15 พ.ค. 2566 ณ เวลาประมาณ 14.30 น. ‘ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ’ อดีตนักการเมือง ได้เดินทางมายัง อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล เพิ่อขอหารือกับคนในพรรค โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาที่พรรคก้าวไกล เพื่อขอให้พรรคพิจารณาถอดถอน ‘สันธนะ ประยูรรัตน์’ ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
พร้อมระบุว่าการที่สันธนะแจ้งว่า จะเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพรรค เป็นการกล่าวอ้างเพื่อหากิน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเดินทางมาตักเตือน พร้อมยืนยัน ที่มาวันนี้ทางผู้ใหญ่ของพรรคได้เชิญมาด้วยไม่ได้มาเอง
“จมูกผมไวเรื่องผีเน่าทำตัวสยอง มีนต้องเจอกับผมไม่งั้นคนพวกนี้จะเที่ยวแอบอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลไปหากิน จะเสียชื่อพรรค ซึ่งก้าวไกลเป็นพรรครุ่นใหม่ผิดหวังไม่ได้ครับ จะเอาตำรวจถูกไล่ออกราชการมาเป็นสมาชิกไม่ได้ ต้องรีบหารือ” ชูวิทย์กล่าว
ชูวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้พรรคก้าวไกลเหมือนดาวจรัสแสง แต่ถ้ามีดาวดับอย่างนายสันธนะเข้าร่วมพรรคทำไม่ได้ จึงตำเป็นต้องรีบมาเตือนให้พิจารณาด้วยความหวังดี ไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์หรือตำแหน่ง การที่พรรคได้คะแนนนำมาเป็นลำดับที่ 1 ก็ขอแสดงความยินดีด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ ตนจะเดินทางไปพบกับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน’' หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ในงานกิจกรรมขอบคุณประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อที่จะตักเตือนนายพิธาว่าอย่ารับพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล และให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเคยรับปากกับตนต่อหน้าสื่อมวลชนว่า จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรีสุดโต่ง และจะสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น
“ภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองรุ่นเก่า เล่นการเมืองแบบไดโนเสาร์ เมื่อตัดแล้วต้องตัดให้ขาด จะเอามาแปะเปื้อนไม่ได้ อนุทินมีตำแหน่งเดียวที่ควรได้ คือผู้นำฝ่ายค้าน วันนี้คนรุ่นใหม่กำลังสร้างโลกด้วยตัวเอง ลุงกลับบ้านเถอะครับอย่าคิดทำต่อหรือทำอีก ส่วนพวกสัมภเวสีก็เรียกผมได้ ผมจัดการได้” ชูวิทย์กล่าว
โดยช่วงที่ชูวิทย์เดินทางมาถึง สันธนะออกจากที่ทำการพรรคแล้ว ทำให้ไม่ได้เจอกัน ในส่วนของแกนนำพรรคก้าวไกล ได้มี รังสิมันต์ โรม ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เข้ามารับฟังข้อร้องเรียนจากชูวิทย์ โดยรังสิมันต์ ตอบว่า จะรับเรื่องทั้งสองกรณีนี้ไปหารือกับพรรค เพราะส่วนตัวไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจตรงนี้
อย่างไรก็ดี ชูวิทย์ ได้มอบเครื่องรางเป็นผ้ายันต์ให้กับ รังสิมันต์ โรม จำนวน 2 ผืน โดยอดีตนักการเมืองชื่อดังบอกว่าเอาไว้ใช้ป้องกันสัมภเวสี หวังเกาะกระแสพรรคอันดับ 1 หากิน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น เวลา 15.15 น. สันธนะทราบข่าวว่าชูวิทย์มาดักพบ จึงเดินทางกลับมายังที่ทำการพรรค โดยได้พบกับชูวิทย์ ช่วงหนึ่ง ชูวิทย์จะปรี่เข้ามาหาสันธนะ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สแตนบายไว้ต้องเข้ามาห้าม พร้อมตะโกนผ่านโทรโข่งว่า “ไปหากินกับพรรคนู้นพรรคนี้ อย่าให้เผลอก็แล้วกัน”
ทำให้นายสันธนะโต้เถียงกลับ ว่าปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามามีบทบาทในพรรคไม่ได้ โดยทั้งคู่ยั่วยุและเถียงกันเป็นเวลา 10 นาที โดยมีรังสิมันต์ ยกมือไหว้ขอร้องให้พอได้แล้ว ขอให้ใจเย็นๆ ทำให้สันธนะ ได้ขึ้นรถกลับ แต่มีแก้วกาแฟถูกเขวี้ยงใส่รถนายสันธนะแตกกระจาย ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวว่าตนไม่ได้เขวี้ยง จากนั้นทั้งคู่ได้แยกย้ายกันกลับไป
พร้อมระบุว่าการที่สันธนะแจ้งว่า จะเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพรรค เป็นการกล่าวอ้างเพื่อหากิน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเดินทางมาตักเตือน พร้อมยืนยัน ที่มาวันนี้ทางผู้ใหญ่ของพรรคได้เชิญมาด้วยไม่ได้มาเอง
“จมูกผมไวเรื่องผีเน่าทำตัวสยอง มีนต้องเจอกับผมไม่งั้นคนพวกนี้จะเที่ยวแอบอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลไปหากิน จะเสียชื่อพรรค ซึ่งก้าวไกลเป็นพรรครุ่นใหม่ผิดหวังไม่ได้ครับ จะเอาตำรวจถูกไล่ออกราชการมาเป็นสมาชิกไม่ได้ ต้องรีบหารือ” ชูวิทย์กล่าว
ชูวิทย์ กล่าวต่อว่า วันนี้พรรคก้าวไกลเหมือนดาวจรัสแสง แต่ถ้ามีดาวดับอย่างนายสันธนะเข้าร่วมพรรคทำไม่ได้ จึงตำเป็นต้องรีบมาเตือนให้พิจารณาด้วยความหวังดี ไม่ได้มาเพื่อผลประโยชน์หรือตำแหน่ง การที่พรรคได้คะแนนนำมาเป็นลำดับที่ 1 ก็ขอแสดงความยินดีด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงเย็นวันนี้ ตนจะเดินทางไปพบกับ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน’' หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ในงานกิจกรรมขอบคุณประชาชนชาวกรุงเทพฯ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อที่จะตักเตือนนายพิธาว่าอย่ารับพรรคภูมิใจไทยร่วมรัฐบาล และให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เนื่องจากก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเคยรับปากกับตนต่อหน้าสื่อมวลชนว่า จะไม่สนับสนุนกัญชาเสรีสุดโต่ง และจะสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น
“ภูมิใจไทยเป็นพรรคการเมืองรุ่นเก่า เล่นการเมืองแบบไดโนเสาร์ เมื่อตัดแล้วต้องตัดให้ขาด จะเอามาแปะเปื้อนไม่ได้ อนุทินมีตำแหน่งเดียวที่ควรได้ คือผู้นำฝ่ายค้าน วันนี้คนรุ่นใหม่กำลังสร้างโลกด้วยตัวเอง ลุงกลับบ้านเถอะครับอย่าคิดทำต่อหรือทำอีก ส่วนพวกสัมภเวสีก็เรียกผมได้ ผมจัดการได้” ชูวิทย์กล่าว
โดยช่วงที่ชูวิทย์เดินทางมาถึง สันธนะออกจากที่ทำการพรรคแล้ว ทำให้ไม่ได้เจอกัน ในส่วนของแกนนำพรรคก้าวไกล ได้มี รังสิมันต์ โรม ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เข้ามารับฟังข้อร้องเรียนจากชูวิทย์ โดยรังสิมันต์ ตอบว่า จะรับเรื่องทั้งสองกรณีนี้ไปหารือกับพรรค เพราะส่วนตัวไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจตรงนี้
อย่างไรก็ดี ชูวิทย์ ได้มอบเครื่องรางเป็นผ้ายันต์ให้กับ รังสิมันต์ โรม จำนวน 2 ผืน โดยอดีตนักการเมืองชื่อดังบอกว่าเอาไว้ใช้ป้องกันสัมภเวสี หวังเกาะกระแสพรรคอันดับ 1 หากิน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น เวลา 15.15 น. สันธนะทราบข่าวว่าชูวิทย์มาดักพบ จึงเดินทางกลับมายังที่ทำการพรรค โดยได้พบกับชูวิทย์ ช่วงหนึ่ง ชูวิทย์จะปรี่เข้ามาหาสันธนะ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สแตนบายไว้ต้องเข้ามาห้าม พร้อมตะโกนผ่านโทรโข่งว่า “ไปหากินกับพรรคนู้นพรรคนี้ อย่าให้เผลอก็แล้วกัน”
ทำให้นายสันธนะโต้เถียงกลับ ว่าปล่อยให้คนแบบนี้เข้ามามีบทบาทในพรรคไม่ได้ โดยทั้งคู่ยั่วยุและเถียงกันเป็นเวลา 10 นาที โดยมีรังสิมันต์ ยกมือไหว้ขอร้องให้พอได้แล้ว ขอให้ใจเย็นๆ ทำให้สันธนะ ได้ขึ้นรถกลับ แต่มีแก้วกาแฟถูกเขวี้ยงใส่รถนายสันธนะแตกกระจาย ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวว่าตนไม่ได้เขวี้ยง จากนั้นทั้งคู่ได้แยกย้ายกันกลับไป
