ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงข้อสั่งการรนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องถ้อยคำเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลผลักดันให้มีร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียม และ พ.ร.บ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศสภาพฯ เพราะฉะนั้นการคำนึงชื่อในการคุ้มครองสิทธิความเท่าเทียมจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการใช้คำโดยเฉพาะคำนำหน้า โดยนายกฯ ระบุว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เมื่อประชุมกันพบว่ามีคำเรียกว่านายด่านศุลกากรที่จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสุภาพสตรี แต่นายกฯ เผลอเรียกว่า นายด่านศุลกากร ทำให้นายด่านรู้สึกอึดอัด ทำให้นายกฯ รู้สึกว่าศัพท์ที่ใช้ควรสังคายนาใหม่ ต้องไปดูเรื่องคำศัพท์ให้ดี จึงสั่งการให้ทุกหน่วยงานไปตรวจสอบชื่อตำแหน่ง เช่น สมมติตำแหน่งที่มีแต่นายอย่างเดียว แต่ปัจจุบันไม่ได้มีผู้ชายอย่างเดียวแล้ว มีสุภาพสตรีด้วย ฉะนั้นคำใช้นำหน้าในตำแหน่งต่างๆ จึงควรเป็นคำที่สอดคล้องกับนโยบายในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ
อย่างไรก็ตาม หากมีการสังคายนาคำใช้นำหน้าในตำแหน่งต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ อาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรเนื่องจากหลายตำแหน่งมีกำหนดไว้อยู่ในกฎหมายหลายฉบับ เพราะเป็นชื่อตำแหน่งตายตัว ดังนั้นอาจจะต้องมีการแก้กฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับการสังคายนาในครั้งนี้