






แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม และคณะ เดินทางมาที่โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อตรวจเยี่ยมผู้บาดเจ็บ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยมี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ สำหรับผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาตัวที่วชิรพยาบาลจำนวน 3 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากการกระโดดลงมาจากคอนโดที่พักอาศัยจำนวน 2 ราย และถูกแผ่นปูนหล่นใส่อีก 1 ราย
แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ ว่า ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งหมด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับคนไข้ทั้งหมดไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยขณะนี้ผู้ป่วยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวรักษาตัวอยู่ที่วชิรพยาบาลมี 2 ราย รายหนึ่งอยู่ห้องไอซียูอีกรายอยู่วอร์ดปกติ ซึ่งมีปัญหาคล้ายกันคือปอดรั่ว รายที่อยู่ห้องไอซียูนั้นน่าจะติดเชื้อมาก่อนเกิดเหตุการณ์ ทั้ง 2 ราย หมอบอกว่าน่าจะโอเค และมีอีกคนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์แต่มีผลกระทบเล็กน้อยโดยได้ออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางมาขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสนามไชย เพื่อดูความเรียบร้อยด้านการคมนาคมและขนส่งสาธารณะ รถไฟฟ้าใต้ดิน ภายหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อมาถึงรับฟังรายงานจาก วิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รักษาการแทนผู้ว่าฯ ซึ่งรายงานว่า เมื่อเกิดเหตุได้อพยพผู้โดยสารขึ้นไปข้างบนเพื่อความปลอดภัยโดยไม่มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ นายกฯ ยังสอบถามว่า ในวันเกิดเหตุมีส่วนใดของรถไฟฟ้าใต้ดินขัดข้องบ้าง ซึ่งได้รับรายงานว่า โครงสร้างไม่มีปัญหา มีแค่เศษฝาท่อที่อาจหลุดออกมา ซึ่งได้แก้ไขแล้ว แต่ในส่วนของรถไฟสายสีชมพูและสีเหลืองยังปิดให้บริการชั่วคราวอีก 1 วัน เพื่อตรวจสอบระบบความปลอดภัย เนื่องจากระบบค่อนข้างละเอียดและบอบบาง ซึ่งก่อนเปิดให้บริการจะทดลองวิ่งก่อน
ต่อมา นายกฯ ได้ขึ้นรถไฟใต้ดินร่วมขบวนกับประชาชน มาลงที่สถานีสีลม พร้อมทักทายประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสนใจ เมื่อมาถึงชาวต่างชาติได้เข้ามาพูดคุย โดย แพทองธาร ได้สอบถามถึงความรู้สึกเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้น แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ว่า นักท่องเที่ยวเล่าว่า เมื่อวานนี้ ตกใจนิดหน่อย แต่ตอนนี้โอเคแล้ว หลายประเทศอาจมีความคุ้นชินกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวมากกว่าเรา และเขาทราบว่า เมื่อทุกอย่างหยุดนิ่งหลายชั่วโมง ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ และเขาบอกว่า ชอบกรุงเทพฯ ที่มีความสวยงามและใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นชีวิตปกติ ไม่รู้สึกหวาดกลัว และยังสอบถามว่า มาทำอะไรที่นี่ จึงชี้แจงไปว่า มาดูเรื่องโครงสร้างตึกต่างๆ มีปัญหาหรือไม่
เมื่อถามว่า จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนอย่างไรในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู แพทองธาร กล่าวว่า อะไรที่ยังไม่เชื่อมั่น 100% เราจะปิดไว้ก่อน ซึ่งได้รับรายงานแล้วว่า ไม่มีปัญหา แต่ขอตรวจสอบก่อนให้มั่นใจ 100% ไม่เช่นนั้นจะไม่เปิด ซึ่งคาดว่า จะเปิดให้บริการได้ภายในวันที่ 30 มี.ค. เพราะเราจะไม่เอาชีวิตประชาชนมาเสี่ยง และการสอบถามความเสียหายของระบบรถไฟฟ้าไม่มีอะไรรุนแรง โดยเดินตรวจดูทั้งสายและแก้ไขเรียบร้อยแล้วทุกเส้นทาง สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้แน่นอน
ทั้งนี้ ในส่วนของท่าอากาศยาน ประชาชนสามารถเดินทางได้ปกติแล้วหรือยัง แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค. สามารถบินกลับจากจังหวัดภูเก็ตได้อย่างเรียบร้อย วันนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน ขณะที่ กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวเสริมว่า การให้บริการของสายการบินต่างๆ เป็นไปด้วยความปกติ เที่ยวบินไม่ดีเลย์ ไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด
แพทองธาร กล่าวอีกว่า ในเรื่องของการเยียวยามีกรอบอยู่แล้วโดยจะให้กรุงเทพมหานครประกาศได้เลย โดยจะต้องดูรายละเอียดกรอบและความเสียหาย มันเข้ากันหรือไม่ เช่น เรื่องน้ำท่วม ที่มีการเพิ่มกรอบการเยียวยา โดยจะให้กรุงเทพมหานครเป็นฝ่ายตรวจสอบ ยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแล
เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวมีเพียง 1 ตึกที่ถล่มลงมา แพทองธาร กล่าวว่า สงสัยเช่นนั้นเหมือนกัน ทำไมเป็นตึกเดียวที่มีปัญหา แน่นอน ไม่ปล่อย จะตามดูว่า เป็นเพราะอะไรโดยจะให้ผู้ที่มีความรู้เช่นกรมโยธาธิการและผังเมืองตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที และภายในสัปดาห์หน้าจะกลับมารายงาน โดยจะไล่ไปเลยถึงสาเหตุว่าเกิดเพราะอะไร แบบถูกรับรองโดยใคร ผ่านได้อย่างไรและมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร การทำตึกเช่นนี้ ไม่ใช่ตึกแรกในประเทศ จึงจะต้องตามดู
จากนั้น นายกฯ ได้เดินดูโครงสร้างตึกสูงย่านสีลม พร้อมระบุว่า ขอให้ดูโครงสร้างตั้งแต่เรื่องการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ เพราะได้ดูคลิปตอนตึกถล่มหลายคลิปหลายมุม และก็ผ่านเรื่องการสร้างตึกมาในภาคของธุรกิจ ก็ไม่เคยเห็นมีปัญหาเรื่องนี้ ต้องสืบให้รู้ว่า ผิดพลาดตรงไหน เพราะงบประมาณที่เคาะให้ไปตอนนั้นมันเยอะ และมีการต่ออายุเพื่อยืดเวลาในการก่อสร้าง แต่เรื่องการก่อสร้างตึกจะมีในข้อกฎหมายอยู่แล้วว่าทุกตึกในกทม. ต้องรองรับแผ่นดินไหวได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากเหตุที่เกิดขึ้นตึกส่วนใหญ่ไม่กระทบ มีแค่เรื่องลิฟท์ที่ได้รับผลกระทบ และฟังมาอีกครั้งหนึ่งว่า การสั่นของตึกสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจนายกฯได้เดินทางกลับ