พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาชนระบุว่า มีการใช้งบประมาณของกองทุนประกันสังคมไม่ตรงเป้า ในการนำไปดูงานต่างประเทศ และนำไปทำปฏิทินว่า หลักปฏิบัติของแต่ละกระทรวงมีอยู่แล้วว่า ผู้บริหารระดับไหนโดยสารเครื่องบินในชั้นอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันมาปกติ และในฐานะเจ้ากระทรวงคือรัฐมนตรีก็ต้องเดินทางไกล แน่นอนว่า ทางปลัดกระทรวง ก็ต้องจัดชั้น First Class ให้อยู่แล้ว ส่วนในระดับของปลัดกระทรวงและอธิบดีก็จัดอยู่ในชั้น Business Class คิดว่า เป็นเรื่องปกติ การที่จะเอาเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ มาโจมตีผ่านสื่อ ก็เฉยๆ ไม่ได้เดือดร้อนและไม่ได้กังวล เพราะส่วนนี้สามารถอธิบายได้ ส่วนบอร์ดที่เดินทาง ก็ต้องดูว่า แต่ละบอร์ด มีระดับนั่งในคลาสไหนได้ ฉะนั้นในส่วนที่มีการเดินทาง ไม่ใช่ว่ากรรมการในบอร์ด จะมีพรรคใดพรรคหนึ่ง คิดว่า เมื่ออยู่บอร์ดแล้วก็ต้องมีเกือบทุกพรรค โดยเฉพาะถ้าอยู่ในกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีองค์ประกอบของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขณะที่บอร์ดประกันสังคม คงทราบอยู่แล้วว่า มาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายนายจ้าง 7 คน ลูกจ้าง 7 คน และภาครัฐอีก 7 คน
เมื่อถามว่า ขณะนี้ผู้ประกันตนมีความกังวล เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้ เพราะเป็นเงินที่ใหญ่พอสมควร พิพัฒน์ กล่าวว่า ด้วยหลักเกณฑ์ประกันสังคม สามารถนำเงินประกันสังคม มาเพื่อการบริหารจัดการ เรื่องการประชาสัมพันธ์ ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ในขณะนี้ ใช้อยู่ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ก็ขอถามว่าเราใช้เต็มเพดานแล้วหรือยัง ฉะนั้นคนที่จะออกมาพูดช่วยกรุณา ดูหลักเกณฑ์ด้วย การที่ประกันสังคมนำมาใช้แค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เราคิดว่าเป็นการพยายามประหยัดงบประมาณให้กับผู้ประกันตนแล้ว
พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดทำปฏิทิน 400 กว่าล้านบาทนั้น ถามว่า 400 กว่าล้านนั้นกี่ปี ต้องบอกว่า 8 ปี ไม่ใช่ปีเดียว 400 กว่าล้านบาท การพูดอะไรที่เป็นการเหมารวมและตีขุม ขอให้มีจรรยาบรรณในการพูด การที่จั่วหัวมาว่า 400 กว่าล้านบาท แต่ไม่ได้ดูว่ากี่ปี คิดว่า เจตนาไม่ดี ไม่เคยออกมาตอบโต้ แต่วันนี้ขอพูด ให้ผู้ประกันตนทั้งประเทศได้ทราบว่า ประกันสังคมของเรามีมาตรการ ใช้งบประมาณอย่างประหยัด
ส่วนการจัดทำปฏิทินปีละ 50 ล้าน มีความเหมาะสมหรือไม่นั้น ก็คิดว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสมและต้องดูว่าพิมพ์กี่ฉบับ การใช้ปฏิทินในการประชาสัมพันธ์ยังมีคุณค่ากับคนบางกลุ่ม ซึ่งยังมีความจำเป็น
สำหรับสายด่วนประกันสังคมที่โทรไปแล้วไม่ค่อยมีผู้รับสายนั้น พิพัฒน์ กล่าวว่า โทรไปไม่มีคนรับ ถามว่าโทรกี่ครั้ง เขาอาจจะติดสายอยู่ก็ได้ ช่วงเวลาที่มีความเดือดร้อน ทุกคนก็พยายามโทร เมื่อไม่มีการรับสาย ก็คิดว่าเขาไม่รับสาย แต่อาจจะเป็นเรื่องสายซ้อน อย่าว่าแต่ประกันสังคมเลย แต่คอลเซ็นเตอร์ส่วนอื่นๆ ก็เป็นลักษณะเดียวกัน ที่จะมีบางช่วงเวลาที่แน่นมาก ถ้าหากโทรแล้วรับทันทีก็ถือว่า วันนั้นเป็นจังหวะว่างหรือผู้นั้นโชคดีที่โทรไปแล้วว่างพอดี
“ขอให้ผู้ประกันตน สบายใจได้ว่า ประกันสังคมทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ที่สำคัญบอร์ดประกันสังคมก็มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้น คนที่ออกมาให้ข่าวกรุณาทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่พูดออกมามีข้อเท็จจริงขนาดไหน ผมไม่มีปัญหา ท่านจะมาพบผมที่กระทรวงก็ได้ จะถามในสภาฯ ก็พร้อม หรือสุดท้าย ท่านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมก็ยินดีที่จะตอบทุกคน ผมมั่นใจว่ากระทรวงแรงงานโดยเฉพาะประกันสังคมมีความโปร่งใส”
— พิพัฒน์ กล่าว
