เงินที่ผมโอนไปมาหมุนเวียน ในบัญชีตัวเอง เพื่อใช้ในการซื้อลอตเตอรี่ 330 ล้าน 4. เงินที่ผมให้เพื่อนและบุคคลภายนอกยืม 20 ล้าน โดยเอกสารทั้งหมดยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
