ตามที่เกิดเหตุคนร้ายประทุษร้ายสามเณร ณ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันอังคาร ที่ 22 เมษายน 2568 ทำให้มีสามเณรถึงมรณภาพ 1 รูป และอาพาธ 1 รูป ความทราบตามข่าวสารที่ปรากฏแล้ว นั้น
เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงปลงธรรมสังเวชและโปรดประทานผ้าไตร 1 ไตร พร้อมไม้จันทน์ 1 ช่อ สำหรับการฌาปนกิจ พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่เจ้าภาพศพสามเณรพงษ์กร ชูมาปาน เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศล
อนึ่ง โปรดประทานเหรียญพระรูปแก่สามเณรโภคนิษฐ์ โมราศิลป์ เพื่อเป็นกำลังใจ พร้อมทั้งมีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์เท่าจำนวน 10,000 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ประทานแก่เป็นคิลานปัจจัย
ทั้งนี้ มีพระบัญชาโปรดให้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทานไปถวายแด่เจ้าคณะจังหวัดสงขลา เพื่อมอบแก่เจ้าภาพศพและสามเณรผู้อาพาธ
อนึ่ง มีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบครัว ญาติมิตรของผู้ถึงมรณภาพ ให้ทุเลาความโศก และความหม่นหมอง อีกทั้งโปรดประทานพรให้เจ้าหน้าที่ ผู้ประสบเหตุ และผู้ตระหนกเสียขวัญจงถึงพร้อมด้วยขันติ สติ และปัญญาอันเข้มแข็ง เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ความสงบร่มเย็นของชาติ และความสถาพรของพระพุทธศาสนาในราชอาณาจักรไทยให้ดำรงมั่นคงอยู่สืบไป

ขณะที่ คณะสงฆ์ ภาค 18 จังหวัดสงขลา ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ เรื่องเกิดเหตุความรุนแรงขณะสามเณรออกรับบิณฑบาตร โดยระบุว่า
เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 ได้เกิดเหตุการณ์กราดยิงคณะสามเณรของ วัดกุหร่า ตำบลเปลี่ยน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ขณะออกบิณฑบาตส่งผลให้สามเณรมรณภาพ 1 รูปคือ สามเณร พงษ์กร ชูมาปาน อายุ 16 ปีและบาดเจ็บ 1 รูป คือ สามเณรโภคนิษฐ์ โมราศิลป์ อายุ 12 ปี
คณะสงฆ์ขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งไปยังครอบครัวของผู้มรณภาพและขอให้สามเณรที่รับบาดเจ็บหายเป็นปกติโดยเร็ววัน
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวพุทธ ซึ่งคณะสามเณรดังกล่าวเป็นเยาวชนที่มีความศรัทธา ตั้งใจมาเพื่อบรรพชาในช่วงปิดภาคเรียนไม่ได้ทราบถึงปัญหาและความขัดแย้งในพื้นที่ตลอดจนไม่มีความขัดแย้งกับกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดแต่ยังคงปฏิบัติศาสนกิจในพื้นที่เป็นปกติจนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ขอให้คณะสงฆ์ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ ดำเนินการตามกฎหมายให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย หนังสือลงนามโดย พระธรรมวชิรเมธี เจ้าคณะภาค 18