สั่งเข้ม! ‘ขรก.มท.’ ห้ามเมาแล้วขับ

29 ธันวาคม 2566 - 03:22

officer-ministry-of-interior-do-not-drink-ang-drive-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ‘อนุทิน’ สั่งเข้มปีใหม่นี้ ‘ข้าราชการ-เจ้าหน้าที่สังกัด-ท้องถิ่น’ ในสังกัดมท. ต้องปลอดเมาแล้วขับ ไม่ยุ่งยาเสพติด ใครฝ่าฝืนเจอโทษหนัก

  • พร้อมเผยบรรจุแต่งตั้งภรรยา ‘อส.ลำปางพลีชีพ‘ ในหน้าที่ เป็นสมาชิกกองอาสาฯแทน เพื่อดูแลช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ

ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า  เนื่องด้วยระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 66 - 1 ม.ค. 67  เป็นวันหยุดยาวเทศกาล ปีใหม่ 2567 ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อการสัญจรของประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนและอาจเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งมีการก่ออาชญากรรมหลากหลายรูปแบบในพื้นที่ต่างๆ ได้ ดังนั้น เพื่อให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สังกัดกระทรวงมหาดไทยมีส่วนสำคัญในการดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้มีนโยบายให้ทุกจังหวัดดำเนินการอย่างเข้มงวด โดยให้หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้มงวดและตรวจสอบข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัด หากพบว่ามีข้าราชการที่ดื่มแล้วขับ ขอให้ลงโทษสถานหนักอย่างเคร่งครัด ตามมาตรฐานการลงโทษทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน หรือกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น

ไตรศุลี กล่าวต่อว่า รมว.มหาดไทย ยังให้ทุกส่วนราชการภายใต้กระทรวงฯ  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตรวจสอบข้าราชการ และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ว่ามีพฤติกรรมเสพยาเสพติดหรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ หากพบว่ามีพฤติกรรมที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ให้ดำเนินการตามมาตรฐานการลงโทษทางวินัย ตามกฎหมายว่าด้วยข้าราชการพลเรือน กฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กฎหมายว่าด้วยวินัยกองอาสารักษาดินแดนและมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวดและเด็ดขาด

“รมว.มหาดไทย ให้ถือปฏิบัติตามนโยบายนี้ตั้งแต่ วันที่ 28 ธ.ค.66 เป็นต้นไป ซึ่งหากพบการกระทำผิดทั้งกรณีเมาแล้วขับ หรือมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ไปมีพฤตการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้ส่วนราชการและอปท. รายงานการดำเนินการให้กระทรวงมหาดไทยทราบทันที” ไตรศุลี กล่าว 

นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน(อส.) ยังได้เปิดเผยว่า จากกรณีที่นายหมู่ใหญ่พิสิทธิ์ สิทธิชุม สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภองาวที่ 2 ถูกคนร้ายใช้มีดแทงขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยและเสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 26ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนเองพร้อมด้วยผู้บังคับบัญชากองอาสารักษาดินแดน ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวของนายหมู่ใหญ่ พิสิทธิ์ พร้อมสั่งการให้กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปางบรรจุสั่งใช้ทายาท นายหมู่ใหญ่พิสิทธิ์ ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการเข้าเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อเป็นการสงเคราะห์และช่วยเหลือทายาทของผู้เสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษ

“ผมได้รับรายงานจากนายกองเอก ชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้บังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง ว่า กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดลำปาง ได้มีคำสั่งที่ 51/2566 ลงวันที่ 28ธ.ค.66 บรรจุสั่งใช้ สิริณญากรณ์ สิทธิชุม ภรรยา ซึ่งถือเป็นทายาทของนายหมูใหญ่พิสิทธิ์ ที่เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการ เข้าเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ประเภทประจำกอง ตำแหน่งลูกแถว สังกัด กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภองาวที่ 2 ตามข้อสั่งการของผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน” อนุทิน กล่าว

อนุทิน กล่าวด้วยว่า กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดนให้ความสำคัญในการดูแลขวัญกำลังใจของกำลังพลทุกนาย รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของกำลังพลให้สามารถสนับสนุนภารกิจตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน มีความใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะตัวของสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน หรือ สมาชิก อส. คือประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ จึงมีความเข้าใจในพื้นที่และสถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างดี ปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชาทุกระดับ โดยเฉพาะด้านการเสริมสร้างความรับรู้ความเข้าใจข้อมูลข่าวสารไปยังพี่น้องประชาชน รวมถึงภารกิจด้านการข่าว การรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนภารกิจทุกด้านเพื่อสร้างความผาสุกให้กับสังคมไทย จึงถือเป็นกำลังสำคัญในการรักษาความสงบสุขของพี่น้องประชาชนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์